สืบค้นงานวิจัย
การผลิตและการจัดการแบบแม่นยำสำหรับอ้อยโรงงาน
สุดชล วุ้นประเสริฐ - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ชื่อเรื่อง: การผลิตและการจัดการแบบแม่นยำสำหรับอ้อยโรงงาน
ชื่อเรื่อง (EN): Precision Production andManagement forIndustrial Sugarcane
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุดชล วุ้นประเสริฐ
บทคัดย่อ: การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการให้ปุ๋ยในระบบชลประทานสำหรับการผลิตอ้อย และหา แหล่งน้ำและวิธีการกักเก็บน้ำผิวดินสำหรับการผลิตอ้อย โดยแบ่งการวิจัยเป็น 2 การทดลอง ได้แก่ การทดลองที่ 1 การให้ปุ๋ยในระบบชลประทานสำหรับการผลิตอ้อยในระบบน้ำหยด ได้ทดสอบโดยใช้อ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 ใน ดิน 2 ชนิด ได้แก่ ดินร่วนปนทราย และดินร่วนเหนียวปนทราย โดยมีการให้ปุ๋ยทางระบบน้ำเปรียบเทียบกับ การให้ปุยทางดิน ดังนี้ T1: ไมให้น้ำ (control ให้ปุยทางดิน 12: ให้น้ำหยด+ให้ปุยทางดิน (N+P+K) T3: ให้น้ำ หยด+1/2ให้ปุยทางดิน+1/2ให้ปุยทางระบบน้ำ T4: ให้น้ำหยด+ให้ปุ๋ยทางระบบน้ำ ผลการทดสอบในดินร่วน ปนทราย พบว่าการปลูกอ้อยโดยช้ระบบน้ำหยดมีการเจริญเติบโตสูงกว่าการไม่ให้น้ำ และมีแนวโน้มว่าการให้ ปุยทางน้ำส่งเสริมให้อ้อยมีการเจริญเติบโตดีกว่าการให้ปุ๋ยแบบอื่น และยังพบว่าการให้ปุยทางน้ำมีผลผลิตอ้อย สูงที่สุด นอกจากนี้การให้ปุ๋ยทางน้ำทำให้อ้อยมีประสิทธิภาพการใช้น้ำชลประทานและประสิทธิภาพการใช้ปุย สูงที่สุด สำหรับผลตอบแทนในปีแรกที่มีการลงทุนระบบน้ำหยดมีค่าติดลบ ทั้งนี้เพราะการลงทุนระบบน้ำและ ระบบการให้ปุ๋ยทางน้ำเป็นการลงทุนสูงเฉพาะในปีแรก ผลตอบแทนน่าจะเป็นบวกและมีมากขึ้นในปีต่อๆ ไป เมื่อมีการไว้ตออ้อยได้ สำหรับผลการทดสอบในดินร่วนเหนียวปนทราย พบเช่นเดียวกันว่าการใช้ระบบน้ำหยด ในการปลูกอ้อยส่งผลให้อ้อยมีการเจริญเติบโตสูงกว่าการไม่ให้น้ำ และโดยเฉพาะการให้น้ำหยดร่วมกับการให้ ปุยทางน้ำพบว่าอ้อยมีองค์ประกอบผลผลิต และให้ผลผลิตสูงที่สุด รวมทั้งมีประสิทธิภาพการใช้น้ำชลประทาน และประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยสูงที่สุด นอกจากนี้การให้น้ำหยดและให้ปุยทางน้ำในดินร่วนเหนียวปนทรายนี้ยังมี ผลตอบแทนสูงที่สุดด้วย การทดลองที่ 2 ทำการศึกษาหาแหล่งน้ำและการกักเก็บน้ำทั้งน้ำผิวดิน ใต้ดิน เพื่อเป็นแหล่งน้ำให้กับ การให้น้ำอ้อยในช่วงฤดูแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ให้เพียงพอกับความต้องการของอ้อยปลูกใหม่และอ้อยตอ โดยมี ขั้นตอนการศึกษาประกอบด้วย การประมาณความต้องการใช้น้ำของอ้อย การประเมินปริมาณน้ำผิวดินและใต้ ดิน และการออกแบบการกักเก็บน้ำ กรณีน้ำผิวดินใช้ข้อมูลแผนที่ภูมิประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างน้ำฝน- น้ำท่า ในอดีต กรณีน้ำใต้ดินได้ใช้ข้อมูลแผนที่น้ำบาดาล จากบ่อบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรณีแหล่ง น้ำผิวดิน มี 2 พื้นที่เป้าหมายคือ พื้นที่ที่ 1 เป็นพื้นที่ปลูกอ้อยแปลงใหญ่ของบริษัทน้ำตาลสุรินทร์ ที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ขนาดรวม 1,313 ไร่ และพื้นที่ที่ 2 เป็นแปลงอ้อยของเกษตรกร บ้านโพนทอง ต. ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ปลูกอ้อย 104 ไร่ ผลการศึกษาได้กำหนดแผนแม่บทการพัฒนาแหล่งน้ำ ของพื้นที่ที่ 1 การขุดใหม่ หรือขยายสระกักเก็บน้ำผิวดิน จำนวน 5 สระ เพื่อดักน้ำท่ผิวดินจากฝนที่ตกในพื้นที่แปลงปลูกอ้อย 0.6 ล้น ลูกบาศก์เมตร และจากน้ำฝนที่ตกนอกพื้นที่แต่มีน้ำไหลเข้ามาผ่านพื้นที่ 0.63 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมเป็น 1.23 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันกักเก็บได้เพียง 17,000 ลูกบาศก์เมตร นำแผนไปสู่การปฏิบัติ ได้ทำโครงการ นำร่อง ออกแบบและขุดสระน้ำงานขุด 6,512 ลูกบาศก์เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุดประมาณ 53,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันได้ลงทุนโดยบริษัทฯ ดำเนินการเสร็จแล้วและกักเก็บน้ำได้แล้ว พื้นที่ที่ 2 การขุดสระกัก เก็บน้ำผิวดินใหม่ จำนวน 3 สระ เพื่อดักน้ำท่าผิวดินประมาณ 0.179 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี งานขุดรวม 30,500 ลูกบาศก์เมตร เกษตรกรได้ดำเนินการทยอยขุดแล้ว กรณีน้ำใต้ดินมี 3 พื้นที่ ของเกษตรกรใน อ.ปราสาท จ. สุรินทร์ เจาะบ่อบาดาลเพิ่ม 1 บ่อ ตามมาตร์ฐานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป่าล้างบ่อบาดาล เดิม จำนวน 3 บ่อ ผลการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาการนำน้ำบาดาลมาใช้กับอ้อยไม่ได้ผล (1) ได้น้ำน้อย เนื่องจากการพัฒนาบ่อไม่ได้ตามมาตรฐาน เช่น ไม่ได้ติดตั้ง ท่อกรองน้ำ กรวดกรุ หรือท่อกรอง ไม่ได้มาตรฐาน (2) การใช้งานระยะยาวได้น้ำน้อยลง เพราะขาดการบำรุงรักษา เช่น การเป่าทำความสะอาดบ่อ ขจัด การอุด ตันของท่อกรองน้ำ
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research was to develop fertigation systems for sugarcane production and to find water resources and water storage methods for sugarcane production. The research was divided into 2 experiments. In the first experiment, fertigation systems for sugarcane production under drip irrigation systems was evaluated. Sugarcane varieties Khon Kaen 3 was tested under 2 textured sois (sandy loam and sandy clay loam). The fertigation was compared with soil fertilizer application as follows: T1 : no irrigation + soil fertilizer application; T2: drip irrigation + soil fertilizer application; T3: drip irrigation +1/2 soil fertilizer +1/2 fertigation and T4: drip irrigation + fertigation. In sandy loam soil, it was found that sugarcane cultivation under drip irrigation systems had higher growth than that without irrigation and fertigation enhanced sugarcane growth compared to soil fertilizer application. The result also found that fertigation had the highest sugarcane yield, water and fertilizer use efficiency. For the return in the first year, the drip system investment had a negative value. This was because investing in drip irrigation and fertigation systems was a high investment only in the first year. The return should be positive and will increase in the years to come when sugar cane ratoons are maintained. The results were similar in sandy clay loam soil, drip irrigation resulted to higher sugarcane growth than no irrigation. Fertigation had the highest growth, yield and yield components and it also resulted to the highest irrigation water and fertilizer use efficiency. In addition, in this soil, drip irrigation and fertigation produced the highest return. Second experiment, water harvesting and storing for both surface and groundwater for growing sugarcane in dry season or rain delay was studied. Study step consisted of estimation of sugarcane water requirement, estimation of surface water and groundwater and design of water storage. Topographic map and the relationship between observed rainfall-runoff wer used for surface water prediction. Groundwater yield map was developed from hydraulic data of groundwater observation wells recorded by Department of Groundwater Resources. In case of surface water resources, there were 2 targeted areas, Area 1 was large sugarcane plantation belong to Surin Sugar Company at Bua Chet District, Surin Province, total area is 1,313 Rai. Area 2 was medium sugarcane plantation belong to a private planter, BanPhon Thong, Tambon Dan, Kap Choeng district, Surin province, total area was 104 Rai. Master plans were defined for water resources development in these areas. For area 1, 5 enlargement and new farm pond were proposed to collect surface runoff about 0.6 Million m3 (MCM) from inside 1,313 จ Rai and about 0.63 MCM from outside and flow through the area, totally 1.23 MCM. Existing storage was only 17,000 m3 . From the master plan to practice, a pilot project was launched to detail design and construct the farm pond with the size of excavation work of 6,512 m3 , maximum storage capacity was 53,000 m3 . Currently, this project has been invested by the company and completed to store surface water. For area 2, 3 new farm ponds were proposed to collect 0.179 MCM surface runoff, total excavation work is 30,500 m3 . Pond construction is in the progress by the area owner. In the case of groundwater resources, there were 3 targeted areas in Prasart district, Surin Province. One new groundwater well was constructed and developed based on the standard of Department of Groundwater Resources. Three existing wells were cleaned. The main causes of ineffective use of these groundwater wells were (1) low quantity of groundwater yields from below standard of well development such as no screen pipe and gravel pack, (2) lower water yields in long term due to lack of maintenance, causing screen blockage.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
คำสำคัญ: ระบบฐานความรู้
คำสำคัญ (EN): Knowledge-base system
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตและการจัดการแบบแม่นยำสำหรับอ้อยโรงงาน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
2562
เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอ้อย โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตรสำหรับเตรียมดินและสับใบเศษซากอ้อยสำหรับรถแทรกเตอร์ขนาดกลาง ความสูญเสียของอ้อยเนื่องจากหนอนด้วงหนวดยาวอ้อย ความถี่ อัตราและช่วงระยะเวลาการให้น้ำสำหรับอ้อยในเขตชลประทานภาคกลาง โครงการการเพิ่มศักยภาพการผลิตและการจัดการผลผลิตอ้อย อ้อยพันธุ์ ชัยนาท 1 การแข่งขันระหว่างแห้วหมูกับอ้อย สภาพการผลิตอ้อยโรงงานของเกษตรกรตำบลหนองโพธิ์ อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม สภาพการผลิตอ้อยโรงงานของเกษตรกรตำบลโนนราษี อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก