สืบค้นงานวิจัย
การใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยา และ RAPD ร่วมกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาเพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์
อนงค์ จีรภัทร์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยา และ RAPD ร่วมกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาเพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์
ชื่อเรื่อง (EN): Use of cytology and RAPD techniques associated with morphology to examine the difference between species of Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia and its adelphoparasite
บทคัดย่อ: การศึกษาชนิดของสาหร่ายทะเลในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาโดยใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยาเป็นหลัก โดยยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดโครงสร้างภายในเซลล์ รวมทั้งทางด้านชีวโมเลกุล โครงการวิจัยนี้ ได้ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างสาหร่ายวุ้นที่เก็บจากแหล่งต่างๆบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และอันดามัน โดยใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยาและด้วยเทคนิค RAPD ร่วมกับการตรวจวัดลักษณะทางสัณฐานวิทยา เพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์ และในการศึกษาครั้งนี้ พบตัวอย่างที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสาหร่ายเขากวาง (intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp.) ในการศึกษาครั้งนี้โครงสร้างเซลล์ของตัวอย่างสาหร่ายแต่ละชนิดตรวจวิเคราะห์โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ Light Microscope (LM) และกล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอนแบบส่องผ่าน (TEM) ในทุกตัวอย่างที่ตรวจสอบด้วยภาพถ่ายจากกล้อง LM แสดงให้เห็นชั้น deck lamella ต่อเนื่องถึงผนังเซลล์ชั้นนอก ในขณะที่ภาพถ่ายจากกล้อง TEM แสดงให้เห็นความแตกต่างของโครงสร้างภายในเซลล์สาหร่ายแต่ละชนิด โดยมีเม็ดแป้ง floridean กระจายรอบ nuclear content รายละเอียดโครงสร้างเซลล์ปกติของสาหร่ายข้อ G. salicornia ผนังเซลล์มีรูปแบบการเรียงเซลล์อย่างมีระเบียบ โครงสร้างเซลล์ปกติของสาหร่ายข้อ พบคลอโรพลาสต์ซึ่งภายในเห็นไทลาคอยด์เรียงขนานกันชัดเจน เช่นเดียวกับ pit plug ซึ่งสามารถสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจน จากภาพ TEM แสดงให้เห็นลักษณะชั้นและการเรียงเซลล์ที่แตกต่างกันระหว่างสาหร่ายเขากวาง สาหร่ายข้อ และอะเดลโฟพาราไซด์ เซลล์ที่พบพาราไซด์ การเรียงตัวของเซลล์ไม่เป็นระเบียบบริเวณเชื่อมต่อระหว่างสาหร่ายกับเซลล์พาราไซด์ ซึ่งบางส่วนพบว่ามีหลายนิวเคลียส ในขณะที่สาหร่ายเขากวาง G. changii และ Gracilaria sp. พบคลอโพลาสต์และไทลาคอยด์ที่มีรูปร่างและกระจายตัวผิดปกติ ในผนังเซลล์ชั้นคอร์เท็กซ์และเมดูลา ผลการวิเคราะห์จำแนกประเภท (Discriminant analysis) แสดงให้เห็นการจำแนกประเภทของกลุ่มตัวอย่างสาหร่าย โดยสาหร่ายเขากวาง G. changii มีความใกล้เคียงกับ intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp. ในขณะที่ G. firma, G. salicornia ถูกแยกกลุ่มออกจาก G. changii และ intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp. และการจัดกลุ่มตัวอย่าง (Cluster analysis) ด้วยวิธี unweighted pair group method using arithmetic averages (UPGMA) พบว่ากลุ่มตัวอย่างสาหร่ายข้อ Gracilaria salicornia และสาหร่ายเขากวาง มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน กลุ่มตัวอย่างของ Gracilaria sp. มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและอยู่ในกลุ่มเดียวกับกลุ่มตัวอย่างของ G. salicornia มากกว่ากลุ่มตัวอย่างของ G. changii และ G. firma และผลการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค RAPD แม้ว่ายังเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้นในจำนวนตัวอย่างเล็กน้อย แต่ให้ผลสอดคล้องกับการตรวจวิเคราะห์ลักษณะทางสัณฐานวิทยา จากการศึกษาในครั้งนี้ พบว่าพาราไซด์สาหร่ายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลักษณะสัณฐานวิทยาของสาหร่ายข้อเปลี่ยนแปลงไป และนอกจากนี้ ผลการศึกษาที่ได้เพิ่มเติมคือเชื้อจุลินทรีย์ รวมทั้งมลภาวะของแหล่งน้ำ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลักษณะสัณฐานวิทยาของสาหร่ายผิดปกติไป ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เป็นปัญหาด้านการศึกษาทางอนุกรมวิธานแล้ว ยังจะเป็นปัญหาในด้านการนำมาเพาะเลี้ยงและการใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมสกัดสารจากสาหร่ายด้วย จึงควรต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป การศึกษาชนิดของสาหร่ายทะเลในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาโดยใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยาเป็นหลัก โดยยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดโครงสร้างภายในเซลล์ รวมทั้งทางด้านชีวโมเลกุล โครงการวิจัยนี้ ได้ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างสาหร่ายวุ้นที่เก็บจากแหล่งต่างๆบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และอันดามัน โดยใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยาและด้วยเทคนิค RAPD ร่วมกับการตรวจวัดลักษณะทางสัณฐานวิทยา เพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์ และในการศึกษาครั้งนี้ พบตัวอย่างที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสาหร่ายเขากวาง (intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp.) ในการศึกษาครั้งนี้โครงสร้างเซลล์ของตัวอย่างสาหร่ายแต่ละชนิดตรวจวิเคราะห์โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ Light Microscope (LM) และกล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอนแบบส่องผ่าน (TEM) ในทุกตัวอย่างที่ตรวจสอบด้วยภาพถ่ายจากกล้อง LM แสดงให้เห็นชั้น deck lamella ต่อเนื่องถึงผนังเซลล์ชั้นนอก ในขณะที่ภาพถ่ายจากกล้อง TEM แสดงให้เห็นความแตกต่างของโครงสร้างภายในเซลล์สาหร่ายแต่ละชนิด โดยมีเม็ดแป้ง floridean กระจายรอบ nuclear content รายละเอียดโครงสร้างเซลล์ปกติของสาหร่ายข้อ G. salicornia ผนังเซลล์มีรูปแบบการเรียงเซลล์อย่างมีระเบียบ โครงสร้างเซลล์ปกติของสาหร่ายข้อ พบคลอโรพลาสต์ซึ่งภายในเห็นไทลาคอยด์เรียงขนานกันชัดเจน เช่นเดียวกับ pit plug ซึ่งสามารถสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจน จากภาพ TEM แสดงให้เห็นลักษณะชั้นและการเรียงเซลล์ที่แตกต่างกันระหว่างสาหร่ายเขากวาง สาหร่ายข้อ และอะเดลโฟพาราไซด์ เซลล์ที่พบพาราไซด์ การเรียงตัวของเซลล์ไม่เป็นระเบียบบริเวณเชื่อมต่อระหว่างสาหร่ายกับเซลล์พาราไซด์ ซึ่งบางส่วนพบว่ามีหลายนิวเคลียส ในขณะที่สาหร่ายเขากวาง G. changii และ Gracilaria sp. พบคลอโพลาสต์และไทลาคอยด์ที่มีรูปร่างและกระจายตัวผิดปกติ ในผนังเซลล์ชั้นคอร์เท็กซ์และเมดูลา ผลการวิเคราะห์จำแนกประเภท (Discriminant analysis) แสดงให้เห็นการจำแนกประเภทของกลุ่มตัวอย่างสาหร่าย โดยสาหร่ายเขากวาง G. changii มีความใกล้เคียงกับ intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp. ในขณะที่ G. firma, G. salicornia ถูกแยกกลุ่มออกจาก G. changii และ intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp. และการจัดกลุ่มตัวอย่าง (Cluster analysis) ด้วยวิธี unweighted pair group method using arithmetic averages (UPGMA) พบว่ากลุ่มตัวอย่างสาหร่ายข้อ Gracilaria salicornia และสาหร่ายเขากวาง มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน กลุ่มตัวอย่างของ Gracilaria sp. มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและอยู่ในกลุ่มเดียวกับกลุ่มตัวอย่างของ G. salicornia มากกว่ากลุ่มตัวอย่างของ G. changii และ G. firma และผลการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค RAPD แม้ว่ายังเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้นในจำนวนตัวอย่างเล็กน้อย แต่ให้ผลสอดคล้องกับการตรวจวิเคราะห์ลักษณะทางสัณฐานวิทยา จากการศึกษาในครั้งนี้ พบว่าพาราไซด์สาหร่ายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลักษณะสัณฐานวิทยาของสาหร่ายข้อเปลี่ยนแปลงไป และนอกจากนี้ ผลการศึกษาที่ได้เพิ่มเติมคือเชื้อจุลินทรีย์ รวมทั้งมลภาวะของแหล่งน้ำ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลักษณะสัณฐานวิทยาของสาหร่ายผิดปกติไป ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เป็นปัญหาด้านการศึกษาทางอนุกรมวิธานแล้ว ยังจะเป็นปัญหาในด้านการนำมาเพาะเลี้ยงและการใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมสกัดสารจากสาหร่ายด้วย จึงควรต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป
บทคัดย่อ (EN): Studies on species of the Thai seaweeds have been mainly based on morphology, which information of fine structural and molecular aspects is scarce. In this present study the agarophytes collected along the coast of the Gulf of Thailand and the Andaman Sea were analyzed using cytology and RAPD techniques associated with morphology to examine the difference between species of Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia and its adelphoparasite. The current study, an intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp. was found among collected samples of Gracilaria. This study the Light (LM) and Transmission Electron Microscopes (TEM) were used for analysis of fine structural cell of these seaweeds. In all examined specimens, the decklamelle and outer cell wall are continuous when viewed with the light microscope. The TEM micrographs showed distinguish fine structure of each species with floridean starch granules distributed around the nuclear content. The fine structure in vegetative thalli of G. salicornia was shown clearly chloroplasts with parallel thylakoids, as well as the pit plug. The TEM micrographs also showed intracellular disorganization in the cortical cell of host-parasite interface which some were multinucleate cells. As well as anomalous chloroplasts with thylakoid disorganization were found in cortical and medullar cells of G. changii and Gracilaria sp. The discriminant analysis showed the sample of G. changii close to sample of Gracilaria sp. In contrast samples of G. firma and G. salicornia were distinguished from G. changii and Gracilaria sp. The examined samples of Gracilaria were clustered by unweighted pair group method using arithmetic averages (UPGMA). The cluster analysis showed close relation among all examined species of Gracilaria. Sample of the Gracilaria sp. had closer relation with G. salicornia than samples of G. changii and G. firma. The rapid amplify polymerase DNA (RAPD) showed the result correspondent to the morphometric of the Gracilaria examined. This study suggested that the adelphoparasitic algae cause the variation in morphology of G. salicornia. Moreover other microorganism may be caused to unusual morphology of the seaweed. This is not only cause the taxonomic problem, but also cause problem of seaweed cultivation and utilization in industry of seaweed extract. Therefore, further study maybe need. Studies on species of the Thai seaweeds have been mainly based on morphology, which information of fine structural and molecular aspects is scarce. In this present study the agarophytes collected along the coast of the Gulf of Thailand and the Andaman Sea were analyzed using cytology and RAPD techniques associated with morphology to examine the difference between species of Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia and its adelphoparasite. The current study, an intermediate form Gracilaria, Gracilaria sp. was found among collected samples of Gracilaria. This study the Light (LM) and Transmission Electron Microscopes (TEM) were used for analysis of fine structural cell of these seaweeds. In all examined specimens, the decklamelle and outer cell wall are continuous when viewed with the light microscope. The TEM micrographs showed distinguish fine structure of each species with floridean starch granules distributed around the nuclear content. The fine structure in vegetative thalli of G. salicornia was shown clearly chloroplasts with parallel thylakoids, as well as the pit plug. The TEM micrographs also showed intracellular disorganization in the cortical cell of host-parasite interface which some were multinucleate cells. As well as anomalous chloroplasts with thylakoid disorganization were found in cortical and medullar cells of G. changii and Gracilaria sp. The discriminant analysis showed the sample of G. changii close to sample of Gracilaria sp. In contrast samples of G. firma and G. salicornia were distinguished from G. changii and Gracilaria sp. The examined samples of Gracilaria were clustered by unweighted pair group method using arithmetic averages (UPGMA). The cluster analysis showed close relation among all examined species of Gracilaria. Sample of the Gracilaria sp. had closer relation with G. salicornia than samples of G. changii and G. firma. The rapid amplify polymerase DNA (RAPD) showed the result correspondent to the morphometric of the Gracilaria examined. This study suggested that the adelphoparasitic algae cause the variation in morphology of G. salicornia. Moreover other microorganism may be caused to unusual morphology of the seaweed. This is not only cause the taxonomic problem, but also cause problem of seaweed cultivation and utilization in industry of seaweed extract. Therefore, further study maybe need.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: อาเอพีดี
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อนงค์ จีรภัทร์. "การใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยา และ RAPD ร่วมกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาเพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์Use of cytology and RAPD techniques associated with morphology to examine the difference between species of Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia and its adelphoparasite". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552

อนงค์ จีรภัทร์. "การใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยา และ RAPD ร่วมกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาเพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์Use of cytology and RAPD techniques associated with morphology to examine the difference between species of Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia and its adelphoparasite". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้เทคนิคทางเซลล์วิทยา และ RAPD ร่วมกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาเพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างชนิดของสาหร่ายวุ้น Gracilaria changii, G. firma, G. salicornia และอะเดลโฟพาราไซด์
อนงค์ จีรภัทร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
การศึกษาทางสัณฐานและเซลล์วิทยาของมะนาว (Citrus aurantifolia Swingle) พอลิพลอยด์ที่ถูกชักนำด้วยสารโคลซิซิน เครื่องสร้างสูญญากาศสำหรับการดูดเซลล์เพื่อการตรวจวินิจฉัยทางเซลล์วิทยา : รายงานผลการวิจัย การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออโกลนีมา (Aglaonema) โดยใช้เทคนิค Temporary Immersion การตรวจสอบความหลากหลายของจุลินทรีย์ที่เจริญในสาหร่ายวุ้นเศรษฐกิจกลุ่มกราซิลาเรีย การจัดกลุ่มปิ่นแก้วโดยใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยา การรวบรวมและความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของพืชสกุลมะเขือบางชนิดโดยใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยา การจำแนกชนิดปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจบางชนิดและลูกผสมในวงศ์ Pangasiidae โดยใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยา การจำแนกหญ้าโขย่ง (Rottboellia cochinchinensis Lour. W. Clayton) โดยการใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยาและเทคนิค AFLP สัณฐานวิทยาและสัณฐานวิทยาเรณูของทุเรียนพันธุ์หลงลับแล การศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของมะแว้งต้น
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair