สืบค้นงานวิจัย
การใช้ประโยชน์จากเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเป็นแหล่งพลังงานในอาหารโคนมและสุกรขุน
วิศิษฐิพร สุขสมบัติ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การใช้ประโยชน์จากเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเป็นแหล่งพลังงานในอาหารโคนมและสุกรขุน
ชื่อเรื่อง (EN): Utilization of soy hull as energy source in dairy cows and growing pigs diet.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิศิษฐิพร สุขสมบัติ
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนีประกอบด้วย 3 การทคลอง กล่าวคือ การทดลองที 1 ทำการศึกษา องค์ประกอบทางเคมีและประเมินพลังงานในเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง การทดลองที่ 2 ศึกษาการใช้ เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองทดแทนข้าวโพดบดในอาหาร โคนมต่อสมรรถนะการผลิตและกรดไขมัน ในน้ำนม และการทดลองที่ 3 ศึกษาผลของการทดแทนข้าวโพดบคด้วยเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองต่อ สมรรถนะการผลิตและคุณภาพซากและเนื้อสุกรขุน การทดลองที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อองค์ประกอบทางเคมี ประเมินคุณค่าทางพลังงาน และ ศึกษาการย่อยสลายในกระเพาะหมักของเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง โดยทำการสุ่มตัวอย่างเปลือกหุ้ม เมล็ดถั่วเหลืองและวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เป็นองค์ประกอบในสูตรอาหาร (ข้าวโพดบค มันเส้น กากมันสำปะหลัง กากปาล์ม กากถั่วเหลือง) มาวิเคราะห์แบบประมาณ (Proximate analysis) (AOAC, 1990) ได้แก่วัตถุแห้ง โปรตีนหยาบ (Crude protein, CP) ไขมัน (Ether extract) เถ้า (Ash) และเชื่อใขหยาบ สำหรับเชื่อใขที่ไม่ละลายในสารละลายที่เป็นกลาง Neutral detergent fiber, NDF) เชื่อใขที่ไม่ละลายในสารละลายที่เป็นกรด (Acid detergent fiber, ADF) และAcid detergent lignin (ADL) วิเคราะห์โดย Detergent analysis (Goering and VanSocst, 1970) ผลการทดลองสรุปได้ว่า เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองมีองค์ประกอบทางเคมี ดังนี้ 10.25%. CP, 1.29% Fal 4.64% Ash, 64.86% NDF, 46.41% ADF, 62.23% TDN x, 2.25 Mcal ME, 1.39 Mcal NE, และมีค่าการย่อยสลายได้ 45.5% dgDM และ 56.1% dgcP นับได้ว่าเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองสามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ ได้ดีการทคลองที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองทดแทน ข้าวโพดบดในอาหารข้นสำหรับโคนมต่อผลผลิต โคนม โคชใช้โคนมลูกผสมโฮลสไตน์ฟรีเชี่ยน จำนวน 24 ตัว ให้ผลผลิตน้ำนมเฉถี่ย 16.3 - 14 กิโลกรัมวัน วันให้นมเฉลี่ย 84 - 15 วัน อายุเฉลี่ย 42 : 5 เคือน และน้ำหนักตัวเฉถี่ย 415 : 20 กิโลกรัม ทำการจัดกลุ่มการทดลองแบบ stratified random balanced group ได้กลุ่มการทดลองละ 8 ตัว กลุ่มการทคลองได้แก่ กลุ่มที่ไม่มีการใช้เปลือก หุ้มเมล็ดถั่วเหลืองแทนข้าวโพดบด (0% SH) กลุ่มที่ใช้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง 10% แทนข้าวโพด บด (10% SH) และกลุ่มที่ใช้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง 20% แทนข้าวโพคบค (20% SH) ผลการ ทดลองสรุปได้ว่าไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของการกินได้วัตถุแห้ง การกินได้ โปรตีน การกินได้พลังงานสุทธิเพื่อการให้นม ผลผลิตน้ำนม องค์ประกอบน้ำนม และน้ำหนักตัวที่ เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามไขมันและ โปรตีนในน้ำนมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณของเปลือกหุ้ม เมล็ดถั่วเหลืองในอาหารข้นเพิ่มขึ้น ในขณะที่ของแข็งรวมในน้ำนมเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น ความเข้มข้นของแอมโมเนียในโครเจน กรด ไขมันระเหยได้ และความเป็นกรดด่างในกระเพาะหมักไม่มีผลกระ ทบจากการ ใช้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง องค์ประกอบของกรดไขมันในน้ำนมไม่แตกต่างกันในทุกกลุ่มการทดลอง ยกเว้น C18:2 และ C183 ที่เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อใช้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าสามารถใช้เปลือกหุ้มเมล็คถั่วเหลืองทดแทนข้าวโพดบคที่มีราคาสูงใน อาหารข้น สำหรับระดับการใช้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองทดแทนข้าวโพดบดได้ 100% แต่ควรมี เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองในอาหารขั้นไม่เกินกว่า 10% เพราะให้ผลตอบแทนทางการเงินสูงที่สุด วัตถุประสงค์ของการทดลองที่ 3 เพื่อศึกษาผลของการทดแทนข้าวโพดบดด้วยเปลือกหุ้ม เมล็ดถั่วเหลืองต่อสมรรถนะการผลิตและคุณภาพชากและเนื้อสุกรขุน โดยใช้สุกรลูกผสม IDuroc x (Landrace x Large White) (48 gilts and 48 barrows) น้ำหนักตัวเถลี่ย 60 กิโลกรัม จำนวน 96 ตัว สุกรถูกบล็อกคั่วยน้ำหนักตัวและเพศ (6 pigs/pen: 0.75 or 0.85 m /pig) สุ่มกลุ่มการทคลองอาหาร 1 จาก 4 สูตร ให้กับแต่ละคอกภายในบล็อก อาหารทดลองทั้ง 4 สูตร ถูกประกอบโดยกำหนดให้มี ความแตกต่างของระดับของเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง และให้สุกรได้รับเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ กลุ่มการทคลองมีดังนี้ 1) 0% SH: 2) 3% SH; 3) 6%6 SH; and 1) 9%6 SH อาหารทุกสูตรจะมีพลังงาน และ โปรตีนเท่ากันและมีโภชนะตามความต้องการของสุกรที่แนะนำโดย NRC (1998) ทำการ วิเคราะห์ โปรตีนหยาบ เชื่อใยหยาบ และไขมันในอาหาร (AOAC. 1998) ทำกวิเคราะห์ โปรตีนหยาบ เขือใขหยาบ และไขมันในอาหาร (AOAC, 1998) ทำการสุ่มกล้ามเนื้อส่วน semimembranosus และ longissimus ด้านช้ายของซากจากสุกร 3 ตัว/คอก เมื่อทำการฆ่าชำแหละ (NPPC, 1999) เพื่อการวัดมาตรฐานซาก ในขณะที่กล้ามเนื้อทั้งสองจากซากด้านขวาจะถูกแช่แข็ง ในไนโตรเจนเหลว และเก็บที่อุณหภูมิ -80*C จนกว่าจะทำการวิเคราะห์คุณภาพซากและ องค์ประกอบทางเคมี ผลการทคลองพบว่า ADFI และ ADG เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดยมี ความสัมพันธ์แบบ linear and และ quadratic เมื่อระดับการทดแทนของเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลือง เพิ่มขึ้น ในขณะที่ gin: feed และน้ำหนักตัวเมื่อสิ้นสุดการทคลองไม่มีผลกระทบจากระดับของ เปลือกหุ้มเมล็คถั่วเหลือง การเสริมเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองไม่มีผลต่อความหนาไขมันสันหลังที่ ตำแหน่งซี่โครงซี่ที่ 10 และ last Jumbar, LEA และเปอร์เซ็นต์เนื้อแดง ในขณะที่ความหนาไขมัน สันหลังที่ตำแหน่งซี่โครงซี่ที่ 1 เพิ่มขึ้นแต่ที่ตำแหน่งซี่โครงชื่สุดท้ายลดลง ความแน่นของเนื้อจาก กล้ามเนื้อทั้งสองลดลงเป็นเส้นตรง แต่ไขมันแทรกเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงเมื่อสุกร ได้รับเปลือกหุ้ม เมล็ดถั่วเหลือง อาหารที่มีเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบไม่มีผลต่อความชื้นและ โปรตีนในกล้ามเนื้อส่วน mimembranosus และ longissimus อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบไขมัน ในกล้ามเนื้อทั้งสองเพิ่มขึ้นเมื่อใช้เปลือกหุ้มเมล็คถั่วเหลืองทดแทนข้าวโพคบค การใช้เปลือกหุ้ม เมล็คถั่วเหลืองชี้ให้เห็นชัดเจนว่าคุณภาพซากของสุกรในการศึกษาครั้งนี้ดีขึ้น ควรคำนึงว่าเยื่อใยในเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองทำให้คุณภาพซากของสุกรดีขึ้นโดยไม่มีผลเสียต่ออัตราการเจริญเติบ โต และประสิทธิภาพการใช้อาหารของสุกรขุน
บทคัดย่อ (EN): The present research consisted of 3 experiments including the 1" experiment studied chemical composition and energy values of soybean hulls; the 2" experiment studied the efiects of feeding soybean hulls as a replacement for ground com in concentrate on performance of lactating dairy cows and the 3" experiment determined the efiects of replacing ground comn with soybean hulls on performance and carcass quality in meat of finishing pigs. The 1" experiment aimed to determine chemical composition and to evaluate energy values and degradability of soybean hulls. Samples of soybean hulls and other feed ingredients were randomly collected from various commercial companies. They were then ground and subjected to proximate (AOAC, 1990) and detergent (Goering and VanSoest, 1970) analyses. Representative samples were subjected to degradability study using nylon bag technique (Orskov and MeDonald, 1980). The results revealed that soy bean hulls contained 10.25% CP, 1.29% Fat, 4.64% Ash, 64.86% NDF, 46.41% ADF, 62.23% TDNx, 2.25 Mcal ME,, 1.39 Mcal NELp ,45.5% dgDM and 56.1% dgCP. Thus soy bean hulls have potential to be used as animal feedstufis.The aim of 2 experiment was to determine the efiects of feeding soybean hulls as a replacement for ground corn in concentrate on performance of lactating dairy cows. Twenty four Holstein Friesian crossbred lactating dairy cows, averaging 16.3 - 1.4 kgd of milk, 84 + 15 days in milk, 42 - 5 mo old and 415 - 20 kg body weight were stratified randomly assigned into three treatments of8 cows each. The treatments were control (0% soybean hull; SH), 10% SH and 20% SH as a replacement for ground corn in the concentrates. Performance parameters showed that DM intake, CP intake, NEup intake, milk yield, milk composition and body weight change were similar in all treatments. However, milk fat and milk protein contents tended to linearly increase with increasing soybean hull in the concentrates while total solid content was significantly linearly increased by addition of soybean hull. Concentrations of ruminal ammonia nitrogen, volatile fatty acids and pH were unafiected by the treatments. Milk fatty acid contents were also similar in all treatments except for C18:2 and C18:3 that were significantly linearly increased by addition of soybean hull. The present study suggested that soybean hull can efiectively replace high cost ground corn in the concentrates. Level of soybean hull addition in the concentrate should not excess 10% and soybean hull can replace ground comn up to 100% in the concentrate.should not excess 10% and soybean hull can replace ground comn up to 100% in the concentrate. The objective of the third experiment was to determine the efiects of replacing ground comn with soybean hulls on performance and carcass quality in meat of finishing pigs. Ninety six crossbred finishing pigs [Duroc x (Landrace x Large White) (48 gilts and 48 barrows)] averaging 60 kg live weight were used. They were then blocked by weight and sex (6 pigs/pen; 0.75 or 0.85 m /pig). One of the four dietary treatments was randomly assigned to each pen within a block. Four finishing dietary treatments were formulated utilizing diflering levels of soybean hulls (SH) and fed for eight weeks. Treatments were as follows: 1) 0% SH; 2) 3% SH; 3) 6% SH; and 4) 9% SH. All experimental diets were isonitrogenous and isocarolic and formulated to meet the NRC (1998) requirements. Experimental diets were fed to finishing pigs for 56 d. Chemical analyses of the diets were made for crude protein, crude fiber and ether extract (AOAC, 1998). Both semimembranosus and longissimus muscles from 3 pigs per pen were collected at exsanguinations from the left side of the careass (NPPC, 1999) for standard carcass measurements, whereas those from the right side of the carcass were collected, frozen in liquid nitrogen, and stored at -80cC until assayed for carcass quality and chemical composition. The results showed that ADFI and ADG were linearly and quadratically significantly increased with increasing soybean hull substitution while gain: feed and final weight were unaffected by diets containing soyhulls. Soybean hull supplementation did not affect backfat thickness at 10" rib and last lumbar positions, loin eye area (longissimus muscle area) and lean meat percentage, while backfat thickness at 1" rib and last rib were linearly and quadratically significantly increased and decreased, respectively. Subjective measures of both semimembranosus and longissimus muscle quality (firmness, marbling, and color) revealed that firmness and marbling were linearly reduced and increased by diets containing soyhulls, respectively. Diets containing soy hulls did not affect moisture and protein contents of both semimembranosus and longissimus muscles, however, fat contents of these two muscles were increased by substitution of soy hulls for ground corn. Soyhulls clearly improved carcass quality of the animals in this study. It is worth to note that fiber in soyhull has improved carcass quality without any adverse efiect on growth rate and feed conversion ratio of the animals.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: วัตถุดิบพลังงาน
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วิศิษฐิพร สุขสมบัติ. "การใช้ประโยชน์จากเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเป็นแหล่งพลังงานในอาหารโคนมและสุกรขุนUtilization of soy hull as energy source in dairy cows and growing pigs diet.". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. 2553

วิศิษฐิพร สุขสมบัติ. "การใช้ประโยชน์จากเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเป็นแหล่งพลังงานในอาหารโคนมและสุกรขุนUtilization of soy hull as energy source in dairy cows and growing pigs diet.". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. 2553. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้ประโยชน์จากเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเหลืองเป็นแหล่งพลังงานในอาหารโคนมและสุกรขุน
วิศิษฐิพร สุขสมบัติ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2553
การตอบสนองของถั่วเหลืองพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสภาพที่ขาดน้ำ การตรวจหา Suilysin และโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของ เชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ที่แยกได้จากสุกรป่วย สุกรปกติที่เป็นพาหะของโรคและคนที่เกี่ยวข้องโดยใช้เทคนิค PCR เทคนิคการเลี้ยงโคนมทดแทน คู่มือการประเมินและให้คะแนนรูปร่างโคนม โครงการนำร่องการจัดทำระบบคอมพาร์ทเมนต์สุกร เพื่อรับรองสถานภาพปลอดโรคปากและเท้าเปื่อยและโรคอหิวาต์สุกรเพื่อการส่งออก การจัดการอาหารโคนมเพศเมียระยะหลังคลอดถึงตั้งท้อง การประเมินประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ของโคนมโดยวิธีเรดิโออิมมูนโนแอสเซ การเลี้ยงขุนโคนมลูกผสมโฮลสไตน์ฟรีเซียนเพศผู้ตอน และไม่ตอนด้วยอาหารข้น 2 ชนิด ผลการศึกษาอาหารสำเร็จรูปสำหรับสุกรขุน การใช้ต้นและเปลือกฝักถั่วเหลืองแห้งเป็นอาหารเสริมโครีดนมในฤดูแล้ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair