สืบค้นงานวิจัย
การใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมปลอดสารพิษ
อนันต์ พลธานี - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมปลอดสารพิษ
ชื่อเรื่อง (EN): Using Natural Products in Enhancing Productivity of Chemical-Safe Aromatic Rice
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อนันต์ พลธานี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Anan Polthanee
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทคัดย่อ: น้ำส้มควันไม้ หรือ กรดไพโลลิกเนียส เป็นของเหลวที่ได้จากการควบแน่นของควันในการเผา ถ่าน มีองค์ประกอบหลายชนิดที่มีผลต่อพืช วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อศึกษาผลของการใช้ น้ำส้มควันไม้เป็นสารแช่เมล็ดต่อความสามารถในการทนแล้งของข้าว โดยประกอบด้วย 4 การทดลอง การทดลองที่ 1 เป็นการ ทดลองในห้องปฏิบัติการ โดยเพาะ เมล็ดแห้ง เมล็ดที่ผ่านการแช่ น้ำ 48 ชั่วโมง หรือเมล็ดที่แชในสารละลายน้ำส้มควันไม้ อัตราเจือจาง 300 เท่า 48 ชั่วโมง ในสภาพการให้ น้ำ 2 สภาพ ได้แก่ สภาพ การให้น้ำปกติ และในสภาพ osmotic stress ที่ -0.5 Mpa โดยการใช้ สารละลาย polyethylene glycol (PEG) (8,000 MW) ให้ความชื้นวัสดุเพาะ การทดลองที่ 2 เป็น การทดลองในสภาพเรือนทดลอง ดำเนินการเช่นเดียวกันกับการทดลองที่ 1 ยกเว้น สภาพน้ำ 2 สภาพ ได้แก่ 1) ให้น้ำที่ feld capacity (FC) เป็นเวลา 21 วัน + หยุดให้น้ำ 14 วัน และกลับมาให้ น้ำที่ ระดับ FC ตลอดระยะเวลาของการศึกษา 2 ให้น้ำที่ FC เป็นเวลา 21 วัน + ขาดน้ำ 14 วัน และให้น้ำกลับมาที่ระดับน้ำสูง 5 เชนดิมตรจากผิวดิน C ตลอดระยเวลาของการศึกษา ด้ยขึ้บการ ทดลองที่ 1 และ 2 เป็นการศึกษาในข้าว พันธุ์ปทุมธานี 1 และพันธุ์ชัยนาท 1 ซึ่งเป็นข้าวที่ไมไวต่อ ช่วงแสง ผลการทดลองพบว่า การขาดน้ำทำให้เมล็ดข้าว มีเปอร์เซ็นต์การงอกลดลง อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาพการขาดน้ำ การแช่เมล็ดข้าวในน้ำส้มควันไม้เจือจาง 300 เท่า 48 ชั่วโมงก่อนเพาะ ทำให้ ข้าวมีเปอร์เซ็นต์ความงอก โดยเฉลี่ย 76.13% ในขณะเมล็ดที่ผ่านการ แช่น้ำ 48 ชั่วโมงก่อนเพาะ มี ความงอก 73.1396 การแช่เมล็ดในสารละลายน้ำส้มควันไม้ก่อนหว่าน ไม่มีผลต่อความแข็งแรงของต้น กล้า ส่วนการทดลองที่ 2 ในสภาพกระถาง พบว่า การขาดน้ำ เป็นเวลา 14 วัน ไม่มีผลต่อความสูง น้ำหนักแห้งส่วนเหนือดิน หรือน้ำหนักแห้งราก ของข้าว แต่มีผลทำให้น้ำหนักแห้งรวมลดลงอย่างมี นัยสำคัญ การแช่เมล็ดในสารละลายน้ำส้มควันไม้ หรือในน้ำเปล่าวก่อนหว่าน มีผลทำให้ น้ำหนักแห้ง ส่วกล้าที่พัฒ นาจากเมล็ดแห้งย่างไรก็ตามไม่พบอิทธิพลของการแช่เมล็ดด้วยน้ำส้มควันไม้ต่อ ความสามารถในการทนแล้ง เนื่องจากมีการตอบสนองไม่แตกต่างจากการแช่เมล็ดในน้ำเปล่าก่อน หว่าน การทดลอง ที่ 3 และ 4 เป็นการทดสอบใน กระถางวางแผนการทดลองแบบ split-spit-plot design จัดแบบ RCBD จำนวน 3 ซ้ำ โดยมี main-plot เป็นสภาพการให้น้ำ 2 สภาพ คือ ที่ระดับ FC และ ที่ 12 FC มี sub-plot เป็นพันธุ์ข้าวไม่ไวแสง 4 พันธุ์ คือ สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 และ ปทุมธานี 1 และ sub-sub-plot เป็นวิธีการแช่เมล็ดร่วมกับ ฉีดพ่นทางใบด้วยน้ำส้มควันไม้ อัตราจือจาง 300 เท่า (อัตราส่วนน้ำส้มควันไม้ /น้ำ 1:300 v/v) 4 กรรมวิธี คือ 1) แช่เมล็ดในน้ำ 48 ชั่วโมงก่อนปลูก 2) แช่เมล็ดละลายน้ำส้มควันไม้ 48 ชั่วโมงก่อนปลูก 3) แช่เมล็ดในน้ำ 48 ชั่วโมง ก่อนเพาะ ร่วมกับการฉีดพ่น ทางใบ และ 4 แช่เมล็ดในสารละลายน้ำส้มควันไม้ 48 ชั่วโมงก่อนปลูก ร่วมกับการฉีดพ่นทางใบ ผลการทดลองพบว่า การใช้น้ำสัมควันไม้ เป็นสารแช่เมล็ด หรือ ร่วมกับการฉีดพ่นทางใบ ไม่มีผลทำให้ความสูงของ ข้าวแตกต่างกัน การให้น้ำเพียง *2 FC ทำให้ข้าวมีความสูงน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระยะ 60 วัน หลังปลูก และให้ผลเช่นเดียวกันกับการทดสอบช้ำในปี พ.ศ. 2556 โดยการให้น้ำที่ FC ทำให้ความ สูงของข้าวข้าวพิษณุโลก 2 และพันธุ์สุพรรณบุรี1 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่มีผลต่อทำให้ความสูง ของข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และปทุมธานี 1 การใช้น้ำส้มควันไม้ เป็นสารแช่เมล็ด หรือ ร่วมกับกา รฉีดพ่น ทางใบ ทำให้ข้าวแตกกอเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระยะ 60 วันหลังการหว่าน ทั้งสองฤดูการ ทดสอบ แต่ไม่มีผลต่อพื้นที่ใบ น้ำหนักแห้งส่วนเหนือดิน การให้น้ำที่ 2 FC ไม่มีผลต่อการแตกกอ แต่ มีผลทำให้พื้นที่ใบ และน้ำหนักแห้งของข้าวลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และการแช่เมล็ดด้วย สารละลายน้ำส้มควันไม้ก่อนหว่านอย่างเดียว หรือการแช่เมล็ดด้วยน้ำ แต่มีการฉีดพ่นด้วยน้ำส้มควัน ไม้ทางใบ มีแนวโน้มที่ข้าวมีการสะสมน้ำหนักแห้งสูงกว่าวิธีอื่นๆ การใช้น้ำส้มควันไม้ ไม่ว่าจะใช้เป็นสารแช่เมล็ด หรือ ใช้ร่วมกับการฉีดพ่นทางใบ ทำให้ใบข้าวมี แนวโน้มสะสมคลอโรฟิลล์ในใบเพิ่มขึ้น ที่ระยะ 45 วันหลังหว่านและเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อมีการฉีดพ่นทางใบ ร่วมกับการแช่เมล็ดด้วยน้ำ ก่อนหว่าน แต่ไม่พบอิทธิพลของพันธุ์ และสภาพ การให้น้ำ ส่วนปริมาณน้ำสัมพัทธ์ในใบ (relative water content) ของข้าวทุกพันธุ์ ก็พบรูปแบบการ ตอบสนองต่อการใช้น้ำส้มควันไม้ และสภาพการให้น้ำเช่นเดียวกับปริมาณคลอโรฟิลล์
บทคัดย่อ (EN): Wood vinegar (W) or pyloligneous acid is a liquid substance that is obtained from a condensation of smoke of burning wood during charcoal production. W contains numerous organic substances and has many effects on plant. Effect of wood vinegar using as priming agent on root development, drought tolerance, and using as foliar fertilizer on stay-green trait was investigated in four experiments. In Experiment I and II, two varieties, Phathum Thani 1 (PT1) and Chai nat 1 (CN1) were used. In Experiment I under laboratory condition, dry seed, soaking seed in water or in 300 times diluted W for 48 h before seeding were germinated in the presence of either water or osmotic solutions of polyethylene-glycol (PEG 8000) to generate water stress at -0.5 MPa. Experiment II was pot experiment in glasshouse. Water stress condition was induced by 1) exposing seedling to soil moisture content (SMC) at field capacity (FC) for 21 days after seeding (Phase 1) before withholding irrigation for 14 days (Phase 2) and subsequently maintaining SMC at FC throughout the course of study; 2) exposing seedling to Phase 1 + Phase 2 and subsequently maintaining water level at 5 cm above soil surface throughout the course of study. Water stress significantly decreased germination. Soaking seeds in 300 times diluted W slightly enhanced germination percentage under water stress condition (76.13%), compared to soaking seed in pure water only (73.13%). W did not alter seed vigour indices under water stress condition when tested in laboratory. In pot experiment, imposing seedlings to water stress for 14 days did not significantly decrease seedling height (SH), shoot dry weight (SDW) or root dry weight (RDW), however significantly decreased total dry weight (TDW). Soaking seed in W or in water before seeding significantly increased SDW, RDW and TDW of seedlings, compared to dry seeding rice. Effect of W using as priming agent on drought tolerance in lowland rice seedlings was not clearly evident as soaking seed in W or in water provided similar responses. Experiment Ill and IV were pot experiment in glasshouse in 2012 and 2013, respectively. Experiments were laid in split-split plot design. Main plots were two water regimes, 1) maintaining soil moisture content at field capacity throughout the course of study, 2) maintaining soil moisture content at field capacity for 14 days, followed by 12 FC throughout the course of study. Sub plots were four non light sensitive rice varieties including Suphanburi 1, (SB1) Phitsanulok 2, (PSL2) Chai nat 1 (CN1) and Phathum Thani 1(PT 1) and sub-sub plots were seed conditions including 1) soaking seed in water for 48 hour, 2) 1) soaking seed in water for 48 hour before seeding + foliar spraying of 300 times diluted W at two-week interval and 3) soaking seed in 300 times diluted W for 48 h before seeding and 4) soaking seed in 300 times diluted W for 48 h before seeding + foliar spraying of 300 times diluted W at two-week interval. Results showed that using W as priming agent alone or combined with foliar spraying did not alter plant height. Water applied at 52 FC significantly reduced plant height of all rice varieties at 60 days after seeding in Experiment Ill. However, in Experiment IV, only SB1, PSL2 that plant height was significantly decreased by water applied at 12 FC. W when used as priming agent alone or in combination with foliar spraying significantly increased tillering but did not significantly alter leaf area or above ground dry weight (DW). Water applied at 42 FC did not affect tillering but significantly reduced leaf area and DW. Foliar spray of W significantly enhanced leaf chlorophyll content at 45 days after seeding. Similar reponse was evident for relative water content of leaf.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: การควบคุมวัชพืช
คำสำคัญ (EN): seed control
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อนันต์ พลธานี. "การใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมปลอดสารพิษUsing Natural Products in Enhancing Productivity of Chemical-Safe Aromatic Rice". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2557

อนันต์ พลธานี. "การใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมปลอดสารพิษUsing Natural Products in Enhancing Productivity of Chemical-Safe Aromatic Rice". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมปลอดสารพิษ
อนันต์ พลธานี
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2557
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโดยใช้องค์ความรู้ใหม่ในการจัดการศัตรูข้าวเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตข้าวในนาชลประทาน การจัดการดินเค็มโดยใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตน้ำตาลด้วยเทคโนโลยีสะอาด การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าว การผลิต resistant starch จากแป้งข้าวด้วยวิธีการย่อยแป้งด้วยกรดร่วมกับการให้ความร้อนและความชื้น การจัดการไนโตรเจนและสังกะสีเพื่อเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพข้าวที่ปลูกในดินที่ปนเปื้อนสารแคดเมียม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair