สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตในโซ่อุปทานกล้วยไข่กรณีศึกษาจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดเพชรบุรี
ศิริทรัพย์ จบเจนภัย ธนัญญา วสุศรี วาริช ศรีละออง - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตในโซ่อุปทานกล้วยไข่กรณีศึกษาจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดเพชรบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): The Analysis of Production for Khai Bananas Supply ChainsA Case Study of Chanthaburi and Phetchaburi Provinces
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศิริทรัพย์ จบเจนภัย ธนัญญา วสุศรี วาริช ศรีละออง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sirisub Chobchainphai Thananya Wasusri Varit Srilaong
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ศึกษาระบบการจัดการและต้นทุนในโซ่อุปทานกล้วยไข่ เพื่อทราบสถานภาพปัจจุบัน และแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อยกระดับศักยภาพการผลิตให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และส่งออกได้มากขึ้น การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกแบบ semi-structure ตามหลักแบบจำลองอ้างอิงการดำเนินงานโซ่อุปทาน (SCOR-Model) และเปรียบเทียบต้นทุน ผลกำไร รวมทั้งปริมาณ และคุณภาพผลผลิตโดยศึกษาในพื้นที่ จ.จันทบุรีและเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกษตรกรมีการปลูกกล้วยไข่เชิงการค้าเป็นจำนวนมาก พบว่าการจัดการโซ่อุปทานใน จ.จันทบุรีและเพชรบุรี มีความแตกต่างกัน โดย จ.จันทบุรีผลผลิตมีการส่งออกตลาดต่างประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงเน้นการจัดการ ด้านคุณภาพเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกเป็นพืชแซม หรือแบบผสม (Mixed Intercropping)ร่วมกับพืชสวนอื่นๆ อีก 4-5 ชนิด เช่น ทุเรียนเงาะ มังคุด ลองกอง ส่วนจ.เพชรบุรี มีการผลิตเพื่อจำหน่ายตลาดภายในประเทศ เน้นการแข่งขันด้านราคา และการมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ นิยมปลูกเป็นแถว (Row intercropping) สลับกับการปลูกพืชอื่น 1-2 ชนิด เช่น มะนาว มะละกอ สำหรับการวิเคราะห์ต้นทุนด้านการผลิต ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และต้นทุนรวม ของเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ในจ.จันทบุรี เท่ากับ 18.35, 7.78และ 26.13 บาท/กก. ตามลำดับ ส่วนคุณภาพผลผลิต พบว่าคุณภาพผลผลิตมีความแตกต่างกัน ในพื้นที่ จ.จันทบุรีและเพชรบุรี มีราคาขายผลผลิตเฉลี่ย 29.86 บาท/กก. ผลกำไรเฉลี่ย5.27 บาท/กก. ซึ่งสูงกว่า จ.เพชรบุรี ที่มีต้นทุนด้านการผลิต ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และต้นทุนรวม 3.65, 4.50 และ 8.15 บาท/กก. ตามลำดับมีราคาขายผลผลิตเฉลี่ย 11.76 บาท/กก.ผลกำไรเฉลี่ย 2.60 บาท/กก. สำหรับปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ในพื้นที่จ.เพชรบุรี 2,071.369กิโลกรัม สูงกว่าจ.จันทบุรี ที่มีปริมาณผลผลิตเฉลี่ย/ไร่ เท่ากับ 419.53 กิโลกรัม โดยต้นทุน ผลกำไร รวมทั้งปริมาณและราคาขายผลผลิตในพื้นที่จ.จันทบุรีและ จ.เพชรบุรี มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05สำหรับปัญหาอุปสรรคในการผลิต พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าก่อนการปลูก ไม่ปฏิบัติตามระบบการจัดการคุณภาพGAP มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชในปริมาณมาก แนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพในการผลิต สามารถทำได้โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรมีการวางแผนการผลิตที่ดีล่วงหน้าก่อนการปลูก เช่น การตรวจวิเคราะห์ดิน การกำหนดช่วงเวลาการปลูก-การเก็บเกี่ยว การปฏิบัติตามระบบการจัดการคุณภาพ GAP การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักและสารชีวภาพ ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่ม เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองราคาซื้อขายผลผลิตและปัจจัยการผลิต และภาครัฐควรมีการส่งเสริมให้มีการทำการเกษตรแบบพันธสัญญา (Contract Farming) เพื่อลดปัญหาการผันผวนของราคาผลผลิต กระตุ้นและผลักดันให้เกษตรกร มีการบริหารจัดการผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพ
บทคัดย่อ (EN): This research aims to study the supply chain management system of Khai Bananas (Musa AA group) for the purpose of determining its present status as well as solutions in order to enhance the production capacity by achieving higher quality and being able to increase the export level. The data collection method applied includes semistructurein-depth interviews based on SCOR-Model and comparison between cost, profit, and production quantity and quality. This research was conducted in two provinces namely Chanthaburi and Phetchaburi, where Khai Bananas are largely and commercially grown. According to the research, Chanthaburi province has a different approach in terms of supply chain management when compared to that of Phetchaburi province. In Chanthaburi province, the product is mainly exported to China thus making quality of the product is the most important goal of postharvest management. Here, mixed intercropping is practiced together with several other crops such as durian, rambutan, mangosteen, and longkong. In Phetchaburi province, on the other hand, domestic market is its main target. Competition in terms of pricing and low-cost production is therefore emphasized. Row intercropping is then practiced along with one or two other crops namely lime and papaya. According to the analysis, it can be found that the costs of production and logistics, including total costs of Chanthaburi province are 18.35, 7.78 and 26.13 baht per kilogram, respectively. In terms of quality, there are difference in quality product between Chanthaburi and Phetchaburi provinces. The average of selling price and profit of Chanthaburi province are 29.86 baht/kg and 5.27 baht/kg, respectively. This is higher whencompared to the average selling priceand profit of Phetchaburi province which are 11.76 baht/kg and 2.60 baht/kg,respectively. It is also found that the costs of production and logistics as well as the total costs of Phetchaburi province are only3.65, 4.50 and 8.15 baht/kg, respectively. In terms of averageproduction capacity per rai (1 rai=0.16hectare), Phetchaburi province has anaverage production capacity of 2,071.37kg/rai which is higher than Chanthaburiprovince that has an average productioncapacity of only 419.54 kg/rai. Furthermore,there is a difference in the cost, profit,production quantity, and selling price ofthe product between Chanthaburiprovince and Phetchaburi province with a statistical significance level of 0.05.Regarding production limitations, it can befound that the majority of farmers did not make any plans prior to the actualproduction process nor did they followthe GAP quality management system. A large amount of chemical fertilizers andpesticides were widely used. As for thesolutions and enhancement of production capacity, it is suggested that production planning prior to the actual process should be implemented among farmers such as conducting soil analysis anddetermining the planting and croppingperiod in accordance with GAP qualitymanagement system. Also, farmers should be encouraged to use organic fertilizers,manure, and bio-substances in replacement of chemical fertilizers and pesticides. Lastly, farmers should be encouraged to form a support group as away of strengthening their negotiating powers regarding the price of their products and production factors. Contract farming should be promoted among farmers by the government in order to lessen the fluctuation of product price and simultaneously encourage farmers to practice professional production management.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: การวิเคราะห์ต้นทุน
คำสำคัญ (EN): cost analysis
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมวิชาการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ศิริทรัพย์ จบเจนภัย ธนัญญา วสุศรี วาริช ศรีละออง. "การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตในโซ่อุปทานกล้วยไข่กรณีศึกษาจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดเพชรบุรีThe Analysis of Production for Khai Bananas Supply ChainsA Case Study of Chanthaburi and Phetchaburi Provinces". กรมวิชาการเกษตร. 2557

ศิริทรัพย์ จบเจนภัย ธนัญญา วสุศรี วาริช ศรีละออง. "การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตในโซ่อุปทานกล้วยไข่กรณีศึกษาจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดเพชรบุรีThe Analysis of Production for Khai Bananas Supply ChainsA Case Study of Chanthaburi and Phetchaburi Provinces". กรมวิชาการเกษตร. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตในโซ่อุปทานกล้วยไข่กรณีศึกษาจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดเพชรบุรี
ศิริทรัพย์ จบเจนภัย ธนัญญา วสุศรี วาริช ศรีละออง
กรมวิชาการเกษตร
2557
การชักนำให้เกิดแคลลัสในกล้วย การผลิตและการตลาดสับปะรด จังหวัดเพชรบุรี การศึกษาสภาพการผลิตมะนาวในจังหวัดเพชรบุรี เทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูปกล้วยเพื่อการค้า การจัดการการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศส่งโรงงานแปรรูปในจังหวัดสกลนคร การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การผลิตเอทธานอลจากวัสดุเหลือทิ้งจากกล้วย การศึกษาลักษณะทางกายภาพ การเจริญเติบโต ผลผลิตและคุณภาพของกล้วยน้ำว้า ศึกษาการจัดการโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมไม้ยางพาราแปรรูปและการวิเคราะห์ข้อบกพร่อง และผลกระทบในกระบวนการผลิต ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการโซ่อุปทานและการวัดสมรรถนะในโซ่อุปทานยางพาราไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair