สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการผลิตข้าวโพดหวานและข้าวโพดฝักอ่อนเกษตรอินทรีย์โดยการประยุกต์เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และอินทรียวัตถุชนิดต่าง ๆ แบบบูรณาการ
ถวัลย์ศักดิ์ เผ่าสังข์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการผลิตข้าวโพดหวานและข้าวโพดฝักอ่อนเกษตรอินทรีย์โดยการประยุกต์เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และอินทรียวัตถุชนิดต่าง ๆ แบบบูรณาการ
บทคัดย่อ: การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้ถั่วพุ่ม เชื้ออะโซโตแบคเตอร์ เชื้ออะโซสไปริลลัม และจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟตที่มีต่อสมบัติบางประการของดินและการเจริญเติบโตของข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรี 2 ในชุดดินกำแพงแสน และชุดดินปากช่อง การทดลองที่ 1 ดำเนินการทดลอง ณ ภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน วางแผนการทดลองแบบ 2x3x3 factorial in RCBD จำนวน 4 ซ้ำ ปัจจัยแรกเป็นการใส่ปุ๋ยพืชสด มี 2 ระดับ (ไม่ใส่ปุ๋ยพืชสด และปลูกถั่วพุ่มเป็นปุ๋ยพืชสด) ปัจจัยที่ 2 เป็นจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนมี 3 ระดับ (ไม่ใส่จุลินทรีย์ ใส่ผงเชื้ออะโซโตแบคเตอร์ และใส่ผงเชื้ออะโซสะไปริลลัม) และปัจจัยที่ 3 เป็นจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟตมี 3 ระดับ(ไม่ใส่จุลินทรีย์ ใส่ผงเชื้อ Glomus aggregatum และ ใส่ผงเชื้อ Bacillus megaterium) ผลการทดลองพบว่า การใช้ถั่วพุ่ม จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน และจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟตไม่มีผลต่อการสะสมของปริมาณไนโตรเจนในดินหลังการเก็บเกี่ยวข้าวโพด รวมทั้งไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง pH ค่าการนำไฟฟ้าของดินที่ใช้ปลูก และดัชนีความหวาน การใส่ปุ๋ยพืชสดและการใส่จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนส่งเสริมให้ดินมีปริมาณอินทรียวัตถุและฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใส่ผงเชื้ออะโซโตแบคเตอร์ การใส่จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนไม่ทำให้กิจกรรมของเอนไซม์ไนโตรจีเนสสูงขึ้น การใส่ปุ๋ยพืสสด จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต ส่งเสริมให้พืชมีน้ำหนักแห้งของต้นสูงกว่าการไม่ใส่ แต่ไม่มีผลต่อน้ำหนักแห้งของราก ตำรับที่ให้ผลผลิตสูงและมีจำนวนฝักเสียน้อยได้แก่ ตำรับที่ใส่ปุ๋ยพืชสดร่วมกับเชื้อรา G. aggregatum (2,266.50 กก/ไร่) ตำรับที่ใส่ปุ๋ยพืชสดร่วมกับเชื้ออะโซโตแบคเตอร์(2,153.00 กก/ไร่) และตำรับที่มีการใส่ปุ๋ยพืชสดอย่างเดียว(2,099.50 กก/ไร่) โดยตำรับที่มีฝักเสียมากที่สุดปรากฏเมื่อไม่ใส่ปุ๋ยพืชสดจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนและ จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต(152.50 กก/ไร่) การทดลองที่ 2 ดำเนินการทดลองที่แปลงทดลองของศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยวางแผนการทดลองแบบ split plot in randomized complete block จำนวน 3 ซ้ำ ประกอบด้วย main plot 2 ปัจจัย ได้แก่ 1) ไม่ปลูกปุ๋ยพืชสด และ2) ปลูกถั่วพุ่มเป็นปุ๋ยพืชสด และ sub plot 3 ปัจจัย คือการใช้จุลินทรีย์ที่ตรึงไนโตรเจนประกอบด้วย 1) ไม่ใส่ผงเชื้อจุลินทรีย์ 2) ใส่ผงเชื้ออะโซโตแบคเตอร์ และ3) ใส่ผงเชื้ออะโซสะไปริลลัม และ sub sub plot 3 ปัจจัย คือการใส่ผงเชื้อจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต ประกอบด้วย 1) ไม่ใส่ผงเชื้อจุลินทรีย์ 2)ใส่ผงเชื้อ G. aggregatum และ3) ใส่ผงเชื้อ B. megaterium ผลการศึกษาพบว่าการใช้ถั่วพุ่ม จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน และจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟตไม่มีผลต่อปริมาณไนโตรเจนในดินหลังการเก็บเกี่ยวข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรี 2 และไม่มีผลกระทบ หรือมีผลกระทบน้อยมากต่อการเปลี่ยนแปลง pH ค่าการนำไฟฟ้าของดินหลังปลูก และดัชนีความหวาน การใส่ปุ๋ยพืชสด จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน และจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต ส่งเสริมให้ดินมีปริมาณอินทรียวัตถุในดินหลังการเก็บเกี่ยวสูง โดยเฉพาะการใส่ผงเชื้ออะโซสไปริลลัม และผงเชื้อ B. megatreium ส่วนปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินหลังการเก็บเกี่ยว การใช้จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนร่วมกับจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต ส่งเสริมให้ดินมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินสูง โดยเฉพาะการใส่ผงเชื้อ B. megatreium การใส่จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนโดยเฉพาะอะโซสไปริลลัมส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมของเอนไซม์ไนโตรจีเนสสูงขึ้น การใช้ จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนร่วมกับจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟตส่งผลให้มีน้ำหนักแห้งของรากสูง โดยเฉพาะการใส่ผงเชื้ออะโซสไปริลลัม และผงเชื้อ G. aggregatum ส่วนตำรับที่ให้ผลผลิตสูง และฝักเสียน้อย ได้แก่ตำรับที่มีการใส่ปุ๋ยพืชสด เชื้ออะโซโตแบคเตอร์ และเชื้อ B. megatreium (1,212.00 กก./ไร่) และตำรับที่ใช่ปุ๋ยพืชสดร่วมกับ G. aggregatum (1,218.00 กก./ไร่)โดยตำรับที่มีฝักเสียมากที่สุดปรากฏเมื่อไม่ใส่ปุ๋ยพืชสด จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน และจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต (250.00 กก./ไร่)
บทคัดย่อ (EN): This experiment aimed to study the effect of cow pea as green manure, azotobacter, azospirillum and phosphate solubilizing microorganisms on some soil properties and growth of Insee 2 sweet corn. The experiment 1 was studied in Kamphaengsaen soil series at Soil Science Department, Kasetsart University, Kamphaengsaen Campus that designed as 2x3x3 factorial in RCBD with 4 replications. The first factor is green manure application that consisted 2 levels(no application and cow pea-green manure application), while, the second factor (nitrogen fixers) consisted 3 types of inoculants (non inoculation, azotobacter and azospirillum inoculations) and the last factor) consisted 3 types of phosphate solubilizers (non inoculation, Glomus aggregatum and Bacillus megaterium inoculations). The results revealed that green manuring, nitrogen fixer and phosphate solubilizer had no significant effect on nitrogen accumulation, pH, electrical conductivity of soil after harvest and sweetness index of sweet corn. Green manuring together with nitrogen fixer, particularly with azotobacter, enhanced the increasing of soil organic matter and available phosphorus levels. Inoculation of nitrogen fixers did not increase nitrogenase activity. Stem dry matter in the treatments those applied with green manure, nitrogen fixer and phosphate solubilizer were higher than those of non application, but did not effect to the root dry matter. The high yield, with low under grade ears, was found in the treatment of green manuring together with G. aggregatum(2,266.50 kg/rai), green manuring together with azotobacter (2,153.00 kg/rai) and green manuring solely treatments (2,099.50 kg/rai). The maximum under grade ears(152.50 kg/rai) was found in the treatment that applied no green manuring, neither nitrogen fixer nor phosphate solubilizer. The experiment 2 was carried out at National Corn and Sorghum Research Center, Nakhon Ratchasima Province. The split plot in randomized complete block with 3 replications was designed for testing the Insee 2 sweet corn. Main plot consisted 2 factors, with and without green manure(cowpea), while the subplot (application of nitrogen fixing inoculants) consisted 3 factors, without microbial inoculation, azotobacter inoculation and azospirillum inoculation. The sub-sub plot (phosphate solubilizing inopculant) were without inoculums, Glomus aggregatum and Bacillus megaterium inoculums. The results showed that application of cowpea as green manure before growing the sweet corn, nitrogen fixing inoculants and phosphate solubilizers had no effect on soil N content after harvest and had little effect on pH changes, electrical conductivity and sweetness. Green manuring, nitrogen fixing microorganisms and phosphate solubilizers enhanced the soil to have higher soil organic matter content, especially in the treatment that applied azospirillum and B. megaterium inoculums. The application of nitrogen fixing inoculants with phosphate solubilzer, especially with B. megaterium, enhanced the soil to contain higher soil available P than another. The nitrogenase activity found in azospirillum inoculated treatment was higher than others. The combination of nitrogen fixing inoculant (azospirillum) and phosphate solubilizer (G. aggregatum) promoted the plant to have higher root dry matter. The high amount of yield (1,212.00 kg/rai)with small amount of under grade ears was found in green manuring treatment together with azotobacter and B. megaterium that similar to the treatment of no green manuring together with G. aggregatum (1,218.00 kg/rai). The maximum of under grade ear was found in no green manuring without microbial inoculation (250.00 kg/rai)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ปุ๋ยอินทรีย์
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการผลิตข้าวโพดหวานและข้าวโพดฝักอ่อนเกษตรอินทรีย์โดยการประยุกต์เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และอินทรียวัตถุชนิดต่าง ๆ แบบบูรณาการ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
ผลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ ในระบบการลดใช้ปุ๋ยเคมีกับข้าวโพดหวาน ในกลุ่มชุดดินที่ 8 การทดลองหาปริมาณการใช้น้ำที่เหมาะสมของข้าวโพดหวานที่ปลูกโดยระบบเกษตรอินทรีย์ (ปีที่ 2) การทดลองหาปริมาณการใช้น้ำที่เหมาะสมของข้าวโพดหวานที่ปลูกโดยระบบเกษตรอินทรีย์ (ปีที่ 2) การศึกษาโรคแห้งตายในข้าวโพดหวาน โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อการพัฒนากลุ่มเกษตรอินทรีย์และการจัดการเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงใน อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาการจัดการดินกรด โดยวิธีการต่าง ๆ เพื่อการปลูกพืช (ข้าวโพดหวาน) การปรับปรุงดินด่างด้วยสารปรับปรุงดินชนิดต่างๆ เพื่อปลูกข้าวโพดหวาน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับถั่วพร้าต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนในชุดดินนครปฐม การจัดการปุ๋ยต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดหวาน ผลการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ต่างชนิดต่อผลผลิตข้าวนอกนา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก