สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาเครื่องวัดการแอ่นตัวแบบตกกระแทกต้นแบบเพื่อหาค่าความแข็งแรงของพื้นผิวต่างๆ ในสนาม
ฐิกิกร โพธิ์ศรีบิ้ง - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาเครื่องวัดการแอ่นตัวแบบตกกระแทกต้นแบบเพื่อหาค่าความแข็งแรงของพื้นผิวต่างๆ ในสนาม
ชื่อเรื่อง (EN): Development of a Prototype Falling Weight Deflectometer for Evaluation of Different Surface Stiffness Conditions
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ฐิกิกร โพธิ์ศรีบิ้ง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thitikorn Posribink
บทคัดย่อ: สติฟเนสของผิวทางเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญในงานออกแบบโครงสร้างผิวจราจร ค่า Modulus of Subgrade Reaction (ksub) เป็นพารามิเตอร์สำคัญเพื่อประเมินสติฟเนสและพฤติกรรมด้านการเสีย รูปของผิวทาง ในการซ่อมบำรุงผิวทาง การประเมินระดับความเสียหายของผิวทางเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการตัดสินในเลือกบริเวณและวิธีการที่จะซ่อม โดยทั่วไปการประเมินทำโดยการวัดสติฟ เนสของผิวทางโดยวิธีมาตรฐานต่างๆ เช่น Plate Load Test (PLT) และ Benkelman Beam เป็นต้น วิธีดังกล่าวใช้เวลาทดสอบค่อนข้างมากและมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหานี้เครื่องมือทดสอบที่ เรียกว่า Falling Weight Deflectometer (FWD) จึงได้รับการพัฒนาขึ้นมา งานวิจัยนี้เป็นการนำ เคื่องมือ FWD ขนาดเล็กหรือ Light Weight Deflectometer (LWD) ที่เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ใน ห้องปฏิบัติการ (ซึ่งได้พัฒนามาก่อนหน้าแล้ว) มาปรับใช้กับงานในสนาม การวิเคราะห์ ประสิทธิภาพการใช้งานทำโดยการเปรียบเทียบค่า ksub ที่ได้กับวิธีมาตรฐาน (PLT) นอกจากนี้ผู้วิจัย ยังได้พัฒนาเครื่องมือ FWD ต้นแบบขึ้นมาใหม่เพื่อให้เหมาะสมต่อการทดสอบในสนามมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มแรงตกกระแทก ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือทั้งสองที่พัฒนาแล้วสามารถ นำมาใช้ทดสอบในสนามได้ และให้ค่าที่ใกล้เคียงกับวิธีมาตรฐาน งานวิจัยนี้ยังมีการจำลองการ ทดสอบ PLT ด้วยระเบียบวิธีไฟไนต์อิลิเมนต์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างค่า Elastic Modulus (E) กับค่า Modulus of Subgrade Reaction (ksub) ของผิวทางและทำการวิเคราะห์หาผลกระทบของขนาด แผ่นจาน (Plate) ที่มีผลต่อค่าสติฟเนสของผิวทาง ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่า ค่าสติฟเนสของผิวทาง ขึ้นอยู่กับขนาดของแผ่นจานที่ใช้ทดสอบ โดยเมื่อแผ่นจานมีขนาดใหญ่ขึ้น ค่าสติฟเนสของผิวทางมี แนวโน้มที่จะลดลง
บทคัดย่อ (EN): and 2) study plate size effects on the surface stiffness. It can be seen from this study that the LWD and the prototype FWD could be used to determine the surface stiffness in the field. The stiffness values obtained from the LWD and the prototype FWD were closed to the values obtained from PLT. The obtained numerical results revealed that the ksub value significantly depended on parameters, for example, size of the loaded area and loading magnitude as presented in this study.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=12808&obj_id=36626
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ (EN): Falling Weight Deflectometer (FWD)
เจ้าของลิขสิทธิ์: โครงการพัฒนาเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย
รายละเอียด: สติฟเนสของผิวทางเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญในงานออกแบบโครงสร้างผิวจราจร ค่า Modulus of Subgrade Reaction (ksub) เป็นพารามิเตอร์สำคัญเพื่อประเมินสติฟเนสและพฤติกรรมด้านการเสีย รูปของผิวทาง ในการซ่อมบำรุงผิวทาง การประเมินระดับความเสียหายของผิวทางเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการตัดสินในเลือกบริเวณและวิธีการที่จะซ่อม โดยทั่วไปการประเมินทำโดยการวัดสติฟ เนสของผิวทางโดยวิธีมาตรฐานต่างๆ เช่น Plate Load Test (PLT) และ Benkelman Beam เป็นต้น วิธีดังกล่าวใช้เวลาทดสอบค่อนข้างมากและมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหานี้เครื่องมือทดสอบที่ เรียกว่า Falling Weight Deflectometer (FWD) จึงได้รับการพัฒนาขึ้นมา งานวิจัยนี้เป็นการนำ เคื่องมือ FWD ขนาดเล็กหรือ Light Weight Deflectometer (LWD) ที่เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ใน ห้องปฏิบัติการ (ซึ่งได้พัฒนามาก่อนหน้าแล้ว) มาปรับใช้กับงานในสนาม การวิเคราะห์ ประสิทธิภาพการใช้งานทำโดยการเปรียบเทียบค่า ksub ที่ได้กับวิธีมาตรฐาน (PLT) นอกจากนี้ผู้วิจัย ยังได้พัฒนาเครื่องมือ FWD ต้นแบบขึ้นมาใหม่เพื่อให้เหมาะสมต่อการทดสอบในสนามมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มแรงตกกระแทก ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือทั้งสองที่พัฒนาแล้วสามารถ นำมาใช้ทดสอบในสนามได้ และให้ค่าที่ใกล้เคียงกับวิธีมาตรฐาน งานวิจัยนี้ยังมีการจำลองการ ทดสอบ PLT ด้วยระเบียบวิธีไฟไนต์อิลิเมนต์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างค่า Elastic Modulus (E) กับค่า Modulus of Subgrade Reaction (ksub) ของผิวทางและทำการวิเคราะห์หาผลกระทบของขนาด แผ่นจาน (Plate) ที่มีผลต่อค่าสติฟเนสของผิวทาง ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่า ค่าสติฟเนสของผิวทาง ขึ้นอยู่กับขนาดของแผ่นจานที่ใช้ทดสอบ โดยเมื่อแผ่นจานมีขนาดใหญ่ขึ้น ค่าสติฟเนสของผิวทางมี แนวโน้มที่จะลดลง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาเครื่องวัดการแอ่นตัวแบบตกกระแทกต้นแบบเพื่อหาค่าความแข็งแรงของพื้นผิวต่างๆ ในสนาม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2553
การศึกษาหาความเร็วในการตกและยกตัวขึ้นของฝุ่นไม้ยางพาราภายในท่อแนวนอน การหาพื้นที่ปลูกลำไยที่เหมาะสมสภาพการชลประทานรูปแบบต่างๆในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน การพัฒนาเครื่องสีเปลือกพริกไทยดำ ต้นแบบเครื่องตรวจสอบการเสียของนม UHT เครื่องวัดความชื้นน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า การพัฒนาและออกแบบเครื่องกลั่นน้ำที่มีการเดือด การพัฒนาเครื่องตรวจความสั่นสะเทือนของเครื่องจักร การวิจัยและพัฒนาเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์พืช การพัฒนาเครื่องฟักไข่พลังงานแสงอาทิตย์ การพัฒนาเทคนิคประหยัดเวลาในการวิเคราะห์และเครื่องวิเคราะห์การกระจายขนาดของอนุภาคโดยเทคนิคการตกตะกอน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก