สืบค้นงานวิจัย
รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนเพื่อการพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ประเภทธุรกิจเกษตรของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์
เพ็ญจันทร์ สังข์แก้ว - มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
ชื่อเรื่อง: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนเพื่อการพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ประเภทธุรกิจเกษตรของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เพ็ญจันทร์ สังข์แก้ว
บทคัดย่อ: การวิจัยในครั้งนี้ได้มุ่งพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการองค์กรและรูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนของเกษตรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า (2) เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของรูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชน (3) พัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชน ทดลองใช้รูปแบบการจัดการองค์กร และประเมินผลรูปแบบการจัดการองค์กร การศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ สืบค้นข้อมูลโดยใช้กระบวนการแบบมีส่วนร่วม (PAR) จากผู้ปลูกมะขามหวานเพื่อการค้าในตำบลตะเบาะ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 60 คน ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการองค์กรและรูปแบบการจัดการองค์กร ที่พบจากผลการวิจัย คือ บริบทชุมชนและศักยภาพในการทำสวนมะขาม โดยบริบทชุมชนในทุกด้านปัจจัยเกื้อหนุนต่อการจัดการองค์กรและรูปแบบการจัดการองค์กร ดังนี้ (1) ทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ พื้นที่เป็นที่ราบสูงเชิงเขาและที่ดอนลาดชันมีภูเขาสูงกั้นเขตกับจังหวัดชัยภูมิ อากาศไม่มีมลพิษ ดินร่วนปนทราย มีแหล่งน้ำธรรมชาติ คลอง ลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี (2) ทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น มีโครงการฝายแม้ว ฝาย บ่อน้ำตื้น บ่อโยก ประปาหมู่บ้าน ประปาตำบล เส้นทางคมนาคมสะดวก ถนนสายหลักเป็นลาดยาง ระยะทางไม่ไกลจากอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน มีโทรศัพท์สาธารณะ สถานีโทรคมนาคม มีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนและไฟฟ้าสาธารณะ (3) ทรัพยากรมนุษย์ คือ มีบุคลากรภาครัฐหลายหน่วยงาน ได้แก่ คณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล สภาตำบล ข้าราชการครู เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล พัฒนากรตำบล สาธารณสุขตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรชุมชน กลุ่มวิสาหกิจมะขามหวาน เป็นต้น สำหรับศักยภาพในการทำงานมะขาม พบว่า ตำบลตะเบาะมีพื้นที่ปลูกมะขามหวานทั้งหมด 4,000 กว่าไร่ ปลูกมากที่สุดในอำเภอเมืองเพชรบูรณ์เฉลี่ยผลผลิต 1,000 ตัน เกือบ 100% ได้รับการรับรอง GNP (ปลอดสารพิษ) มีแหล่งทุนจากภาครัฐให้การสนับสนุน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และกองทุนหมู่บ้าน เกษตรกรนิยมใช้ปุ๋ยและสารเคมี ทั้งนี้เพราะเห็นว่าสะดวกและง่ายต่อการดูแล การเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของรูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชน พบว่า พ.ศ. 2548 เกษตรกรได้รวมกลุ่ม 5 คน จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน เพื่อขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส. แต่ไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบการจัดการองค์ธุรกิจชุมชนแต่อย่างใด จึงทำให้ไม่มีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง และการดุแลมะขามอยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำ พ.ศ. 2549 เกษตรกรได้รวมกลุ่มจัดตั้งองค์กรอย่างไม่เป็นทางการ คือ กลุ่มวิสาหกิจมะขามหวาน โดยการนำของนายวุฒิชัย ไชยทอง มีสมาชิก 40 คน จัดตั้งคระกรรมการบริหาร นายวุฒิชัย ไชยทอง เป็นประธาน และผู้ใหญ่บ้านทั้ง 11 หมู่บ้านเป็นกรรมการ การจัดการองค์กรประธานต้องรับการหนัก กล่าวคือ ประธานต้องทำและรับผิดชอบงานทุกอย่างเพียงผู้เดียว เช่น งานด้านการตลาด และงานด้านการเงิน ทั้งนี้ไม่มีใครช่วยทำงาน สมาชิกบางส่วนจึงลาออกและขอเงินค่าสมัครสมาชิกคืน ต่อมา พ.ศ. 2550 ได้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มวิสาหกิจมะขามหวาน ตำบลตะเบาะ ปรับโครงสร้างองค์การใหม่ กำหนดบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคระกรรมการ และเข้าร่วมเป็นเครือข่ายมะขามหวานเพชรบูรณ์ที่ไร่บุญคง โดยร่วมลงทุนดำเนินการธุรกิจมะขาม ได้แก่ การจัดทำตลาดกลางมะขามหวานเพชรบูรณ์ การซื้อขาย การแปรรูป การเพิ่มผลผลิต เป็นต้น แต่ไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์ เนื่องจากเกษตรกรได้ขายเหมาสวนให้พ่อค้าคนกลางไปล่วงหน้า รูปแบบองค์กรเครือข่ายจะสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ สำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การนำไปทดลองใช้ และการประเมินผลรูปแบบการจัดการองค์กร มีข้อค้นพบดังนี้ เกษตรกรได้นำรูปแบบองค์กรที่เป็นอยู่มาทบทวน เห็นพ้องต้องกันว่าต้องพัฒนาการจัดการองค์ โดยการใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการพัฒนา จึงร่วมกันทำแผนปฏิบัติการพัฒนาองค์กร มี 7 กิจกรรมหลัก คือ (1) ศึกษาปัจจัยแวดล้อมองค์กรโดยวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง อุปสรรค โอกาส (2) พัฒนาโครงสร้างองค์กร (3) อบรมการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (4) ศึกษาดูงาน (5) พัฒนาโครงสร้างองค์กรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (6) ดำเนินการทดลองการจัดการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และ (7) ประเมินผลการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในทิศทางการพัฒนาเกษตรกรได้กำหนดปรัชญาว่า ร่วมทำ ร่วมคิด ธุรกิจมะขามหวานยั่งยืน วิสัยทัศน์ คือ มีตลาดกลางมะขามหวาน สถานที่ตั้งคือศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงประจำตำบล และมีห้องเย็น เป้าหมาย คือ มีโครงการเสนอของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบล สร้างศูนย์รวมผลผลิตและพัฒนาให้เป็นตลาดมะขามหวาน ทำหนังสือขอใช้สถานที่ของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และจัดตั้งรูปแบบองค์กรเป็นสหกรณ์ในอนาคตโดยการนำของเกษตรตำบล นโยยาบ คือ ขยายเครือข่ายเพิ่มความเข้มแข็งเชิงุรกิจในพื้นที่ตำบลตะเบาะและตำบลใกล้เคียง และองค์กรดำเนินการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง กำกับดูแลจัดทำบัญชีครัวเรือน งบประมาณรายจ่ายประจำสวน ชักนำให้สมาชิกใช้ปุ๋ยชีวภาพและเลิกการใช้ปุ๋ยเคมี จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างปราชญ์ชาวบ้านกับสมาชิก ประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดและการผลิต เป็นผู้ประสานงานระหว่างการให้การสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนกับกลุ่มสมาชิก ระดมหุ้นให้องค์กรเติบโตอย่างโปร่งใส ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ขยายเครือข่ายทั้งภายในตำบลและตำบลใกล้เคียง จัดตั้งสหกรณ์เกษตรมะขามหวาน โดยใช้ระบบการเข้าถือหุ้นของสมาชิก ดำเนินกิจกรรมในรูปของสหกรณ์ร้านค้า เขียนโครงการของบประมาณจากองค์การส่วนตำบลสร้างอาคารเก็บรวบรวมผลผลิตและให้เป็นตลาดกลาง ทำแผนปฏิบัติการในการจัดการสวนมะขามประจำปี สร้างมูลค่าเพิ่มโดยทำมะขามแปรรูปและปลูกพืชอื่นในสวนมะขาม และทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดจำหน่ายให้เกสรในราคายุติธรรม การทดลองและการประเมินผลรูปแบบการจัดการองค์กรที่พัฒนา โดยการให้นายคงศักดิ์ ด้วยสาร เป็นปราชญ์ชาวบ้าน เกษตรกรเรียนรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์และน้ำสกัดชีวภาพกับปราชญ์ขาวบ้าน ศึกษาดูงานที่บ้านนายคงศักดิ์ เพื่อเข้าดูผลิตผลและการทำปุ๋ยอินทรีย์และน้ำสกัดชีวภาพ เกษตรกรได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำน้ำสกัดชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์ ดังนี้ น้ำสกัดชีวภาพที่ทำให้รสหวาน การทำฮอร์โมนไข่บำรุงดอกผล น้ำสกัดชีวภาพป้องกันเชื้อรา ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อสะสมอาหารให้ต้น จากนั้นประธานให้บริการรับการสั่งซื้อวัตุดิบที่ใช้ทำปุ๋ยและน้ำสกัดชีวภาพ การสร้างรายได้เพิ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพด พริก ละหุ่ง มันสำปะหลัง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ผักหวานบ้าน และผักสวนครัว แซมพื้นที่ระหว่างต้นมะขาม และพื้นที่ว่างในสวนมะขาม จัดทำแผนดูแลสวนมะขามหวานให้ได้ผลิตที่มีคุณภาพและลดต้นทุน ได้แก่ บำรุงดิน กำจัดวัชพืช โดยการตัดหญ้าคลุมดิน ใส่ปุ๋ยอินทรีชีวภาพ มี.ค.-พ.ค. ตัดแต่งกิ่ง ฉีดยา กำจัดแมลง และป้องกันหนอน มี.ค.- พ.ค. ให้ปุ๋ยน้ำสกัดชีวภาพ บำรุงดอก (ออร์โมนไข่) และน้ำหมักชีวภาพกำจัดแมลง เม.ย.-พ.ค. ให้ปุ๋ยน้ำสกัดชีวภาพบำรุงฝัก พ.ค.-ก.ค. เก็บฝักและการจำหน่าย พ.ย.-ธ.ค. หัวหน้ากลุ่มให้สมาชิกบันทึกการจัดการสวน ว่าทำอะไร ทำเมื่อไหร่ ทำที่ไหน ให้ใครทำ ทำอย่างไร และผลที่ได้ ทำบันทึกค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนมะขามหวาน ทำบัญชีครัวเรือน คณะกรรมการเสนอโครงการขอสนับสนุนงบประมาณสร้างสำนักงานศูนย์การเรียนรู้เศราฐกิจพอเพียงและลานเก็บผลิตผล ทำหน้งสือขอใช้ประโยชน์พื้นที่จากองค์การบริหารส่วนตำบล การประเมินการจัดการองค์กรโดยการตรวจเยี่ยมสวน มอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการทำบันทึกการจัดการสวนมะขามหวาน บันทึกค่าใช้จ่ายในการดูแลและทำบัญชีครัวเรือน ผลการประเมิน พบว่า เกษตรกรสามารถดำเนินการตามแผน ได้รับอนุมัติหนังสือขอใช้พื้นที่ของศูนย์การเรียนรู้เสรษฐกิจพอเพียง ได้รับอนุมัติงบประมาณสร้างสำนักงานศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและลานเก็บผลิตผลมะขามหวาน และเกษตรกรในชุมชนได้เข้ามาเป็นเครือข่ายเพิ่มขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=35&RecId=457&obj_id=4487
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
คำสำคัญ: ธุรกิจชุมชน
คำสำคัญ (EN): 338.6
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
รายละเอียด: การวิจัยในครั้งนี้ได้มุ่งพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการองค์กรและรูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนของเกษตรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า (2) เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของรูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชน (3) พัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชน ทดลองใช้รูปแบบการจัดการองค์กร และประเมินผลรูปแบบการจัดการองค์กร การศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ สืบค้นข้อมูลโดยใช้กระบวนการแบบมีส่วนร่วม (PAR) จากผู้ปลูกมะขามหวานเพื่อการค้าในตำบลตะเบาะ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 60 คน ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการองค์กรและรูปแบบการจัดการองค์กร ที่พบจากผลการวิจัย คือ บริบทชุมชนและศักยภาพในการทำสวนมะขาม โดยบริบทชุมชนในทุกด้านปัจจัยเกื้อหนุนต่อการจัดการองค์กรและรูปแบบการจัดการองค์กร ดังนี้ (1) ทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ พื้นที่เป็นที่ราบสูงเชิงเขาและที่ดอนลาดชันมีภูเขาสูงกั้นเขตกับจังหวัดชัยภูมิ อากาศไม่มีมลพิษ ดินร่วนปนทราย มีแหล่งน้ำธรรมชาติ คลอง ลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี (2) ทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น มีโครงการฝายแม้ว ฝาย บ่อน้ำตื้น บ่อโยก ประปาหมู่บ้าน ประปาตำบล เส้นทางคมนาคมสะดวก ถนนสายหลักเป็นลาดยาง ระยะทางไม่ไกลจากอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน มีโทรศัพท์สาธารณะ สถานีโทรคมนาคม มีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนและไฟฟ้าสาธารณะ (3) ทรัพยากรมนุษย์ คือ มีบุคลากรภาครัฐหลายหน่วยงาน ได้แก่ คณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล สภาตำบล ข้าราชการครู เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล พัฒนากรตำบล สาธารณสุขตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรชุมชน กลุ่มวิสาหกิจมะขามหวาน เป็นต้น สำหรับศักยภาพในการทำงานมะขาม พบว่า ตำบลตะเบาะมีพื้นที่ปลูกมะขามหวานทั้งหมด 4,000 กว่าไร่ ปลูกมากที่สุดในอำเภอเมืองเพชรบูรณ์เฉลี่ยผลผลิต 1,000 ตัน เกือบ 100% ได้รับการรับรอง GNP (ปลอดสารพิษ) มีแหล่งทุนจากภาครัฐให้การสนับสนุน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และกองทุนหมู่บ้าน เกษตรกรนิยมใช้ปุ๋ยและสารเคมี ทั้งนี้เพราะเห็นว่าสะดวกและง่ายต่อการดูแล การเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของรูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชน พบว่า พ.ศ. 2548 เกษตรกรได้รวมกลุ่ม 5 คน จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน เพื่อขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส. แต่ไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบการจัดการองค์ธุรกิจชุมชนแต่อย่างใด จึงทำให้ไม่มีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง และการดุแลมะขามอยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำ พ.ศ. 2549 เกษตรกรได้รวมกลุ่มจัดตั้งองค์กรอย่างไม่เป็นทางการ คือ กลุ่มวิสาหกิจมะขามหวาน โดยการนำของนายวุฒิชัย ไชยทอง มีสมาชิก 40 คน จัดตั้งคระกรรมการบริหาร นายวุฒิชัย ไชยทอง เป็นประธาน และผู้ใหญ่บ้านทั้ง 11 หมู่บ้านเป็นกรรมการ การจัดการองค์กรประธานต้องรับการหนัก กล่าวคือ ประธานต้องทำและรับผิดชอบงานทุกอย่างเพียงผู้เดียว เช่น งานด้านการตลาด และงานด้านการเงิน ทั้งนี้ไม่มีใครช่วยทำงาน สมาชิกบางส่วนจึงลาออกและขอเงินค่าสมัครสมาชิกคืน ต่อมา พ.ศ. 2550 ได้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มวิสาหกิจมะขามหวาน ตำบลตะเบาะ ปรับโครงสร้างองค์การใหม่ กำหนดบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคระกรรมการ และเข้าร่วมเป็นเครือข่ายมะขามหวานเพชรบูรณ์ที่ไร่บุญคง โดยร่วมลงทุนดำเนินการธุรกิจมะขาม ได้แก่ การจัดทำตลาดกลางมะขามหวานเพชรบูรณ์ การซื้อขาย การแปรรูป การเพิ่มผลผลิต เป็นต้น แต่ไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์ เนื่องจากเกษตรกรได้ขายเหมาสวนให้พ่อค้าคนกลางไปล่วงหน้า รูปแบบองค์กรเครือข่ายจะสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ สำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การนำไปทดลองใช้ และการประเมินผลรูปแบบการจัดการองค์กร มีข้อค้นพบดังนี้ เกษตรกรได้นำรูปแบบองค์กรที่เป็นอยู่มาทบทวน เห็นพ้องต้องกันว่าต้องพัฒนาการจัดการองค์ โดยการใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการพัฒนา จึงร่วมกันทำแผนปฏิบัติการพัฒนาองค์กร มี 7 กิจกรรมหลัก คือ (1) ศึกษาปัจจัยแวดล้อมองค์กรโดยวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง อุปสรรค โอกาส (2) พัฒนาโครงสร้างองค์กร (3) อบรมการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (4) ศึกษาดูงาน (5) พัฒนาโครงสร้างองค์กรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (6) ดำเนินการทดลองการจัดการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และ (7) ประเมินผลการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในทิศทางการพัฒนาเกษตรกรได้กำหนดปรัชญาว่า ร่วมทำ ร่วมคิด ธุรกิจมะขามหวานยั่งยืน วิสัยทัศน์ คือ มีตลาดกลางมะขามหวาน สถานที่ตั้งคือศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงประจำตำบล และมีห้องเย็น เป้าหมาย คือ มีโครงการเสนอของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบล สร้างศูนย์รวมผลผลิตและพัฒนาให้เป็นตลาดมะขามหวาน ทำหนังสือขอใช้สถานที่ของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และจัดตั้งรูปแบบองค์กรเป็นสหกรณ์ในอนาคตโดยการนำของเกษตรตำบล นโยยาบ คือ ขยายเครือข่ายเพิ่มความเข้มแข็งเชิงุรกิจในพื้นที่ตำบลตะเบาะและตำบลใกล้เคียง และองค์กรดำเนินการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง กำกับดูแลจัดทำบัญชีครัวเรือน งบประมาณรายจ่ายประจำสวน ชักนำให้สมาชิกใช้ปุ๋ยชีวภาพและเลิกการใช้ปุ๋ยเคมี จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างปราชญ์ชาวบ้านกับสมาชิก ประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดและการผลิต เป็นผู้ประสานงานระหว่างการให้การสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนกับกลุ่มสมาชิก ระดมหุ้นให้องค์กรเติบโตอย่างโปร่งใส ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ขยายเครือข่ายทั้งภายในตำบลและตำบลใกล้เคียง จัดตั้งสหกรณ์เกษตรมะขามหวาน โดยใช้ระบบการเข้าถือหุ้นของสมาชิก ดำเนินกิจกรรมในรูปของสหกรณ์ร้านค้า เขียนโครงการของบประมาณจากองค์การส่วนตำบลสร้างอาคารเก็บรวบรวมผลผลิตและให้เป็นตลาดกลาง ทำแผนปฏิบัติการในการจัดการสวนมะขามประจำปี สร้างมูลค่าเพิ่มโดยทำมะขามแปรรูปและปลูกพืชอื่นในสวนมะขาม และทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดจำหน่ายให้เกสรในราคายุติธรรม การทดลองและการประเมินผลรูปแบบการจัดการองค์กรที่พัฒนา โดยการให้นายคงศักดิ์ ด้วยสาร เป็นปราชญ์ชาวบ้าน เกษตรกรเรียนรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์และน้ำสกัดชีวภาพกับปราชญ์ขาวบ้าน ศึกษาดูงานที่บ้านนายคงศักดิ์ เพื่อเข้าดูผลิตผลและการทำปุ๋ยอินทรีย์และน้ำสกัดชีวภาพ เกษตรกรได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำน้ำสกัดชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์ ดังนี้ น้ำสกัดชีวภาพที่ทำให้รสหวาน การทำฮอร์โมนไข่บำรุงดอกผล น้ำสกัดชีวภาพป้องกันเชื้อรา ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อสะสมอาหารให้ต้น จากนั้นประธานให้บริการรับการสั่งซื้อวัตุดิบที่ใช้ทำปุ๋ยและน้ำสกัดชีวภาพ การสร้างรายได้เพิ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพด พริก ละหุ่ง มันสำปะหลัง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ผักหวานบ้าน และผักสวนครัว แซมพื้นที่ระหว่างต้นมะขาม และพื้นที่ว่างในสวนมะขาม จัดทำแผนดูแลสวนมะขามหวานให้ได้ผลิตที่มีคุณภาพและลดต้นทุน ได้แก่ บำรุงดิน กำจัดวัชพืช โดยการตัดหญ้าคลุมดิน ใส่ปุ๋ยอินทรีชีวภาพ มี.ค.-พ.ค. ตัดแต่งกิ่ง ฉีดยา กำจัดแมลง และป้องกันหนอน มี.ค.- พ.ค. ให้ปุ๋ยน้ำสกัดชีวภาพ บำรุงดอก (ออร์โมนไข่) และน้ำหมักชีวภาพกำจัดแมลง เม.ย.-พ.ค. ให้ปุ๋ยน้ำสกัดชีวภาพบำรุงฝัก พ.ค.-ก.ค. เก็บฝักและการจำหน่าย พ.ย.-ธ.ค. หัวหน้ากลุ่มให้สมาชิกบันทึกการจัดการสวน ว่าทำอะไร ทำเมื่อไหร่ ทำที่ไหน ให้ใครทำ ทำอย่างไร และผลที่ได้ ทำบันทึกค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนมะขามหวาน ทำบัญชีครัวเรือน คณะกรรมการเสนอโครงการขอสนับสนุนงบประมาณสร้างสำนักงานศูนย์การเรียนรู้เศราฐกิจพอเพียงและลานเก็บผลิตผล ทำหน้งสือขอใช้ประโยชน์พื้นที่จากองค์การบริหารส่วนตำบล การประเมินการจัดการองค์กรโดยการตรวจเยี่ยมสวน มอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการทำบันทึกการจัดการสวนมะขามหวาน บันทึกค่าใช้จ่ายในการดูแลและทำบัญชีครัวเรือน ผลการประเมิน พบว่า เกษตรกรสามารถดำเนินการตามแผน ได้รับอนุมัติหนังสือขอใช้พื้นที่ของศูนย์การเรียนรู้เสรษฐกิจพอเพียง ได้รับอนุมัติงบประมาณสร้างสำนักงานศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและลานเก็บผลิตผลมะขามหวาน และเกษตรกรในชุมชนได้เข้ามาเป็นเครือข่ายเพิ่มขึ้น
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนารูปแบบการจัดการองค์กรธุรกิจชุมชนเพื่อการพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ประเภทธุรกิจเกษตรของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
2551
รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ งานวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการการตลาดธุรกิจชุมชนเพื่อการพึ่งพาตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงประเภทธุรกิจเกษตรของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของธุรกิจชุมชนศึกษากรณี ธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปกล้วยในจังหวัดพิษณุโลก การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานความเข้มแข็งของธุรกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ศิลปะประดิษฐ์ผ้าปักด้นมือ แบบไทยในท้องถิ่นบ้านน้ำร้อน อำเภอเมือ จังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานวิจัยเรื่อง การศึกษาเพื่อเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์มะขามหวานของชุมชน จังหวัดเพชรบูรณ์ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชนเกษตรตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : รายงานผลการวิจัย รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของสารหอมระเหยในมะขามหวานโดย FTIR รายงานโครงการวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์หาปริมาณสารอัลฟาไฮดรอกซี แอซิค (เอเอชเอ) ในมะขามหวาน การเกษตรกับความมั่นคงทางอาหาร: ทัศนคติและแรงจูงใจในการสานต่ออาชีพเกษตรของทายาทเกษตรกรในอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์สบู่แฟนซีเพื่อเศรษฐกิจชุมชน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก