สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวด้วยการจัดการน้ำ ปริมาณความต้องการน้ำ และวิธีการให้น้ำที่เหมาะสม
พงศ์ศักดิ์ ชลธนสวัสดิ์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวด้วยการจัดการน้ำ ปริมาณความต้องการน้ำ และวิธีการให้น้ำที่เหมาะสม
ชื่อเรื่อง (EN): A study of potential extension of rice production, aspect in : water management, water requirement and irrigation systems.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พงศ์ศักดิ์ ชลธนสวัสดิ์
บทคัดย่อ: ศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการปลูกข้าวแบบหยอดเมล็ดโดยวิธีการให้น้ำแบบน้ำหยด (Drip irrigation) เปรียบเทียบกับวิธีการปลูกข้าวแบบปักดำและหว่านน้ำตมที่ให้น้ำแบบท่วมขัง (Flooding irrigation) โดยใช้ข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 60 การปลูกข้าวแบบน้ำหยดใช้วิธีปลูกแบบหยอดเมล็ด ระยะปลูก 30 ซม. X 50 ซม. 3 เมล็ด/หลุม ตามระยะของท่อน้ำหยดโดยใช้ท่อน้ำหยดแบบมีหัวจ่ายน้ำภายในท่อ (In-line Drippers) วางบนผิวดินอัตราการให้น้ำ 1.2 ลิตร/ชม./หัวหยด ที่แรงดันน้ำ 1 บาร์ กำหนดการให้น้ำทุก 3 วัน และวัดแรงดึงความชื้นดินด้วยเทนสิโอมิเตอร์ กำหนดให้แรงดึงความชื้นดินลดลงได้ไม่เกินความชื้นที่ความจุสนาม (-25 เซนติบาร์) การปลูกข้าวแบบปักดำและแบบหว่านน้ำตมให้น้ำแบบท่วมขังที่ระดับ 5-10 ซม.จากผิวดิน วางแผนการทดลองแบบสุ่มภายในบล็อกสมบูรณ์ (RCBD) ทำ 3 ซ้ำ พบว่า การปลูกข้าวแบบหยอดเมล็ดและให้น้ำแบบหยดใช้น้ำน้อยที่สุดเท่ากับ 688 ลบ.ม./ไร่ และให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำต่อผลผลิตข้าวสูงสุดเท่ากับ 0.55 กก./ลบ.ม. แต่ให้ผลผลิตที่ต่ำ (374.97 กก./ไร่.หรือ 60 กรัม/กอ) แม้ว่าให้จำนวนต้นต่อกอหรืออัตราการแตกกอดี แต่ต้นเตี้ย มีอายุเก็บเกี่ยว จำนวนและชนิดของแมลง วัชพืช และต้นทุนการผลิตสูงกว่าการปลูกข้าววิธีอื่น ๆ เนื่องจากมีค่าลงทุนระบบน้ำหยด สาเหตุที่ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวที่ปลูกแบบหยอดเมล็ดและให้น้ำแบบน้ำหยดต่ำอาจเนื่องจากใช้ระยะปลูกห่างทำให้มีจำนวนกอต่อพื้นที่น้อย ดังนั้นควรเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกแบบไม่ต้องขังน้ำสำหรับการปลูกแบบน้ำหยดและใช้ระยะปลูกที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนกอต่อพื้นที่ อย่างไรก็ตามข้อดีของการปลูกข้าวโดยให้น้ำแบบหยดคือ มีประสิทธิภาพการใช้น้ำต่อปริมาณผลผลิตสูงและประหยัดน้ำชลประทานได้ดี ศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการปลูกข้าวแบบหยอดเมล็ดโดยวิธีการให้น้ำแบบน้ำหยด (Drip irrigation) เปรียบเทียบกับวิธีการปลูกข้าวแบบปักดำและหว่านน้ำตมที่ให้น้ำแบบท่วมขัง (Flooding irrigation) โดยใช้ข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 60 การปลูกข้าวแบบน้ำหยดใช้วิธีปลูกแบบหยอดเมล็ด ระยะปลูก 30 ซม. X 50 ซม. 3 เมล็ด/หลุม ตามระยะของท่อน้ำหยดโดยใช้ท่อน้ำหยดแบบมีหัวจ่ายน้ำภายในท่อ (In-line Drippers) วางบนผิวดินอัตราการให้น้ำ 1.2 ลิตร/ชม./หัวหยด ที่แรงดันน้ำ 1 บาร์ กำหนดการให้น้ำทุก 3 วัน และวัดแรงดึงความชื้นดินด้วยเทนสิโอมิเตอร์ กำหนดให้แรงดึงความชื้นดินลดลงได้ไม่เกินความชื้นที่ความจุสนาม (-25 เซนติบาร์) การปลูกข้าวแบบปักดำและแบบหว่านน้ำตมให้น้ำแบบท่วมขังที่ระดับ 5-10 ซม.จากผิวดิน วางแผนการทดลองแบบสุ่มภายในบล็อกสมบูรณ์ (RCBD) ทำ 3 ซ้ำ พบว่า การปลูกข้าวแบบหยอดเมล็ดและให้น้ำแบบหยดใช้น้ำน้อยที่สุดเท่ากับ 688 ลบ.ม./ไร่ และให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำต่อผลผลิตข้าวสูงสุดเท่ากับ 0.55 กก./ลบ.ม. แต่ให้ผลผลิตที่ต่ำ (374.97 กก./ไร่.หรือ 60 กรัม/กอ) แม้ว่าให้จำนวนต้นต่อกอหรืออัตราการแตกกอดี แต่ต้นเตี้ย มีอายุเก็บเกี่ยว จำนวนและชนิดของแมลง วัชพืช และต้นทุนการผลิตสูงกว่าการปลูกข้าววิธีอื่น ๆ เนื่องจากมีค่าลงทุนระบบน้ำหยด สาเหตุที่ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวที่ปลูกแบบหยอดเมล็ดและให้น้ำแบบน้ำหยดต่ำอาจเนื่องจากใช้ระยะปลูกห่างทำให้มีจำนวนกอต่อพื้นที่น้อย ดังนั้นควรเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกแบบไม่ต้องขังน้ำสำหรับการปลูกแบบน้ำหยดและใช้ระยะปลูกที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนกอต่อพื้นที่ อย่างไรก็ตามข้อดีของการปลูกข้าวโดยให้น้ำแบบหยดคือ มีประสิทธิภาพการใช้น้ำต่อปริมาณผลผลิตสูงและประหยัดน้ำชลประทานได้ดี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: สปริงเกลอร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พงศ์ศักดิ์ ชลธนสวัสดิ์. "การศึกษาการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวด้วยการจัดการน้ำ ปริมาณความต้องการน้ำ และวิธีการให้น้ำที่เหมาะสมA study of potential extension of rice production, aspect in : water management, water requirement and irrigation systems.". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552

พงศ์ศักดิ์ ชลธนสวัสดิ์. "การศึกษาการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวด้วยการจัดการน้ำ ปริมาณความต้องการน้ำ และวิธีการให้น้ำที่เหมาะสมA study of potential extension of rice production, aspect in : water management, water requirement and irrigation systems.". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวด้วยการจัดการน้ำ ปริมาณความต้องการน้ำ และวิธีการให้น้ำที่เหมาะสม
พงศ์ศักดิ์ ชลธนสวัสดิ์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2552
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร ความต้องการใช้น้ำของข้าวและงบดุลน้ำภายใต้การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง การทดลองหาปริมาณน้ำใช้ที่เหมาะสมของปทุมมาโดยการให้น้ำแบบน้ำหยด การทดสอบการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งและการจัดการที่เหมาะสมในการผลิตข้าว การทดสอบการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งและการจัดการที่เหมาะสมในการผลิตข้าว รูปพรรณข้าวขึ้นน้ำผลผลิตสูง การเปรียบเทียบปริมาณการใช้น้ำของข้าวระหว่างการไม่ไถพรวนกับการหว่านน้ำตมและปักดำ คุณภาพข้าวนึ่งที่ทำจากข้าวขึ้นน้ำและข้าวทนน้ำลึก การใช้ประโยชน์ของน้ำกากส่าเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวอินทรีย์อย่างยั่งยืน ผลของโพแทสเซียมต่อคุณภาพเมล็ดทางกายภาพและเคมีของข้าวขึ้นน้ำและข้าวทนน้ำลึก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair