<-span>ข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าข้าวกล้องงอกที่เพาะจากข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีปริมาณ <-span>GABA สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวพันธุ์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม การทำข้าวงอกมักทำให้ข้าวแตกหักง่ายระหว่างการขัดสี แต่เมื่อผนวกกับภูมิปัญญาการทำข้าวฮาง หรือข้าวนึ่ง ทำให้สามารถลดการสูญเสียจากการแตกหักของข้าวระหว่างการสี อีกทั้งข้าวนึ่งยังสามารถเก็บได้นานกว่า และข้าวนึ่งขัดสียังมีปริมาณวิตามินสูงกว่าข้าวขาวขัดสีอีกด้วย โดยผลการวิจัยประโยชน์ทางด้านโภชนาการ และสุขภาพของข้าวกล้องงอกนึ่งพบว่า <-span>“ข้าวกล้องงอกนึ่ง<-span>” มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าข้าวกล้อง และข้าวขาว และจากการทดสอบโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์ พบว่าข้าวกล้องงอกนึ่งหุงสามารถลดการอักเสบของเซลล์ลำไส้ รวมถึงลดอนุมูลอิสระ และการอักเสบของเซลล์ตับ และการศึกษาในหนูทดลอง พบว่าข้าวกล้องงอกนึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ การออกซิเดชันของไขมัน การทำลายดีเอ็นเอ และการเปลี่ยนแปลงพยาธิสภาพ และพังผืดของตับ กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดออกซิเดชันของไขมัน และการตายของเซลล์สมอง ลดความดันโลหิต คอเลสเทอรอลแอลดีแอล-คอเลสเทอรอล และการออกซิเดชันของไขมันเมื่อทดสอบในหนูทดลอง นอกจากนี้ การศึกษาในอาสาสมัคร พบการลดลงของระดับคอเลสเทอรอลรวม และแอลดีแอล-คอเลสเทอรอล การควบคุมระดับน้ำตาลมีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการกระตุ้นการหลั่งอินซูลินน้อยลง และเม็ดเลือดขาวที่ผลิตตัวชี้วัดการอักเสบลดลง หลังการบริโภคข้าวกล้องงอกนึ่งในระยะยาว อย่างน้อยวันละ <-span>2 มื้อ ในอาสาสมัครผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ <-span>2 ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสารออกฤทธิ์ชีวภาพ ได้แก่ สาร <-span>GABA วิตามินอีและอนุพันธ์ของวิตามินอี แกมมา-ออริซานอล กรดฟีนอลิก ในข้าวกล้องงอกนึ่ง โดยที่ข้าวกล้องงอกนึ่งมีสารเหล่านี้สูงกว่าข้าวกล้อง และข้าวขาว จึงแสดงถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของข้าวกล้องงอกนึ่งได้เด่นชัดกว่าข้าวกล้อง และข้าวขาว นอกจากนี้อีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ คือ สตาร์ชที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ การวิจัยนี้พบว่าการหุงข้าวด้วยลังถึง แล้วนำไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำ สามารถเพิ่มปริมาณของสตาร์ชที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในข้าวกล้องงอกนึ่งได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกทางหนึ่ง และการศึกษาความคงตัวของข้าวกล้องงอกนึ่ง แสดงให้เห็นว่าการเก็บข้าวกล้องงอกนึ่งไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่บรรจุแบบสุญญากาศช่วยรักษาสมบัติการต้านเอนไซม์ลิเพส และเอนไซม์ที่เกี่ยวเนื่องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างน้อย <-span>1 ปี<-span><-o-p><-span><-p>

          ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้คือ ได้กระบวนการผลิตข้าวกล้องงอกนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้บริโภคได้จริงในชีวิตประจำวันรวมถึงสามารถนำไปต่อยอดได้ในเชิงพาณิชย์โดยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร (อาหารมื้อหลัก อาหารพร้อมบริโภคแช่แข็ง หรืออาหารขบเคี้ยว) รวมถึงการนำสารสกัด ไปสร้างมูลค่าเพิ่มเป็น อาหารเสริม หรือส่วนผสมอาหาร (<-span>food ingredient) ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพต่อไป<-o-p><-span><-span><-p>