สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาแปลงส่งเสริมการจัดการไร่นาดีเด่นภาคตะวันออก ปี 2530
ธวัชชัย ศิริโสภาพงษ์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาแปลงส่งเสริมการจัดการไร่นาดีเด่นภาคตะวันออก ปี 2530
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธวัชชัย ศิริโสภาพงษ์
บทคัดย่อ: รวบรวมข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกรผู้จัดทำแปลงส่งเสริมการจัดไร่นาผู้ชนะเลิศโครงการประกวดแปลงส่งเสริมการจัดไร่นาภาคตะวันออก ปี 2530 โดยการสัมภาษณ์ และข้อมูลการผลิตจากสมุดจดบันทึกและสมุดบัญชีฟาร์ม ผลการศึกษาแปลงส่งเสริมการจัดการไร่นาดีเด่นภาคตะวันออก ปี 2530 สรุปได้ดังนี้ (1)ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จในการทำฟาร์มของเกษตรกร (1.1)การปรับสภาพพื้นที่ เดิมพื้นที่ทำการเกษตรเป็นที่ราบลุ่มมีน้ำขัง มีศักยภาพในการผลิตต่ำ สามารถปลูข้าวได้อย่างเดียว เกษตรกรปรับปรุงโดยการทำคันดินกั้นน้ำ และขุดร่องกักเก็บน้ำจนสามารถปลูกพืชผัก พืชไร่ และทำประมงน้ำจืดได้ (1.2)สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ยอยุ่ในช่วง 25-35องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะต่อการปลูกพืชเมืองร้อน กระจายตัวของน้ำฝนอยู่ในเกณฑ์ดี มีช่วงขาดน้ำเพียง 4 เดือน (1.3)การตลาด มีพ่อค้ารับซื้อผลผลิตที่ฟาร์มแน่นอนและตลาดรับซื้อไม่ห่างไกลจากฟาร์มมากนัก 1.4)การคมนาคมขนส่ง การคมนาคมขนส่งสะดวกและมีระยะห่างจากตลาดรับซื้อผลผลิตเพียง 3 กิโลเมตร (1.5)ปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับกากรเกษตร เช่น โรคแมลงศัตรูพืชมีการระบาดน้อยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมกำจัดได้ (2)ผลตอบแทนต่อการใช้ปัจจัยการผลิต (2.1)ผลตอบแทนต่อการใช้ที่ดิน 1 ไร่ เลี้ยงปลาตะเพียน 7,575 บาท ปลูกแตงโม 6,465 บาท และ 4,181 บาท ผักกระเฉด 5,273.25 บาท 3,326.25 บาทและ 2,026 บาท ข้าวโพดหวาน 2,071.25 บาท 1,010 บาท และ 741.67 บาท ปลูกข้าวให้ผลตอบแทน 949.38 บาท และ 655.39 บาท (2.2)ผลตอบต่อการใช้เงินทุน เมื่อเปรีบบเทียบกำไรจากการลงทุน 1 บาท ผลตอบแทนต่อการใช้เงินทุน ปลูกแตงโม 34.48 บาท เลี้ยงปลาตะเพียน 8.66 บาท ปลูกผักกระเฉด5.15 บาท และ 4.35 บาท ปลกูข้าวโพดหวาน 6.30 บาท 3 บาท และ 2.06 บาท ปลูกข้าว 2.45 บาทและ 2.21 บาท (2.3)ผลตอบแทนการใช้แรงงานในครอบครัวของเกษตรกรในการทำนาปี 144.41 บาท การทำนาปรัง 161.60 บาท และผลตอบแทนจากการทำกิจกรรมใหม่ (ไร่นาสวนผสม) ปีที่ 1 296.25 บาท ปีที่ 2 248.63 บาท (3)อัตราส่วนของรายได้ต่อรายจ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ การเลี้ยงปลาตะเพียน B/C ratio = 9.66 ปลูกมะละกอ B/C ratio = 7.18 ปลูกแตงโม B/C ratio = 6.03 และ 3.35 ผักกระเฉด B/C ratio = 6.15 ,5.35 และ 2.97 ปลูกข้าวโพดหวาน B/C ratio = 4.90, 3.06 และ 3.97 ปลูกข้าว B/C ratio = 3.45 และ 3.21 (4)อัตราส่วนของรายได้เพิ่มต่อค่าใช้จ่ายเพิ่มของกิจกรรมจากผลการวิเคราะห์หาค่า MBCR (Marginal Benefit Cost Ratio) ของกิจกรรมการปลูกข้าวนาปรัง ค่า MBCR =3.21 กิจกรรมใหม่ ปลูกแตงโม ผักกระเฉด 2 รุ่น ข้าวโพดหวาน 2 รุ่น และพืชผักบนร่องสวน ค่า MBCR = 6.15 จากผลการวิเคราะห์ค่า BenefitCost Ratio จะเห็นได้ว่ากิจกรรมทั้งหมดมีค่า BCR มากกว่า 2 แสดงว่า เป็นกิจกรรมที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุนและพิจารณาการลงทุนเดิม(ข้าวนาปี/ข้าวนาปรัง) คุ้มกับการลงทุน เพิ่มและการทำกิจกรรมใหม่ (ไร่นาสวนผสม) จะให้ผลตอบแทนที่มากกว่ากิจกรรมเดิม ทั้งนี้ผลการวิเคราะห์จะใช้เป็นแกนในการแนะนำส่งเสริมได้ในกรณีที่สภาพพื้นที่ สภาพภูมิอากาศ และการเคลื่อนไหวของสถานการณ์การผลิต และราคาสินค้าเกษตรที่ไม่แตกต่างจากที่กษตรกรเจ้าของแปลงได้ดำเนินการไปแล้วเท่านั้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ปี 2530
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาแปลงส่งเสริมการจัดการไร่นาดีเด่นภาคตะวันออก ปี 2530
กรมส่งเสริมการเกษตร
2530
โครงการศึกษาวัดประสิทธิภาพการผลิตยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการวิจัยการศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตพืชของเกษตรกรในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาไหมป่าอีรี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การส่งเสริมการปลูกป่าฟืนเพื่อการบริโภคสำหรับประชาชนในชนบท:การศึกษาไม้ฟืนที่เหมาะสำหรับการบริโภคภายในหมู่บ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการศึกษาการจัดเก็บค่าชลประทานในภาคการเกษตรจากผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรน้ำเพื่อการใช้น้ำแบบยั่งยืน: กรณีศึกษาโครงการชลประทานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการวิจัยการศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตพืชของเกษตรกรในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง การประเมินลักษณะเชื้อพันธุกรรมข้าวในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ปี 2553 การประเมินลักษณะเชื้อพันธุกรรมข้าวในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ปี 2551 การประเมินลักษณะเชื้อพันธุกรรมข้าวในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ปี 2555 การใช้เทคโนโลยีการปลูกงาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันตก ปี 2538
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก