สืบค้นงานวิจัย
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
Chaweewan Pinthusombat - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ชื่อเรื่อง (EN): Factors associated with the peripheral infusion phlebitis
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Chaweewan Pinthusombat
บทคัดย่อ: การวิจัยแบบเฝ้าสังเกตและติดตามกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ของหลอดเลือดดำอักเสบ จากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ส่วนปลาย และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาจำนวน 1,139 ราย เป็นผู้ป่วยที่ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ ตั้งแต่2.5 ชั่วโมงขึ้นไป และนอนรักษาใน แผนกอายุรกรรม และแผนกศัลยกรรม ของโรงพยาบาลบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่ธันวาคม 2546 ถึงกุมภาพันธ์ 2547 โดยเก็บข้อมูลผู้ป่วยจากเวชระเบียน และการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบได้ จากบันทึกการพยาบาล ซึ่งตรวจสอบยืนยันซ้ำทุกราย ผลการศึกษาหลอดเลือดดำอักเสบ 301 ราย พบอุบัติการณ์ของหลอดเลือดดำอักเสบ ร้อยละ 26.4 หรือ 14.5 ราย/100ราย- วัน และระยะเวลา เฉลี่ยของการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบเท่ากับ 78.20 ชั่วโมง ระดับความรุนแรงของหลอดเลือดดำ อักเสบที่พบมากที่สุดคือระดับ2 คิดเป็นร้อยละ 66.8 ผลการวิเคราะห์ตัวแปรเชิงซ้อนเพื่อหาความสัมพันธ์เมื่อควบคุมปัจจัยอื่นๆ คือ อายุ ประวัติ โรคประจำตัว แผนกที่เข้ารักษาการได้รับยาต้านจุลชีพ วิธีการให้ยา ขนาดเข็ม จำนวนสาย/ข้อต่อ ของชุดให้สารน้ำ พบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ ได้แก่ การได้รับยา ต้านจุลชีพ มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ 1.84 เท่า (95%CI 1.29-2.63), ยาคลอกซา- ซิลลิน ด้วยวิธีหยด 4.28 เท่า (95%CI 2.65-6.93) และยาคลอกซาซิลลิน แบบเจือจางให้ครั้งเดียว 3.15 เท่า (95%CI 2.07-4.78) เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับยา ยาซิโปรฟลอกซาซิน และยาเมโทร- นิดาโซล มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบเป็น 6.11 เท่า (95%CI 2.31-16.15) และ 2.33 เท่า (95%CI 1.39-3.92) ตามลำดับ ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางกำหนดนโยบายที่เหมาะสมในการให้ยาต้าน จุลชีพทางสายให้สารน้ำแก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยลดอัตราอุบัติการณ์ของการเกิดหลอดดำอักเสบใน โรงพยาบาล
บทคัดย่อ (EN): The proposes of this descriptive cohort study were to assess the incidence of peripheral infusion phlebitis and some risk factors associated with phlebitis. A total of 1,139 patients who were admitted to the Department of Medicine and Surgery at Banpong Hospital Ratchaburi Province and who received intravenous infusion for more than two and a half hours, during December 2003 to February 2004 were included in this study. Data collection was obtained from medical records with informed consent and phlebitis evaluation from nurse records. Development and severity of phlebitis was recorded by ward nurses and all cases were confirmed by the researcher. Results showed that there were 301 cases of phlebitis with an overall incidence of peripheral phlebitis 26.4% or 14.5 per/100 patient-days. Median time to develop phlebitis was 78.20 hours. The most common level of severity of phlebitis was Level 2 (66.8%) Multivariate analysis by Cox Proportional Hazard Regression Analysis with Essential Model included study factors of age group, underlying diseases, ward admitted, IV administration of antimicrobial and device, needle number and connection of IV set which were used to analyze the risk factors. The results demonstrated that risks of developing phlebitis among patients receiving intravenous infusion were antimicrobial agents with RR 1.84 (95%CI 1.29-2.63), cloxacillin by drip with RR 4.28 (95%CI 2.65-6.93) and cloxacillin by bolus dose injection with RR 3.15 (95%CI 2.07-4.78) when compared to intravenous infusion without antimicrobial agents. Intravenous infusion of ciprofloxacin and metronidazole demonstrated risks to develop phlebitis with RR 6.11 (95%CI 2.31-16.15) and 2.33 (95%CI 1.39-3.92), respectively. The results of this study could be used as guidelines for improving the use of Intravenous infusions of antimicrobial agents to reduce nosocomial peripheral Intravenous phlebitis.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2338&obj_id=2204
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Phlebitis
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การวิจัยแบบเฝ้าสังเกตและติดตามกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ของหลอดเลือดดำอักเสบ จากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ส่วนปลาย และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาจำนวน 1,139 ราย เป็นผู้ป่วยที่ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ ตั้งแต่2.5 ชั่วโมงขึ้นไป และนอนรักษาใน แผนกอายุรกรรม และแผนกศัลยกรรม ของโรงพยาบาลบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่ธันวาคม 2546 ถึงกุมภาพันธ์ 2547 โดยเก็บข้อมูลผู้ป่วยจากเวชระเบียน และการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบได้ จากบันทึกการพยาบาล ซึ่งตรวจสอบยืนยันซ้ำทุกราย ผลการศึกษาหลอดเลือดดำอักเสบ 301 ราย พบอุบัติการณ์ของหลอดเลือดดำอักเสบ ร้อยละ 26.4 หรือ 14.5 ราย/100ราย- วัน และระยะเวลา เฉลี่ยของการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบเท่ากับ 78.20 ชั่วโมง ระดับความรุนแรงของหลอดเลือดดำ อักเสบที่พบมากที่สุดคือระดับ2 คิดเป็นร้อยละ 66.8 ผลการวิเคราะห์ตัวแปรเชิงซ้อนเพื่อหาความสัมพันธ์เมื่อควบคุมปัจจัยอื่นๆ คือ อายุ ประวัติ โรคประจำตัว แผนกที่เข้ารักษาการได้รับยาต้านจุลชีพ วิธีการให้ยา ขนาดเข็ม จำนวนสาย/ข้อต่อ ของชุดให้สารน้ำ พบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ ได้แก่ การได้รับยา ต้านจุลชีพ มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ 1.84 เท่า (95%CI 1.29-2.63), ยาคลอกซา- ซิลลิน ด้วยวิธีหยด 4.28 เท่า (95%CI 2.65-6.93) และยาคลอกซาซิลลิน แบบเจือจางให้ครั้งเดียว 3.15 เท่า (95%CI 2.07-4.78) เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับยา ยาซิโปรฟลอกซาซิน และยาเมโทร- นิดาโซล มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบเป็น 6.11 เท่า (95%CI 2.31-16.15) และ 2.33 เท่า (95%CI 1.39-3.92) ตามลำดับ ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางกำหนดนโยบายที่เหมาะสมในการให้ยาต้าน จุลชีพทางสายให้สารน้ำแก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยลดอัตราอุบัติการณ์ของการเกิดหลอดดำอักเสบใน โรงพยาบาล
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
Chaweewan Pinthusombat
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ผลของการดัดแปลงวิธีการให้อาหารทางหลอดเลือดดำแบบไม่สมบูรณ์ทางหลอดเลือด ผลของการเบี่ยงเบนความสนใจโดยบิดามารดาต่อความกลัวของเด็ก วัยก่อนเรียนขณะได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ ผลของการให้ข้อมูลโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ต่อความรู้และการปฏิบัติของพยาบาลวิชาชีพในการป้องกันการติดเชื้อจากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ฤทธิ์ต้านการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งของสารสกัดน้ำจากใบมะรุม ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของสารสกัดจากข้าวเหนียวดำ ปริมาณสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่คนไทยนิยมบริโภค ประสิทธิภาพของพืชน้ำบางชนิดในการบำบัดน้ำทิ้งจากนากุ้งกุลาดำ ฤทธิ์ต้านการอักเสบและผลต่อหลอดเลือดของสารสกัดเมธานอลจากต้นเพชรสังฆาต (Cissus quadrangularis Linn.) การกำหนดมาตรฐานคุณภาพเหง้ากระชายดำที่เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ น้ำผึ้งกระชาดำ ผลของสารสกัดด้วยน้ำว่านชักมดลูก (Curcuma comosa) และกระชายดำ (Kaempferi parviflora) ต่อระบบสืบพันธุ์ในหนูขาวเพศเมีย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก