สืบค้นงานวิจัย
รวบรวม ศึกษาและคัดเลือกพันธุ์กระชายดำ: องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากเหง้ากระชายดำ
เสริมสกุล พจนการุณ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: รวบรวม ศึกษาและคัดเลือกพันธุ์กระชายดำ: องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากเหง้ากระชายดำ
ชื่อเรื่อง (EN): Collection, Studies and Selection of Krachai-Dam (Kaempferia parviflora Wall) Cultivars: Chemical Compositions of Essential Oil from Collected Krachai-Dam Rhizomes
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เสริมสกุล พจนการุณ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sermsakul Pojanagaroon
บทคัดย่อ: ทำการรวบรวมพันธุ์กระชายดำจากแหล่งปลูกการค้าในจังหวัดเลย พิษณุโลกและเพชรบูรณ์จำนวน 12 สายพันธุ์ ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2546 ศึกษาสีเนื้อในเหง้ากระชายดำในระบบสี a*L*b* ณ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย แล้วจัดกลุ่มที่คล้ายคลึงกันในลักษณะสีเนื้อในเหง้ากระชายดำด้วยวิธี Unweighted pair group method cluster analysis (UPGMA) ได้เป็น 6 กลุ่ม ทำการเปรียบเทียบองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากเหง้ากระชายดำในแต่ละกลุ่มโดยใช้เครื่องมือ Gas chromatograph/Mass spectrometer (GC-MS) ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2546 ณ ภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ(p<0.05)ระหว่างสายพันธุ์กระชายดำที่ศึกษาในด้านปริมาณน้ำมันหอมระเหยภายในเหง้ากระชายดำโดยกลุ่มสายพันธุ์ที่มีสีเนื้อในเหง้าสีจางมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยภายในเหง้าสูงกว่ากลุ่มสายพันธุ์ที่มีสีเนื้อในเหง้าสีเข้มมาก ยกเว้นสายพันธุ์‘ร่มเกล้า’ พบความแตกต่างด้านองค์ประกอบทางเคมี 51 ชนิดของน้ำมันหอมระเหยภายในเหง้ากระชายดำระหว่างสายพันธุ์กระชายดำที่ศึกษาโดยเฉพาะ endo-fenchol และ borneol จากการจัดกลุ่มที่คล้ายคลึงกันในองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยภายในเหง้ากระชายดำด้วยวิธี UPGMA สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ (5 กลุ่มย่อย) พบความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยภายในเหง้าและสีเนื้อในเหง้ากระชายดำ โดยเฉพาะกลุ่มสายพันธุ์ที่มีสีเนื้อในเหง้าสีจางนั่นคือ สายพันธุ์กระชายดำที่แตกต่างกันมีผลต่อปริมาณและองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยภายในเหง้ากระชายดำ ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตไวน์สมุนไพรกระชายดำ และทำมาตรฐานเกี่ยวกับกลิ่นของไวน์และผลิตภัณฑ์แปรรูปกระชายดำรูปแบบอื่น
บทคัดย่อ (EN): The exploration and collection of Krachai-Dam (Kaempferia parviflora Wall. ex Baker) cultivars were carried out at the commercial cultivated area in 3 provinces of the northern and the northeastern Thailand namely Loei, Phitsanulok and Phetchabun during January to February 2003. The study was done by measuring the internal skin color of collected Krachai-Dam rhizomes in a*L*b* color systems at Chiangrai Horticultural Research Center and the data were analysed by Unweighted Pair Group Method Cluster (UPGMA), they were classified into six groups. The chemical compositions of the essential oil in the Krachai-Dam rhizomes from each group were studied and compared by using Gas Chromatograph/Mass Spectrometer (GC-MS) during February to April 2003 at the Department of Pharmacognosy, Faculty of Pharmaceutical Science, Chulalongkorn University. The results showed that there were significantly different (p< 0.05) among these cultivars in the quantities of the essential oil in the rhizomes. The pale internal skin color cultivars gave much greater amounts of the essential oil than the dark internal skin color, except for ‘Rom-Klao’.There were different among these cultivars in the 51 chemical compositions of the essential oil in the rhizomes. The UPGMA revealed that these cultivars could be divided into 2 main groups (5 subgroups). Two dendrograms showed good relationship between the clusters of chemical compositions of essential oil in rhizomes and the internal skin color of rhizomes, especially the pale internal skin color groups. In conclusion, the Krachai-Dam cultivars had influenced on the quantities and the chemical compositions of the essential oil in the rhizomes. The results of the study were beneficial to Krachai-Dam wine production and standardization about the odor of the wine and other products.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/joacmu/article/view/246625/168696
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: คัดเลือกพันธุ์
คำสำคัญ (EN): cultivar selection
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รวบรวม ศึกษาและคัดเลือกพันธุ์กระชายดำ: องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากเหง้ากระชายดำ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2547
พิษของน้ำมันหอมระเหยจากใบชะพลูที่มีต่อปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus สมบัติต้านอนุมูลอิสระและองค์ประกอบทางเคมีจากน้ำสัมควันไม้ ผลของ Lactobacillus fermentum ต่อคุณภาพและองค์ประกอบทางเคมีของอาหารผสมครบส่วนหมักที่ระยะการหมักต่างกัน ผลเหง้ากระชายดำที่มีสีเนื้อในเหง้าแตกต่างกันต่อฤทธิ์ต้านความเหนื่อยล้า ผลของการใช้น้ำแข็งผสมน้ำมันหอมระเหยไธม์ต่อการรักษาคุณภาพทางเคมีและกายภาพของกุ้งขาว ระดับความสูงของพื้นที่ ที่มีผลต่อผลผลิต และคุณภาพของกระชายดำจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและหัวพันธุ์ลำดับต่างๆ ผลของน้ำมันหอมระเหยจากพริกไทยดำ (Piper nigrum Linn.), ตะไคร้บ้าน (Cymbopogon citratus (Dc. ex Nees)) และตะไคร้หอม (Cymbopogon nardus Rendle.) ต่อการเจริญของเชื้อเห็ดบางชนิด การศึกษาฤทธิ์ของน้ำมันหอมระเหยและสารสกัดจาก Zanthozylum limonella Alston และ Zanthoxylum rhetsa (Roxb.) DC ในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรคจากอาหาร การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรชา และสีผสมอาหารจากฝาง :พืชสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ การวิเคราะห์องค์ประกอบและคุณสมบัติทางเคมีของสารสกัดจากเมล็ดเจียที่ปลูกในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก