สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์มะคาเดเมีย
พิจิตร ศรีปินตา - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์มะคาเดเมีย
ชื่อเรื่อง (EN): Macadamia Variety Improvement
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิจิตร ศรีปินตา
บทคัดย่อ: โครงการปรับปรุงพันธุ์มะคาเดเมีย กิจกรรมปรับปรุงพันธุ์ 1. การคัดเลือกพันธุ์มะคาเดเมียจากต้นเพาะเมล็ดชุดที่ 2 พบว่า ที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง: ระดับความสูง 1300 ม. จากระดับน้ำทะเล) จากทั้งหมด 128 ต้น คัดเลือกได้ 1 ต้น คือ MCL -829 ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย (ระดับความสูง 400 ม. จากระดับน้ำทะเล) จากทั้งหมด 120 ต้น คัดเลือกได้ 1 ต้น คือ CR D4-7 ส่วนที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบูรณ์ (เขาค้อ) (ระดับความสูง 800 ม. จากระดับน้ำทะเล) จากทั้งหมด 90 ต้น คัดเลือกได้ 1 ต้นคือ KK D4-27 2. การคัดเลือกพันธุ์มะคาเดเมียจากต้นเพาะเมล็ด ชุดที่ 3 พบว่าศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน (ท่าโป่งแดง) จากทั้งหมด 120 ต้น คัดเลือกได้ 1 ต้น คือ MHS D4-74และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (วาวี) จากทั้งหมด 34 ต้น คัดเลือกได้ 1 ต้น คือ WW D4/H2-6 3. จากการทดสอบและเปรียบเทียบพันธุ์มะคาเดเมียพันธุ์ดีที่นำเข้าจากต่างประเทศและพันธุ์คัดเลือก ทั้ง 15 พันธุ์ มีผลการทดลอง พบว่าพันธุ์ WW3 มีน้ำหนักเฉลี่ยต่อเมล็ด น้ำหนักเนื้อในเฉลี่ยต่อเมล็ดและมีเปอร์เซ็นต์เนื้อในเกรด 1 มากที่สุดและพันธุ์ A4 มีเปอร์เซ็นต์เกรด 1 (% recovery) และเปอร์เซ็นต์ไขมัน มากที่สุด สำหรับ เปอร์เซ็นต์โปรตีน พันธุ์ KK6 มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนมากที่สุด 4.การคัดเลือกพันธุ์มะคาเดเมียสายพันธุ์ลูกผสมประเมินได้ว่าลูกผสมกลุ่มที่ 4 ที่มี พันธุ์ H2 เป็นต้นแม่ สามารถให้ผลผลิตและมีผลผลิตสูงกว่าลูกผสมสายต้นอื่นๆ จำนวน 7 สายต้นได้แก่ H2 x 660 จำนวน 4 สายต้น H2 x 741 จำนวน 3 สายต้น ซึ่งจะต้องมีการศึกษาในปีต่อๆไป ตามที่กรมวิชาการเกษตรได้อนุมัติให้ดำเนินการทดลองต่ออีก 2 ปี กิจกรรมเทคโนโลยีการผลิต 1. การวิจัยและพัฒนาระบบพืชเศรษฐกิจ และพืชเศรษฐกิจและพืชปรับปรุงดินที่เหมาะสมในสวนมะคาเดเมียนั้น การเจริญเติบโตเฉลี่ยของชาที่ปลูกในแปลงมะคาเดเมียอายุ 10 ปีขึ้นไป มีค่าการเจริญเติบโตดีกว่าชาที่ปลูกในแปลงมะคาเดเมียอายุ 1 - 5 ปี และ6 - 9 ปี จำนวนยอดของต้นชา ที่ปลูกในแปลงมะคาเดเมียอายุ 10 ปีขึ้นไป ให้จำนวนยอด และผลผลิตต่อไร่มากที่สุด การเจริญเติบโตเฉลี่ยของกาแฟที่ปลูกในแปลงมะคาเดเมียอายุ 1 - 5 ปี มีค่าการเจริญเติบโตดีกว่ากาแฟที่ปลูกในแปลงมะคาเดเมียอายุ 6 - 9 ปี และ 10 ปีขึ้นไป สามารถเก็บผลผลิตได้มากที่สุด และให้ผลผลิตต่อไร่มากที่สุด ถั่วปินโตพบว่า จำนวนยอดต่อต้น จำนวนยอดแตกใหม่ จำนวนยอดที่ตัดปักชำลงในถุง และจำนวนยอดต่อพื้นที่ มีความแปรปรวนในด้านผลผลิตและองค์ประกอบผลผลิต พบว่า และพืชผักที่ให้ผลกำไรมากที่สุดในแปลงมะคาเดเมียแต่ละอายุ คือ บร็อคโคโลนี ให้กำไรเฉลี่ยเท่ากับ 15,720 บาท 2. การศึกษาระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาผลมะคาเดเมียพบว่า ปริมาณความชื้นในดินไม่มีผลต่อความยาวช่อดอกและจำนวนดอกต่อช่อของมะคาเดเมียและปริมาณความชื้นในดินตั้งแต่ 85 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปมีผลทำให้มะคาเดเมียมีเปอร์เซ็นต์ช่อดอกที่ติดผล และจำนวนผลต่อช่อ รวมทั้งผลผลิตเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในการปลูกมะคาเดเมีย โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต ควรใช้ดินดี ปริมาณความชื้นตั้งแต่ 85 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป 3. การศึกษาปริมาณการให้น้ำที่ เหมาะสมสำหรับการพัฒนาผลผลิตมะคาเดเมียพบว่า การให้น้ำปริมาณ 100 ลิตร ต่อต้นต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูแล้ง สามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ช่อดอกที่ติดผลต่อต้น เพิ่มจำนวนผลต่อช่อ เพิ่มผลผลิตได้แก่ เพิ่มน้ำหนักผลรวมทั้งเปลือก (nut in husk) และน้ำหนักเมล็ดรวมทั้งกะลา (nut in shell) ต่อต้น ดังนั้น ในช่วงฤดูแล้ง ควรมีการให้น้ำกับมะคาเดเมียปริมาณ 100 ลิตร ต่อต้นต่อสัปดาห์ เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: การให้น้ำ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์มะคาเดเมีย
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2553
โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์อ้อย การพัฒนาพันธุ์ และคัดเลือกพันธุ์อะโวคาโดเพื่อบริโภคผลสด การวิจัยเพื่อส่งเสริมและปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อในหมู่บ้าน โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ข้าวฟ่างหวาน โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ชา โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพด โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ฝ้าย โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ทานตะวัน โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์กาแฟ โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ฟักทอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก