สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิผลของสารชีวภาพไคตินในการเพิ่มพูนคุณภาพดินและจุลินทรีย์ดินเพื่อยับยั้งการเกิดโรคเหี่ยวเหลืองของมะเขือเทศ
พรทิพย์ วงศ์แก้ว - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิผลของสารชีวภาพไคตินในการเพิ่มพูนคุณภาพดินและจุลินทรีย์ดินเพื่อยับยั้งการเกิดโรคเหี่ยวเหลืองของมะเขือเทศ
ชื่อเรื่อง (EN): Efficiency of a biomaterial chitin on soil quality and soil microbial activity enhancement for suppressiveness of tomato fusarium wilt disease
บทคัดย่อ: ในการวิเคราะห์ดินจากแปลงทดลองปลูกมะเขือเทศ เพื่อตรวจวัดประสิทธิผลของการใช้สารชีวภาพไคติน พบว่ามีการเพิ่มปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์มีประโยชน์ในดินได้แก่เชื้อแบคทีเรีย Bacillus sp., Pseudomonas fluorescens, Serratia sp., Streptomyces sp.; เชื้อรา Chaetomium sp. และ Trichoderma sp. ณ ช่วงเวลาต่างๆในแปลงที่ใช้สารชีวภาพไคตินมากกว่าในแปลงที่ไม่ใช้สารชีวภาพไคตินอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังจากย้ายปลูกมะเขือเทศแล้ว 4 สัปดาห์ ซึ่งพบการเพิ่มมากกว่า178.19-290.32, 3.2-4.34, 1.4-3.17, 1150.52-1,666.65, 11.08-12.05 และ 35.78-48.53 เท่า หรือในอัตราเพิ่มขึ้นจากการวัดที่ 1 สัปดาห์ก่อนการย้ายปลูกเป็นจำนวน 346.97-649.5, 13.33-19.2, 6.5-11.4, 1,578.2-2,286.13, 13.14-13.7 และ 1221,667-165,000 เท่า ขณะที่แปลงไม่ใช้สารชีวภาพไคตินมีอัตราการเพิ่มขึ้นเพียง 2.62, 3.78, 0.003, 1.22, 1.85 และ 3,400 เท่า ตามลำดับชนิดเชื้อดังกล่าว และยังส่งผลต่อเนื่องให้มีการคงระดับที่สูงของเชื้อจุลินทรีย์มีประโยชน์ทุกชนิดแม้ในช่วงเวลาหลังเก็บเกี่ยวมะเขือเทศไปแล้ว 1 สัปดาห์ นอกจากนี้กิจกรรมต่างๆของเชื้อจุลินทรีย์ในดินที่มีสารชีวภาพไคตินก็มีปริมาณสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบการมีกิจกรรมเอ็นไซม์ Chitinase ในอัตราเพิ่มขึ้น 1.81 และ 2.86 เท่า ภายใน 4 สัปดาห์หลังการย้ายปลูกและยังคงมีอัตราเพิ่มในระดับ 1.33 และ 1.81 เท่าหลังการเก็บเกี่ยวแล้ว 1 สัปดาห์ในแปลงที่ใช้สารชีวภาพไคติน 500 กรัม และ 1,000 กรัมต่อแปลง ขณะที่แปลงไม่ใช้สารชีวภาพไคตินมีอัตราเพิ่มเพียง 1.47 เท่าใน 4 สัปดาห์หลังการย้ายปลูก และ 1.03 เท่าหลังการเก็บเกี่ยว 1 สัปดาห์ และพบว่ากิจกรรมเอ็นไซม์ Dehydrogenaseมีอัตราการเพิ่มขึ้น3.65 และ 4.47 เท่า ที่4 สัปดาห์หลังการย้ายปลูก และในอัตรา 1.63 และ 1.64 เท่า หลังการเก็บเกี่ยวแล้ว 1 สัปดาห์ในแปลงที่ใช้สารชีวภาพไคติน 500 กรัม และ 1,000 กรัม ขณะที่แปลงไม่ใช้สารชีวภาพไคตินมีอัตราเพิ่ม 1.32 เท่า ใน 4 สัปดาห์หลังการย้ายปลูก และ 1.21 เท่า หลังการเก็บเกี่ยว 1 สัปดาห์ ส่วนกิจกรรมทั้งหมดของจุลินทรีย์ดินมีอัตราเพิ่มขึ้น 1.73 และ 2.12 เท่าในแปลงที่ใช้สารชีวภาพไคติน 500 กรัม และ 1,000 กรัม เมื่อทำการวัดที่4 สัปดาห์หลังการย้ายปลูก และในอัตรา 1.19 กับ 1.72 เท่า หลังการเก็บเกี่ยว 1 สัปดาห์ ขณะที่แปลงไม่ใช้สารชีวภาพไคตินมีอัตราเพิ่ม 1.23 เท่าใน 4 สัปดาห์หลังการย้ายปลูก และ 1.01 เท่า หลังการเก็บเกี่ยว 1 สัปดาห์ สำหรับผลต่อการเกิดโรคเหี่ยวเหลืองนั้นพบว่าสามารถลดการเกิดโรคได้ถึง 52% และ 62% ในแปลงที่ใช้สารชีวภาพไคติน 500 กรัม และ 1,000 กรัมต่อแปลงตามลำดับ และพบว่ามะเขือเทศในแปลงที่ใช้สารชีวภาพไคติน มีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีความสูงเฉลี่ยมากกว่า 1.4 เท่า มีน้ำหนักแห้งของต้นมากกว่า 1.6-1.7 เท่า และมีน้ำหนักผลผลิตมะเขือเทศต่อต้นมากกว่า 2.1-2.3 เท่า
บทคัดย่อ (EN): The effect of chitin application on soil biology, soil microbials activities, fusarium wilt disease suppression, tomato growth and yields were evaluated in tomato planting field plots. The analyses of soil were performed on samples taken periodically at one week before transplanting, four weeks after transplanting and one week after harvesting from each 1 x 6 meter experimental plot. Suppression of the Fusarium wilt disease as well as total growth and yields were evaluated at harvesting time. Significant improvement of the selected soil parameters were achieved in both 500 g and 1,000 g amended plots. Beneficial soil microorganisms such as Bacillus sp., Pseudomonas fluorescens, Serratia sp., Streptomyces sp., Chaetomium sp., and Trichoderma sp. were significantly increased as much as 346.97-649.5, 13.33-19.2, 6.5-11.4, 1,578.2-2,286.13, 13.14-13.7 and 1221,667-165,000 folds within four weeks after transplanting in 500g and 1,000g chitin amended plots while the un-amended plots made up to 2.62, 3.78, 0.003, 1.22, 1.85 and 3,400 folds, respectively. These population increasing were found sustaining through at least one week after harvesting. Measurement of important soil microbial enzymatic activities such as chitinase and dehydrogenase were also done at the correspondent conditions. Chitinase activities of the 500g and 1,000g amended plots were increased 1.81 and 2.86 folds at four weeks after transplanting and 1.33 and 1.81 folds at one week after harvesting. Similarly, the dehydrogenase activities were increased up to 3.65, 4.47 and 1.63, 1.64 folds at respective conditions. While the increasing rates of chitinase and dehydrogenase activities in the un-amended plots were 1.47, 1.03 and 1.32, 1.23 folds, respectively. Determination of total microbial activity by fluorescein diacetate hydrolysis was also carried out to explore an organic matter turnover. Similar increasing pattern was gained with the 500g chitin, 1,000g chitin amended and un-amended plots up to 1.73, 2.12 and 1.23 folds at four weeks after transplanting and 1.19, 1.72 and 1.01 folds at one week after harvesting, respectively. Addition of chitin into tomato planting- soil plots could effectively suppress fusarium wilt disease by 52-62% disease suppression in comparison to the disease incidence in the un-amended plots. Also, the growth of tomato plants was significantly higher with 1.4 and 1.6-1.7 times in their height and dry weight measurement while the yield of them was preceded to 2.1-2.3 times higher.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: โรคเหี่ยวเหลืองของมะเขือเทศ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิผลของสารชีวภาพไคตินในการเพิ่มพูนคุณภาพดินและจุลินทรีย์ดินเพื่อยับยั้งการเกิดโรคเหี่ยวเหลืองของมะเขือเทศ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2552
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ในการควบคุมทางชีวภาพ การศึกษาการจัดการดินตามศักย์ผลิตภาพ เศษเหลือหลังการเก็บเกี่ยว และแนวทางการใช้ประโยชน์จากกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินเพื่อรักษาคุณภาพดินและเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของอ้อยที่ปลูกในจังหวัดสระแก้ว การศึกษาวัสดุคลุมดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของสตรอเบอรี 2 สายพันธุ์ ความสัมพันธ์ของการใช้สารอินทรีย์ต่างคุณภาพเพื่อฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมกับจุลินทรีย์ดิน การคัดเลือกจุลินทรีย์ดิน Pseudomonas flurescens ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมโรคเน่าและโรคเหี่ยวของผัก การคัดแยกจุลินทรีย์ที่สามารถผลิตเอนไซม์เซลลูเลสจากดิน บริเวณห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ การผลิตไคตินจากไวรัสคลอเรลล่า การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังโดยการจัดการดินและพืช ความหลากหลายของเชื้อราจากดิน ซากพืชและการนำไปใช้ประโยชน์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก