สืบค้นงานวิจัย
คุณภาพทางกายภาพและเคมีของผลพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาด
พิทยา วงษ์ช้าง - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: คุณภาพทางกายภาพและเคมีของผลพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาด
ชื่อเรื่อง (EN): Physico-chemical Quality of Deastringence Persimmon
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิทยา วงษ์ช้าง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pitthaya Wongchang
บทคัดย่อ: การศึกษาคุณภาพทางกายภาพและเคมีของผลพลับพันธุ์ Xichu (P2) ที่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้ว โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ตอน ตอนที่ 1 เป็นการศึกษาคุณภาพทางกายภาพและส่วนประกอบทางเคมีของผลพลับหลังการกำจัดความฝาด โดยการรมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ระดับความเข้มข้น 80 เปอร์เซ็นต์ และไม่เติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิห้อง (37 องศาเซลเซียส) นาน 10 วัน ผลปรากฏว่า พลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดซึ่งเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส มีความแน่นเนื้อและปริมาณวิตามินซีสูงสุดคือ 5.27 กิโลกรัม และ 7.53 มิลลิกรัม/100 กรัม ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าพลับที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ของพลับ ที่ไม่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง มีค่าสูงสุดคือ 18.77 องศาบริกซ์ ส่วนปริมาณกรดที่ไตเตรทได้ของพลับที่ไม่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดคือ 0.27 เปอร์เซ็นต์และปริมาณแทนนินของพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิทั้งสองระดับมีค่าต่ำสุดคือ 1.00 คะแนน ตอนที่ 2 เป็นการศึกษาคุณภาพทางกายภาพและส่วนประกอบทางเคมีของผลพลับหลังการกำจัดความฝาดโดยใช้สภาพสูญญากาศและบรรยากาศปกติแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิห้อง (37 องศาเซลเซียส) นาน 15 วัน พบว่า พลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสมี ความแน่นเนื้อสูงสุดคือ 5.47 กิโลกรัม พลับที่ไม่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง มีปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้และปริมาณกรดที่ไตเตรทได้สูงสุดคือ 20.23 องศาบริกซ์ และ 0.24 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิทั้งสองระดับ ส่วนพลับที่ไม่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส มีปริมาณวิตามินซีสูงสุดคือ 4.97 มิลลิกรัม/100 กรัม และปริมาณแทนนินของพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องมีค่าต่ำสุด ตอนที่ 3 เป็นการศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพของผลพลับที่ผ่านวิธีการกำจัดความฝาด โดยการรมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยวิธี CTSD (control temperature short duration) และโดยสภาพสูญญากาศ เมื่อเก็บรักษานาน 28 วัน พบว่า พลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดโดยใช้สภาพสูญญากาศมีความแน่นเนื้อสูงสุดเท่ากับ 6.07 กิโลกรัม แต่ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ ปริมาณกรดที่ไตเตรทได้ และปริมาณวิตามินซีของพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดโดยใช้วิธี CTSD มีค่าสูงกว่าการกำจัดความฝาดโดยใช้วิธีอื่นซึ่งมีค่าเท่ากับ 22.60 องศาบริกซ์ 0.19 เปอร์เซ็นต์ และ 5.30 มิลลิกรัม/100 กรัม ตามลำดับ ส่วนปริมาณแทนนินของพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาดโดยใช้สภาพสูญญากาศมีปริมาณสูงสุดคือ 0.08 กรัม/100 กรัม และค่า L ค่า a และค่า b มีค่าสูงสุดเมื่อกำจัดความฝาดพลับโดยใช้สภาพสุญญากาศ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 59.73 20.87 และ 54.98 ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Study on physico-chemical quality of deastringence persimmon var. Xichu (P2) , was divided into 3 parts. First part was the study on physico-chemical quality of persimmon that was deastringent by 80%o carbondioxide and without adding carbondioxide then stored at 5 °C and room temperature (37 °C) for 10 days. The results showed that deastringence persimmon stored at 5 °C had the highest firmness and vitamin C level which were 5.27 kilograr and 7.53 milligran/100 gram respectively which higher than the one stored at room temperature. Non-deastringcnce persimmon stored at room temperature had the highest total soluble solids at 18.77 degree brix. Non-deastringence persimmon stored at 5 °C had the highest level of titratable acids at 0.27 percent. Tannin level of deastringence persimmon stored at 5 °C and room temperature were the lowest among treatments which equal to score 1.00. Part 2 was the study on physico-chemical quality of persimmon that was deastringent by vacuum condition and normal atmosphere then stored at 5 °C and room temperature (37 °C) for 15 days. It was found that deastringence persimmon stored at 5 °C had the highest firmness level which was 5.47 kilogram. Non-deastringence persimmon stored at room temperature had the highest total soluble solids and titratable acids level at 20.23 degree brix and 0.24 percent respectively which higher than deastringence persimmon stored at both temperature. Non-deastringence persimmon stored at 5 °C had the highest vitamin C level at 4.97 milligran/100 gram. Tannin level of deastringence persimmon stored at room temperature was the lowest. Part 3 was the study on comparision of the quality of persimmon that was deastringent by carbondioxide gas, CTSD (constant temperature short duration) and vacuum condition. When persimmon was stored for 28 days, the one in vacuum condition had the highest firmness level at 6.07 kilogram. CTSD persimmon had the highest total soluble solids , titratable acids and vitamin C content at 22.60 degree brix , 0. 19 percent and 5.30 milligram/100 gram respectively and higher than the others. Vacuum deastringence persimmon had the highest tannin level at 0.08 gram/100 gram. L, a and b value of the vacuum deastringence persimmon were the highest which were 59.73 , 20.87 and 54.98 respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/joacmu/article/view/247292/169157
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: อุณหภูมิ
คำสำคัญ (EN): temperature
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
คุณภาพทางกายภาพและเคมีของผลพลับที่ผ่านการกำจัดความฝาด
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2542
ผลของบรรจุภัณฑ์สุญญากาศต่อคุณภาพของผลพลับพันธุ์ ‘Xichu’ ภายหลังการขจัดความฝาด คุณภาพของผลพลับพันธุ์ Xichu ที่กำจัดความฝาดโดยสภาพสูญญากาศ สายพันธุ์ลูกพลับที่เหมาะสมต่อการผลิตลูกพลับกึ่งแห้ง คุณภาพทางกายภาพและเคมีหลังการเก็บเกี่ยวของผลสตรอเบอรี่ ผลของอุณหภูมิ และภาชนะบรรจุที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง คุณภาพของผลเม่าหลวง คุณภาพทางกายภาพและทางเคมีของผลสตรอเบอรี่หลังการเก็บเกี่ยว ผลของการลดอุณหภูมิโดยวิธีผ่านอากาศเย็นต่อคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผลสตรอเบอรีพันธุ์พระราชทาน 72 ผลของการอบแห้งด้วยเทคนิคฟลูอิไดซ์เบดอุณหภูมิสูงที่มีต่อคุณภาพของข้าวพันธุ์ก่ำดอยสะเก็ด ผลของการแช่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ต่อสมบัติทางเคมีกายภาพและคุณภาพการหุงสุกของข้าวเหนียวนึ่ง ผลของการทดแทนแป้งข้าวสาลีด้วยแป้งข้าวกล้องสังข์หยดต่อคุณภาพทางเคมีกายภาพและประสาทสัมผัสในผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก