สืบค้นงานวิจัย
ผลของการเสริม Mortierella alpina เพื่อเป็นแหล่งกรดไขมันอะแรชิโดนิค (20:4n-6) ในโรติเฟอร์ (Brachionus rotundiformis) และไรน้ำเค็ม (Artemia sp.) ต่อองค์ประกอบของกรดไขมัน การเจริญเติบโต พัฒนาการ อัตราการรอดตาย และพยาธิสภาพของปลากะรังเสือ Epinephelus fuscoguttatus (Forsskal, 1775) วัยอ่อน
อาคม สิงหบุญ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ผลของการเสริม Mortierella alpina เพื่อเป็นแหล่งกรดไขมันอะแรชิโดนิค (20:4n-6) ในโรติเฟอร์ (Brachionus rotundiformis) และไรน้ำเค็ม (Artemia sp.) ต่อองค์ประกอบของกรดไขมัน การเจริญเติบโต พัฒนาการ อัตราการรอดตาย และพยาธิสภาพของปลากะรังเสือ Epinephelus fuscoguttatus (Forsskal, 1775) วัยอ่อน
ชื่อเรื่อง (EN): Enrichment Effect of Mortierella alpina as a Source of Arachidonic Acids in Rotifer (Brachionus rotundiformis) and Brine Shrimp (Artemia sp.) on Fatty Acids Profile, Growth, Larval Development, Survival Rate and Histophatology of Tiger Grouper Epinephelus fuscoguttatus (Forsskal, 1775) Larvae
บทคัดย่อ: ศึกษาผลของการเสริมคุณค่าทางโภชนาการของโรติเฟอร์ด้วยMortierellaalpina เพื่อเป็นแหล่งของกรดไขมัน ARA ในการอนุบาลลูกปลากะรังเสือ (Epinephelusfuscoguttatus) วัยอ่อนต่อพัฒนาการ การเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย ความทนทานต่อความเครียดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงความเค็มและพยาธิสภาพของลูกปลา มี 2 การทดลองย่อย แต่ละการทดลองประกอบด้วย 3 ชุดการทดลอง ชุดการทดลองละ 3 ซ้ำ การทดลองที่ 1 ศึกษาการเสริมโรติเฟอร์ด้วย M. alpinaดังนี้ ชุดการทดลองที่ 1, 2 และ 3 โรติเฟอร์ไม่เสริม M. alpina, โรติเฟอร์เสริมด้วย M. alpina10 มก./ล.และ 30 มก./ล.ตามลำดับ การทดลองที่ 2 ศึกษาการเสริมโรติเฟอร์ด้วยM. alpinaร่วมกับ Schizochytrium sp. ดังนี้ ชุดการทดลองที่ 1, 2 และ 3 โรติเฟอร์ไม่เสริม Schizochytriumsp. และ M. alpina, โรติเฟอร์ เสริมด้วย Schizochytriumsp.100 มก./ล. ร่วมกับ M. alpina10 มก./ล. และโรติเฟอร์ เสริมด้วย Schizochytrium sp.100 มก./ล. ร่วมกับ M. alpina30 มก./ล. ตามลำดับ อัตราความหนาแน่น 2000 ตัวต่อถัง ให้อาหารวันละ 1 มื้อเป็นเวลา 15 วัน เมื่อสิ้นสุดการทดลองที่ 1 ลูกปลากะรังเสือทั้ง 3 ชุดการทดลองมีความยาวไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) และมีค่าเท่ากับ 4.64, 4.45 และ 4.58 มม. ตามลำดับ แต่มีอัตรารอดตายแตกต่างกัน (p0.05) แต่มีน้ำหนัก พัฒนาการ อัตรารอดตายและความทนทานต่อความเครียดแตกต่างกัน (p0.05) และมีค่าเท่ากับ 730 และ 765% ตามลำดับ ผลวิเคราะห์องค์ประกอบกรดไขมันในลูกปลามีกรดไขมันหลัก 16:0, 16:1n-7, 18:0, 18:1n-9 และกรดไขมัน ARA ในลูกปลาชุดการทดลองที่ 1, 2 และ 3 มีค่าเท่ากับ 4.93, 4.18 และ 4.25% ตามลำดับ สัดส่วน EPA/ARA มีค่าเพิ่มขึ้น ในขณะที่สัดส่วน n-3/n-6 และ DHA/EPA มีค่าลดลงและลูกปลากะรังเสือที่ได้รับการทดสอบความเครียดโดยความเค็มที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันเป็น 60 ส่วนในพันทั้ง 3 ชุดการทดลองมีสภาพของเหงือกผิดปรกติและแตกต่างจากชุดควบคุม ผลจากการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าลูกปลากะรังเสือในช่วงอายุ 15 วันแรก มีความต้องการกรดไขมัน ARA ร่วมกันกับกรดไขมัน DHA การเสริม M. alpinaในโรติเฟอร์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต และอัตรารอดตายของลูกปลากะรังเสือ การเสริมร่วมกันกับ Schizochytriumsp.ที่ระดับความเข้มข้น 100 มก./ล. ช่วยให้ลูกปลามีอัตรารอดตายและการเจริญเติบโตด้านน้ำหนักดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้ลูกปลามีความทนทานต่อความเครียดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงความเค็ม รูปแบบการเสริม M. alpinaที่เหมาะสมจากการศึกษาครั้งนี้ควรเสริม M. alpina 10 มก./ล. ร่วมกับ Schizochytriumsp. 100 มก./ล. หรืออัตราส่วนการผสม 1:10 โดยน้ำหนัก คำสำคัญ กรดไขมันจำเป็น 20:4n-6 MortierellaalpinaSchizochytrium sp. ความทนทานต่อความเครียดปลากะรังเสือ
บทคัดย่อ (EN): Enrichment effects of Mortierellaalpina as a source of Arachidonic acid (20:4n-6; ARA) in rotifer Brachionusrotundiformis on development, growth, survival rate, osmotic tolerance test and histophatology was investigated in tiger grouper (Epinephelusfuscoguttatus) larvae. There were 2 feeding trials. Each trial composed of 3 treatments each with 3 replications. In the first trial, rotifer were enriched with 3 different levels of M alpina as followed; none, 10 and 30 mgM. alpina/l, respectively. In the second trial, rotifer were enriched with 3 different levels of M alpina as in the first trial but with combination of 100 mg Schizochytrium sp./l as followed; none Schizochytriumsp.andM. alpina, 100 mg. Schizochytriumsp./l with 10 mgM. alpina/l and 100 mgSchizochytrium sp./l with 30 mg M. alpina /l, respectively.The tiger grouper larvae in each trial were reared at 2000 larvae/tank and fed once a day for 15 days. At termination of the first trail, there were no significant difference of the larval length among 3 treatments(p>0.05) which were equal to 4.64, 4.45 and4.58 mm, respectively. However, the significant difference were found in survival rate (p0.05), weight, development, survival rate and osmotic tolerance test were significantly difference among treatments (p0.05) and were equal to 730 and765%, respectively. After suddenly changed from 30 ppt to 60 ppt, gill histophatology of all treatment were destructured and were differ from that of the control. It was shown from the results that tiger grouper larvae required both ARA and DHA for the first 15 days. Enrichment of solely M. alpina in rotifer was not fulfilling the requirements for growth and survival rate. Addition of 100 mg Schizochytriumsp./l improved survival rate and growth as well as osmotic tolerance stress test. The enrichment of 10mg M. alpina /l together with 100 mg Schizochytriumsp./lor at ratio of 1:10by weight was recommend for nursing of tiger grouper during early larval stage. Key words:Essential fatty acid, Archidonic acid, Mortierellaalpina, Schizochytrium sp., Stress tolerance test, .Epinephelusfuscoguttatus
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: ปลากะรังเสือ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการเสริม Mortierella alpina เพื่อเป็นแหล่งกรดไขมันอะแรชิโดนิค (20:4n-6) ในโรติเฟอร์ (Brachionus rotundiformis) และไรน้ำเค็ม (Artemia sp.) ต่อองค์ประกอบของกรดไขมัน การเจริญเติบโต พัฒนาการ อัตราการรอดตาย และพยาธิสภาพของปลากะรังเสือ Epinephelus fuscoguttatus (Forsskal, 1775) วัยอ่อน
กรมประมง
31 มีนาคม 2556
กรมประมง
การผลิตกรดไขมันอะราคิโดนิกจากรา Mortierella sp. การผลิตกรดไขมันอะราคิโดนิกจากรา Mortierella sp. ระดับโปรตีนและไขมันที่เหมาะสมในอาหารสำหรับปลากะรังเสือ( Epinephelus fuscoguttatus Forsskal,1775) ศึกษาการตอบสนองภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะของปลากะรังเสือ (Epinephelus fuscoguttatus Forsskal, 1775)) อัตราการเจริญเติบโต อัตรารอด และคุณภาพเนื้อปลากะพงขาวที่เลี้ยงด้วยระบบต่างกัน การศึกษาลักษณะการเจริญเติบโตและการดูดซึมธาตุอาหารของต้นสาคูภายใต้สภาวะความเครียดที่เกิดจากความแห้งแล้งและเกลือ การเปรียบเทียบอัตราการเจริญเติบโตของปลาสวาย 4 กลุ่มประชากร ผลของไคโตซานต่อการเจริญเติบโตของปลาหมอ การเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย และผลผลิตของปลานิลแดงในบ่อพักน้ำเค็ม ปัจจัยที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นโรทาล่า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก