สืบค้นงานวิจัย
การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในระบบนิเวศป่าไม้: ภาคเหนือของประเทศไทย
ยงยุทธ ไตรสุรัตน์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในระบบนิเวศป่าไม้: ภาคเหนือของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Assessment of Climate Change Impacts on Mammals in Forest Ecosystems: Northern Thailand
บทคัดย่อ: การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในพื้นที่ระบบนิเวศป่าไม้ ภาคเหนือของประเทศไทย ยงยุทธ ไตรสุรัตน์ อัมพรพิมล ประยูร Holger Kreft บทคัดย่อ การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต ต่อการแพร่กระจายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ชนิดสัตว์ที่มีความเสี่ยง และจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่เหมาะสมในการประกาศพื้นที่คุ้มครองเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ข้อมูลการปรากฎของสัตว์ป่าได้รับจากการสำรวจสัตว์ป่าทั้งประเทศ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๔๗-๒๕๔๙ โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในการวิจัยครั้งนี้ ได้เลือกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน ๑๗ ชนิด เพื่อสร้างแบบจำลองการกระจาย โดยมีข้อมูลการปรากฎทั้งสิ้น ๕,๔๑๑ จุด ดำเนินการตัดข้อมูลสภาพภูมิอากาศ ที่มีรายละเอียดข้อมูล ขนาด ๑ ตร.กม. ตามภาพเหตุการณ์ B2a ที่ได้จากแบบจำลอง HadCM3 ครอบคลุมพื้นที่ศึกษา และใช้แบบจำลอง Maxent เพื่อประเมินถิ่นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของสัตว์ ประเมินและคัดเลือกจุดตัดค่าความน่าจะเป็นที่เหมาะสม (logistic threshold) และให้ความถูกต้องมากที่สุด ในการจำแนกพื้นที่ปรากฏและไม่ปรากฎของสัตว์ป่าแต่ละชนิด นอกจากนี้ ใช้เมตริกประเมินความเสี่ยงเชิงคุณภาพ (qualitative risk assessment matrix) และ gravity model เพื่อประเมินชนิดที่มีความเสี่ยงและพื้นที่ที่เหมาะสมในการประกาศพื้นที่คุ้มครองเพิ่มเติม ในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ตามลำดับ ผลการวิจัย พบว่าพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นจาก ๒๕.๔ ?C ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็น ๒๗.๑ ?C ในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ และปริมาณน้ำฝนรายปี เพิ่มขึ้นจาก ๑,๒๓๓ มม. เป็น ๑,๓๐๒ มม. ปัจจุบัน สัตว์ป่าจำนวน ๙ ชนิด มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจายน้อยกว่า ๑๐% และ ๖ ชนิด มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจาย ระหว่างร้อยละ ๑๐-๒๐ และที่เหลือ ๒ ชนิด (หมูป่าและเก้ง) มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจาย มากกว่าร้อยละ ๒๐ ชนิดที่ชอบอาศัยในป่าทึบ เช่น ชะนี หมาใน ช้าง จะมีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจายมากขึ้นภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สัตว์ป่าเกือบทุกชนิด ยกเว้น กวางผา ชะมด และเก้ง จะสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยหากมีการทำลายป่า และหากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำลายป่า พบว่าจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น สัตว์ป่าทุกชนิด ยกเว้น สมเสร็จ จะมีอัตราการเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่อาศัยจากเดิมมากกว่าร้อยละ ๓๐ และสัตว์ป่าจำนวน ๑๑ ชนิด จะจัดเป็นชนิดที่มีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้ที่ดิน และผลจากการวิเคราะห์ Cochran’s Q-test (การปรากฎ/ไม่ปรากฎ) และ Friedman test (ระดับความมากมายของชนิด) พบว่าแบบแผนการกระจายในปัจจุบันและในอนาคตแตกต่างกัน ความชุกชุมของสัตว์ป่าในปัจจุบันและอนาคต จะพบในพื้นที่คุ้มครองที่มีขนาดใหญ่และมีความสมบูรณ์ แต่พบว่าพื้นที่ที่มีความชุกชุมระดับปานกลาง-สูงมาก ลดลงจากร้อยละ ๒๔.๓๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นร้อยละ ๒๓.๘๑, ๒๐.๘๐ และ ๒๐.๘๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ ภายใต้ภาพเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน และทั้งสองภาพเหตุการณ์รวมกัน หากมีการประกาศพื้นที่คุ้มครองเพิ่นขึ้น ๑,๘๖๑ ตร.กม. จากแผนงานเดิม หรือเพิ่มจากร้อยละ ๓๑.๔ เป็นร้อยละ ๓๒.๕ พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยนี้ จะเพิ่มขีดความสามารถในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้ที่ดินในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยอย่างมาก การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในพื้นที่ระบบนิเวศป่าไม้ ภาคเหนือของประเทศไทย ยงยุทธ ไตรสุรัตน์ อัมพรพิมล ประยูร Holger Kreft บทคัดย่อ การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต ต่อการแพร่กระจายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ชนิดสัตว์ที่มีความเสี่ยง และจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่เหมาะสมในการประกาศพื้นที่คุ้มครองเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ข้อมูลการปรากฎของสัตว์ป่าได้รับจากการสำรวจสัตว์ป่าทั้งประเทศ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๔๗-๒๕๔๙ โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในการวิจัยครั้งนี้ ได้เลือกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน ๑๗ ชนิด เพื่อสร้างแบบจำลองการกระจาย โดยมีข้อมูลการปรากฎทั้งสิ้น ๕,๔๑๑ จุด ดำเนินการตัดข้อมูลสภาพภูมิอากาศ ที่มีรายละเอียดข้อมูล ขนาด ๑ ตร.กม. ตามภาพเหตุการณ์ B2a ที่ได้จากแบบจำลอง HadCM3 ครอบคลุมพื้นที่ศึกษา และใช้แบบจำลอง Maxent เพื่อประเมินถิ่นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของสัตว์ ประเมินและคัดเลือกจุดตัดค่าความน่าจะเป็นที่เหมาะสม (logistic threshold) และให้ความถูกต้องมากที่สุด ในการจำแนกพื้นที่ปรากฏและไม่ปรากฎของสัตว์ป่าแต่ละชนิด นอกจากนี้ ใช้เมตริกประเมินความเสี่ยงเชิงคุณภาพ (qualitative risk assessment matrix) และ gravity model เพื่อประเมินชนิดที่มีความเสี่ยงและพื้นที่ที่เหมาะสมในการประกาศพื้นที่คุ้มครองเพิ่มเติม ในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ตามลำดับ ผลการวิจัย พบว่าพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นจาก ๒๕.๔ ?C ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็น ๒๗.๑ ?C ในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ และปริมาณน้ำฝนรายปี เพิ่มขึ้นจาก ๑,๒๓๓ มม. เป็น ๑,๓๐๒ มม. ปัจจุบัน สัตว์ป่าจำนวน ๙ ชนิด มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจายน้อยกว่า ๑๐% และ ๖ ชนิด มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจาย ระหว่างร้อยละ ๑๐-๒๐ และที่เหลือ ๒ ชนิด (หมูป่าและเก้ง) มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจาย มากกว่าร้อยละ ๒๐ ชนิดที่ชอบอาศัยในป่าทึบ เช่น ชะนี หมาใน ช้าง จะมีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการกระจายมากขึ้นภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สัตว์ป่าเกือบทุกชนิด ยกเว้น กวางผา ชะมด และเก้ง จะสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยหากมีการทำลายป่า และหากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำลายป่า พบว่าจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น สัตว์ป่าทุกชนิด ยกเว้น สมเสร็จ จะมีอัตราการเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่อาศัยจากเดิมมากกว่าร้อยละ ๓๐ และสัตว์ป่าจำนวน ๑๑ ชนิด จะจัดเป็นชนิดที่มีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้ที่ดิน และผลจากการวิเคราะห์ Cochran’s Q-test (การปรากฎ/ไม่ปรากฎ) และ Friedman test (ระดับความมากมายของชนิด) พบว่าแบบแผนการกระจายในปัจจุบันและในอนาคตแตกต่างกัน ความชุกชุมของสัตว์ป่าในปัจจุบันและอนาคต จะพบในพื้นที่คุ้มครองที่มีขนาดใหญ่และมีความสมบูรณ์ แต่พบว่าพื้นที่ที่มีความชุกชุมระดับปานกลาง-สูงมาก ลดลงจากร้อยละ ๒๔.๓๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นร้อยละ ๒๓.๘๑, ๒๐.๘๐ และ ๒๐.๘๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ ภายใต้ภาพเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน และทั้งสองภาพเหตุการณ์รวมกัน หากมีการประกาศพื้นที่คุ้มครองเพิ่นขึ้น ๑,๘๖๑ ตร.กม. จากแผนงานเดิม หรือเพิ่มจากร้อยละ ๓๑.๔ เป็นร้อยละ ๓๒.๕ พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยนี้ จะเพิ่มขีดความสามารถในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้ที่ดินในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยอย่างมาก
บทคัดย่อ (EN): ASSESSING THE IMPACTS OF CLIMATE CHANGE AND LAND USE ON MAMMAL DISTRIBUTIONS IN FOREST ECOSYSTEM, NORTHERN THAILAND Yongyut Trisurat , Ampornpimon Prayoon and Holger Kreft The objectives of this research study were to evaluate the consequences of future climate and land use changes on potential shifts in distribution of large mammal species, to assess species at risk and to priority additional protected area networks to mitigate the impacts in northern Thailand. Wildlife occurrences were obtained from the nationwide inventory conducted by the Department of National Park, Wildlife and Plant Conservation (DNP) during 2004-2006. Seventeen mammal species were selected for predicting their distributions and the total numbers of presence records were 5,411. A sub-scene of the predicted high resolution climate of 1 km in the year 2050, under the B2a scenario of the Hadley Centre Coupled Model, version 3 (HadCM3), was extracted. . A machine learning algorithm based on the maximum entropy theory (Maxent) was employed to generate ecological niches or suitable habitats of 17 species. Several potential logistic thresholds generated by Maxent were evaluated and the best threshold that provided the highest accuracy was selected for each species for classifying predicted presence and absence. In addition, a qualitative risk assessment matrix and the gravity model were employed to determine species at risk and priority areas for establishment of new protected areas to mitigate with future climate and land use change, respectively. The results of the research showed that temperature in northern Thailand will increase from 25.4 ?C in 2000 to 27.1 ?C in 2050, while the annual precipitation will increase from 1,233 mm to 1,302 mm in the same period. Currently, nine species have suitable habitats less than 10 percent of the region, six species have suitable habitats between 10-20 percent and only two species (wild boar and barking deer) have more than 20 percent. Species that prefer dense habitats such as gibbon, dhole and elephant slightly gain suitable habitats under future climate change. However, most species except goral, civet, gaur and barking deer lose their habitat under deforestation. If future climate change and deforestation were combined, the predicted impacts are more severe than individual driver. For instance, turnover rate of all species, except tapir are greater than 30 percent of the current distribution range and 11 species are listed as risk species to climate and land use changes. Meanwhile, the results of Cochran’s Q-test (presence/absence) and Friedman test (species richness classes) indicated that the patterns of current and future distributions are not the same. Species concentrations at current and in the future are mainly located in large and intact protected forest complexes. However, the percentage of moderate-very high concentrations will decrease from 24.38% in 2000 to 23.81, 20.80 and 20.88 % in 2050 according to climate change, land use change and combined scenarios. By increasing protected areas 1,861 km2 from the current plan or from 31.4 percent as planned to 32.5 percent, this minimal conservation effort will significantly increase coping capacity to future climate and land use changes in the northern Thailand. ASSESSING THE IMPACTS OF CLIMATE CHANGE AND LAND USE ON MAMMAL DISTRIBUTIONS IN FOREST ECOSYSTEM, NORTHERN THAILAND Yongyut Trisurat , Ampornpimon Prayoon and Holger Kreft The objectives of this research study were to evaluate the consequences of future climate and land use changes on potential shifts in distribution of large mammal species, to assess species at risk and to priority additional protected area networks to mitigate the impacts in northern Thailand. Wildlife occurrences were obtained from the nationwide inventory conducted by the Department of National Park, Wildlife and Plant Conservation (DNP) during 2004-2006. Seventeen mammal species were selected for predicting their distributions and the total numbers of presence records were 5,411. A sub-scene of the predicted high resolution climate of 1 km in the year 2050, under the B2a scenario of the Hadley Centre Coupled Model, version 3 (HadCM3), was extracted. . A machine learning algorithm based on the maximum entropy theory (Maxent) was employed to generate ecological niches or suitable habitats of 17 species. Several potential logistic thresholds generated by Maxent were evaluated and the best threshold that provided the highest accuracy was selected for each species for classifying predicted presence and absence. In addition, a qualitative risk assessment matrix and the gravity model were employed to determine species at risk and priority areas for establishment of new protected areas to mitigate with future climate and land use change, respectively. The results of the research showed that temperature in northern Thailand will increase from 25.4 ?C in 2000 to 27.1 ?C in 2050, while the annual precipitation will increase from 1,233 mm to 1,302 mm in the same period. Currently, nine species have suitable habitats less than 10 percent of the region, six species have suitable habitats between 10-20 percent and only two species (wild boar and barking deer) have more than 20 percent. Species that prefer dense habitats such as gibbon, dhole and elephant slightly gain suitable habitats under future climate change. However, most species except goral, civet, gaur and barking deer lose their habitat under deforestation. If future climate change and deforestation were combined, the predicted impacts are more severe than individual driver. For instance, turnover rate of all species, except tapir are greater than 30 percent of the current distribution range and 11 species are listed as risk species to climate and land use changes. Meanwhile, the results of Cochran’s Q-test (presence/absence) and Friedman test (species richness classes) indicated that the patterns of current and future distributions are not the same. Species concentrations at current and in the future are mainly located in large and intact protected forest complexes. However, the percentage of moderate-very high concentrations will decrease from 24.38% in 2000 to 23.81, 20.80 and 20.88 % in 2050 according to climate change, land use change and combined scenarios. By increasing protected areas 1,861 km2 from the current plan or from 31.4 percent as planned to 32.5 percent, this minimal conservation effort will significantly increase coping capacity to future climate and land use changes in the northern Thailand.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ประเทศไทย
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในระบบนิเวศป่าไม้: ภาคเหนือของประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2555
การศึกษาผลกระทบของพันธกรณีระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกต่อปศุสัตว์ของประเทศไทย ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการผลิตอ้อยในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย : พื้นที่ศึกษา จังหวัดกาฬสินธุ์ ผลกระทบของความหลากหลายของสภาพแวดล้อมต่อการผลิตอ้อยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอดีตของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยโดยการวิเคราะห์วงปีไม้ สภาพของปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการส่งเสริมการปลูกระหุ่งในภาคเหนือของประเทศไทย การกำหนดพื้นที่พิบัติภัยเชิงภูมิศาสตร์ในประเทศไทยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ศึกษาเปรียบเทียบผลสัพธ์จากการสร้างและพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ GAPS เพื่อประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อผลผลิตของพืชเศรษฐกิจ (มังคุดและยางพารา) ในภาคใต้(จ.นครศรีธรรมราช) ภาคตะวันออก การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อ ความทนทาน ผลผลิต และสารอาหารสำคัญของข้าวทางการค้าในเขตภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง การจัดการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในภาคเหนือของประเทศไทย การประเมินลักษณะประชากรงาขี้ม้อนพื้นเมืองจากภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก