สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสในกล้วยไม้สกุลหวาย
Uraiwan Akrapikulchart - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสในกล้วยไม้สกุลหวาย
ชื่อเรื่อง (EN): Efficiency of antagonistic microorganisms to biocontrol of anthracnose disease in Dendrobium Sp
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Uraiwan Akrapikulchart
บทคัดย่อ: Colletotrichum gloeosporioides เป็นสาเหตุของโรคแอนแทรคโนสในกล้วยไม้ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการ สูญเสียคุณภาพและปริมาณผลผลิต ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงเป็นการคัดแยกจุลินทรีย์จากกล้วยไม้และดินบริเวณรอบ รากพืชแปลงกล้วยไม้และนำมาศึกษาความสามารถของจุลินทรีย์ในการยับยั้งการเจริญของ Colletotrichum gloeosporioides จากการศึกษา สามารถคัดแยกแบคทีเรียและแอคติโนมัยซีทได้ 201 และ 146 ไอโซเลท ตามลำดับ โดยจุลินทรีย์ไอโซเลท SRA14 และ NBR46 มีประสิทฺภาพดีที่สุดในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา C.gloeosporioides.และเมื่อนำมาจำแนกสายพันธุ์โดยใช้วิธีการหาลำดับเบส 16s rDNA พบว่าจุลินทรีย์ไอโซเลท SRA14 และ NBR46 เป็น Steptomyces sp. และ Pantoea sp. ตามลำดับ แต่มีรายงานว่า Pantoea sp. เป็นแบคทีเรีย ก่อโรคพืช จึงไม่นำไอโซเลท NBR46 มาทำการศึกษาต่อ เมื่อนำน้ำเลี้ยงเชื้อของ Steptomyces sp. SRA14 มา ทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้ง C. gloeosporioides.พบว่า เปอร์เซ็นต์การยับยั้งเชื้อรา C. gloeosporioides ของ น้ำเลี้ยงเชื้อที่เก็บจากช่วง stationary มีประสิทธิภาพดีกว่าช่วง exponential อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อนำมา สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของเส้นใยเชื้อราภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยการนำมาเลี้ยงบน PDA ที่ผสมกับน้ำเลี้ยงเชื้อ พบว่า เส้ยใย ของ C. gloeosporioides แตก บวม และเส้นใย ขมวดเป็นปม จากนั้นนำน้ำเลี้ยงเชื้อมาทดสอบ ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคแอนแทรคโนสกับกล้วยไม้ในสภาพแปลงปลูก ผลการศึกษาพบว่า น้ำเลี้ยงเชื้อ ในช่วง stationary สามารถยับยั้งการเกิดโรคแอนแทรคโนสของ C. gloeosporioides ได้โดยในช่วง stationary สามารถยับยั้งการก่อโรคของ C. gloeosporioides ได้ไม่แตกต่างกับการใช้สารเคมีแมนโคเซ็บอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในช่วง stationary เชื้อ Steptomyces sp. SRA14 ได้มีการสร้างสาร metabolite ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อรา C. gloeosporioides และเชื้อ Steptomyces sp. SRA14 สามารถนำมาใช้แทนสารเคมีในการควบคุมโรคแอนแทรค โนสได้
บทคัดย่อ (EN): Colletotrichum gloeosporioides causes anthracnose disease of orchids, resulting in quality loss and yield loss. The aims of this study were to isolate the microbial antagonist from orchids and soil and evaluate its potential for growth inhibition of Colletotrichum gloeosporioides. A total of 201 bacterial isolates and 146 actinomycete isolates were collected. From antagonistic activity assay, isolate NO. SR14 and NBR46 showed high antifungal activity against C.gloeosporioides. Both SR14 and NBR46 were identified by 16s rDNA sequencing analysis. SR14 and NBR46 were identified as Steptomyces sp. and Pantoea sp., respectively. Unfortunately, Pantoea sp. is phytopathogenic bacteria, thus, this isolate was not selected for further study. Cell free culture filtrates of S. hygroscopicus SRA14 inhibited the growth of C. gloeosporioides. The percentage of growth inhibition by the stationary culture filtrate was significantly higher than that of exponential culture filtrate. Additionally, morphological changes such as hyphal swelling and abnormal shapes were observed in fungi grown on potato dextrose agar that contained the culture filtrates. Culture filtrates were used for biocontrol of anthracnose disease in orchids. The results found that application of culture filtrates was able to prevent the expression of anthracnose disease in orchids, indicating that disease inhibition was due to antifungal metabolites in the culture filtrates. No significant prevention of anthracnose disease development was observed in the stationary culture filtrate and mancozab-treated leaves. Present data suggest the stationary culture filtrate of Steptomyces sp. SRA14 can be use as biofungicide for control of anthracnose disease in Dendrobium orchids.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5796&obj_id=5625
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Streptomyces
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: Colletotrichum gloeosporioides เป็นสาเหตุของโรคแอนแทรคโนสในกล้วยไม้ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการ สูญเสียคุณภาพและปริมาณผลผลิต ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงเป็นการคัดแยกจุลินทรีย์จากกล้วยไม้และดินบริเวณรอบ รากพืชแปลงกล้วยไม้และนำมาศึกษาความสามารถของจุลินทรีย์ในการยับยั้งการเจริญของ Colletotrichum gloeosporioides จากการศึกษา สามารถคัดแยกแบคทีเรียและแอคติโนมัยซีทได้ 201 และ 146 ไอโซเลท ตามลำดับ โดยจุลินทรีย์ไอโซเลท SRA14 และ NBR46 มีประสิทฺภาพดีที่สุดในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา C.gloeosporioides.และเมื่อนำมาจำแนกสายพันธุ์โดยใช้วิธีการหาลำดับเบส 16s rDNA พบว่าจุลินทรีย์ไอโซเลท SRA14 และ NBR46 เป็น Steptomyces sp. และ Pantoea sp. ตามลำดับ แต่มีรายงานว่า Pantoea sp. เป็นแบคทีเรีย ก่อโรคพืช จึงไม่นำไอโซเลท NBR46 มาทำการศึกษาต่อ เมื่อนำน้ำเลี้ยงเชื้อของ Steptomyces sp. SRA14 มา ทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้ง C. gloeosporioides.พบว่า เปอร์เซ็นต์การยับยั้งเชื้อรา C. gloeosporioides ของ น้ำเลี้ยงเชื้อที่เก็บจากช่วง stationary มีประสิทธิภาพดีกว่าช่วง exponential อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อนำมา สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของเส้นใยเชื้อราภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยการนำมาเลี้ยงบน PDA ที่ผสมกับน้ำเลี้ยงเชื้อ พบว่า เส้ยใย ของ C. gloeosporioides แตก บวม และเส้นใย ขมวดเป็นปม จากนั้นนำน้ำเลี้ยงเชื้อมาทดสอบ ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคแอนแทรคโนสกับกล้วยไม้ในสภาพแปลงปลูก ผลการศึกษาพบว่า น้ำเลี้ยงเชื้อ ในช่วง stationary สามารถยับยั้งการเกิดโรคแอนแทรคโนสของ C. gloeosporioides ได้โดยในช่วง stationary สามารถยับยั้งการก่อโรคของ C. gloeosporioides ได้ไม่แตกต่างกับการใช้สารเคมีแมนโคเซ็บอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในช่วง stationary เชื้อ Steptomyces sp. SRA14 ได้มีการสร้างสาร metabolite ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อรา C. gloeosporioides และเชื้อ Steptomyces sp. SRA14 สามารถนำมาใช้แทนสารเคมีในการควบคุมโรคแอนแทรค โนสได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสในกล้วยไม้สกุลหวาย
Uraiwan Akrapikulchart
มหาวิทยาลัยมหิดล
2552
การใช้จุลินทรีย์คิโตเมี่ยมควบคุมโรคแอนแทรคโนสของปาล์ม. ผลของสารสกัดจากพืชที่มีต่อความรุนแรงของโรคแอนแทรคโนส การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไหลสตรอเบอรี่เชิงการค้าโดยใช้เชื้อปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคแอนแทรกโนส ผลของการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงโดยไทเทเนียมไดออกไซด์ต่อการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองหลังการเก็บเกี่ยว การประยุกต์ใช้จุลทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สกุลหวาย กรณีศึกษาอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม การศึกษาความสามารถในการผสมและความสามารถในการต้านทานโรคแอนแทรคโนสของลูกผสมข้ามชนิดของพริก การตรวจสอบและการควบคุมเชื้อรา Colletotrichum spp. สาเหตุโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงที่ดื้อต่อสารป้องกันกำจัดเชื้อราคาร์เบนดาซิม สูตรชีวภัณฑ์ของเชื้อแบคทีเรียปฏิปักษ์เพื่อควบคุมโรคทางดินของมะเขือเทศ การสร้างต้นแบบออนโทโลยีพันธุ์กล้วยไม้สกุลหวาย ความสามารถในการผสมข้ามระหว่างกล้วยไม้หวายกลิ่นหอมกับกล้วยไม้หวายพันธุ์การค้า และการจำแนกลูกผสมโดยเทคนิคอาร์เอพีดี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก