สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวให้สัมฤทธิ์ผล “กรณีศึกษาในเขตพื้นที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว”
เปรมฤดี เสริฐวิชา - สํานักชลประทานที่ 6
ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวให้สัมฤทธิ์ผล “กรณีศึกษาในเขตพื้นที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว”
ชื่อเรื่อง (EN): Water use group manamgement for successful knowledge development : Case Study of Lam Pao irrigated area
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เปรมฤดี เสริฐวิชา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Permruedee Sertwicha
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมชลประทาน
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ: การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและพัฒนารูปแบบมาตรฐานการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม และ 2) เพื่อศึกษาปรับปรุงรูปแบบการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำในเขตพื้นที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จำนวน 185 คน และคณะกรรการกลุ่มผู้ใช้น้ำ จำนวน 69 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยโปรแกรม SPSS for Windows เพื่อหาค่าความถี่ ร้อยละ สูงสุด ต่ำสุด เฉลี่ยเลขคณิต เบี่ยงเบนมาตรฐาน และ F-test ผลการวิจัยมีดังนี้ สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำส่วนใหญ่เป็นชาย มีอายุเฉลี่ย 53.2 ปี มีสมาชิกต่อครัวเรือนเฉลี่ย 4.5 คน มีพื้นที่ถือครองการเกษตรต่อครัวเรือนเฉลี่ย 14.6 ไร่ โดย 12.0 ไร่ อยู่ในเขตชลประทาน มีรายได้ภาคการเกษตรต่อครัวเรือนเฉลี่ย 143,175.09 บาทต่อปี และมีรายได้นอกภาคการเกษตรต่อครัวเรือนเฉลี่ย 33,201.35 บาทต่อปี ผลการศึกษาการปฏิบัติในการจัดการน้ำของสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำ ที่แบ่งออกเป็น 6 ด้าน จำนวน 36 ประเด็น ประกอบด้วย 1) ด้านการจัดการน้ำชลประทาน จำนวน 11 ประเด็น 2) ด้านการบริหารงานภายในองค์กร จำนวน 9 ประเด็น 3) ด้านการบำรุงดูแลรักษาบูรณะซ่อมแซมระบบชลประทาน จำนวน 5 ประเด็น 4) ด้านการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ชลประทาน จำนวน 3 ประเด็น 5) ด้านการพัฒนาการผลิตและดำเนินธุรกิจ จำนวน 3 ประเด็น และ 6) ด้านสภาพการผลิตที่ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ จำนวน 5 ประเด็น พบว่า มี 33 ประเด็น ที่มีการตอบว่า มีการการปฏิบัติ “ทุกครั้ง” หรือ “เกือบทุกครั้ง” มีเพียง 3 ประเด็นในด้านการพัฒนาการผลิตและดำเนินธุรกิจ ที่มีการระบุว่า มีการปฏิบัติ “นานๆ ครั้ง” ได้แก่ (1) ได้รับความรู้วิธีการผลิตพืชแบบผสมผสาน (2) การลดพื้นที่เพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำมากในฤดูแล้ง และ (3) การปลูกพืชปรุงบำรุงดิน 2 เมื่อเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติในการจัดการน้ำของสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำที่มี อายุ และขนาดพื้นที่ถือครองแตกต่างกัน พบว่า มีระดับการปฏิบัติแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในบางประเด็น การศึกษาเกี่ยวกับปัญหา 6 ด้าน จำนวน 21 ประเด็น พบว่า ประเด็นที่สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำระบุว่าเป็นปัญหา 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ราคาผลผลิตตกต่ำไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลง 2) ขาดความรู้และผู้นำด้านการตลาด 3) ขาดแหล่งรับซื้อผลผลิตที่ได้ราคาที่เป็นธรรม 4) การติดตามการส่งน้ำของเจ้าหน้าที่ชลประทาน และ 5) ขาดการจัดฝึกอบรมและศึกษาดูงาน การศึกษาความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการของคณะกรรมการบริหารกลุ่มผู้ใช้น้ำ 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการจัดการน้ำชลประทาน 2) ด้านการดูแลและบำรุงรักษา 3) ด้านการบริหารงานภายในกลุ่มผู้ใช้น้ำ 4) ด้านการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ชลประทาน และ 5) ภาพรวมต่อการบริหารจัดการของกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน จำนวนรวมทั้งสิ้น 38 ประเด็น พบว่า จากการประเมิน 5 ระดับ คือ น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก และ มากที่สุด เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ยพบว่าคณะกรรมการบริหารกลุ่มผู้ใช้น้ำให้การประเมินอยู่ในระดับ “มาก” จำนวน 29 ประเด็น และระดับ “ปานกลาง” จำนวน 9 ประเด็น
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this were: 1) to study and develop a standard model for appropriate water management, and 2) to study how to improve the effectiveness of water management. Data were collected by interviewing 185 group members and 69 committee members of the water user groups in Lam Pao Irrigation areas. The data were analyzed by SPSS for Windows computer program for frequency, percentage, maximum, minimum, mean, standard deviation and F-test. The results are as follows. Water user group members were mostly men with an average age of 53.2 years. Their average household size was 4.5 persons. They had agricultural land for the average of 14.6 Rai per household, with 12.0 Rai in irrigated area. Their average annual farm income and non-farm income were 143,175.09 and 33,201.35 Baht per household, respectively. The study on the practices of water management of group members in 6 aspects with 36 items, including 1) management of irrigation water aspect with 11 items, 2) organizational management aspect with 9 items, 3) maintenance and repairing of irrigation system aspect with 5 items, 4) support from irrigation officials aspect with 3 items, 5) development of agricultural production and business aspect with 3 items, and 6) efficiency of water use aspect with 5 items, it was found that 33 items had average response as practiced at the “always” or "almost always" levels. There were only 3 items in the development of agricultural production and business aspect that had practiced on the average at the "rarely" level, including (1) receiving knowledge on integrated farming, (2) reducing the cultivated area of crops with high water requirement during the dry season, and (3) cultivation of crops that help improve soil fertility. When comparing levels of action in water management of group members with different age groups and sizes of land holdings, statistically significant differences were found on some items. When assessing problems on in 6 aspects with 21 issues, it was found that the first 5 issues of problems as mentioned by the members of water user groups were: 1) low price of agricultural products, 2) lack of knowledge and leadership in marketing, 3) lack of market places that purchasing products with reasonable price, 4) monitoring of irrigation water supply staff, and 5) lack of training and study tours. 4 When assessing opinions of group committee members towards water management in 5 aspects: 1) management of irrigation water, 2) caring and maintenance and irrigation system, 3) management of water user group, 4) support of irrigation officials, and 5) overview on the management of water user group for a total of 38 issues with 5 evaluation levels, including lowest, low, moderate, high and highest, it was found that 29 issues had the average score at the “high” level and 9 issues had the average score at the “moderate” level.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://drive.google.com/file/d/1hx5hJuPJQBhTKJk5kytMux3R7aoBEPnD/view?usp=share_link
เผยแพร่โดย: สํานักชลประทานที่ 6
คำสำคัญ: เขื่อนลำปาวและพื้นที่ชลประทาน
คำสำคัญ (EN): achievement
หมวดหมู่: อื่นๆ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
รายละเอียด: Approved for entry into archive by รดา รุจณรงค์ (กรมชลประทาน) (rada_ru@rid.go.th) on 2017-10-02T07:23:23Z (GMT) No. of bitstreams: 0
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

เปรมฤดี เสริฐวิชา. "การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวให้สัมฤทธิ์ผล “กรณีศึกษาในเขตพื้นที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว”Water use group manamgement for successful knowledge development : Case Study of Lam Pao irrigated area". สํานักชลประทานที่ 6. 2553

เปรมฤดี เสริฐวิชา. "การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวให้สัมฤทธิ์ผล “กรณีศึกษาในเขตพื้นที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว”Water use group manamgement for successful knowledge development : Case Study of Lam Pao irrigated area". สํานักชลประทานที่ 6. 2553. Print.



TARR Wordcloud:
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวให้สัมฤทธิ์ผล “กรณีศึกษาในเขตพื้นที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว”
เปรมฤดี เสริฐวิชา
สํานักชลประทานที่ 6
2553
โครงการศึกษารูปแบบและกระบวนการพัฒนาองค์กรชุมชนบนพื้นที่สูง การศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิคในการพัฒนารูปแบบการจัดการขยะมูลฝอยในพื้นที่ท่องเที่ยว ความถี่ อัตราและช่วงระยะเวลาการให้น้ำสำหรับอ้อยในเขตชลประทานภาคกลาง แนวทางการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างสรรค์แบบคาร์บอนต่ำในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศไทย โครงการทดสอบรูปแบบการพัฒนาชุมชนต้นแบบโครงการหลวงในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง การศึกษารูปแบบการพัฒนาทายาทเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน ขององค์กรชุมชนและเครือข่ายเพื่อการวางแผนพัฒนาภายใต้กรอบความร่วมมือกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รูปแบบการบริหารจัดการสถาบันการจัดการเงินทุนชุมชนในเขตภาคกลางตอนบน (ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท และอ่างทอง) คู่มือการบริหารจัดการน้ำและแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ การพัฒนาการใช้ไหมอีรี่เป็นอาหารกุ้งก้ามกราม โครงการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวด้วยการใช้วัสดุปรับปรุงดิน ร่วมกับการบริหารจัดการน้ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair