สืบค้นงานวิจัย
การจัดการโปรแกรมการท่องเที่ยวตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของชุมชนบ้านแม่สา ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
วินิตรา ลีละพัฒนา - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การจัดการโปรแกรมการท่องเที่ยวตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของชุมชนบ้านแม่สา ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Maesa Community Tourism Management Program through Sufficiency Economy Philosophy, Pongyang Sub district, Maerim District, Chiang Mai Province, Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วินิตรา ลีละพัฒนา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Winitra Leelapattana
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตุประสงค์หลักคือการถ่ายทอดและประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจและพระราชเสาวนีย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับพระบรมราชวงศ์ ในพื้นที่ชุมชนบ้านแม่สา ตามการจัดการโปรแกรมการท่องเที่ยวภายในชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเผ่าม้งบ้านแม่สา ด้วยเทคนิคและวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์ สังเกตและการประชุมกลุ่มย่อยจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องภายในชุมชน รวมทั้งภายนอกชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 79 ราย จากนั้นนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ด้วยสิถิติบรรยายเพื่ออธิบายข้อมูลจากอดีตสู่ปัจจุบัน ตลอดจนการอภิปรายและเปรียบเทียบข้อมูลที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิและข้อมูลปฐมภูมิ ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยการวิพากษ์ข้อมูลจากการประชาคมทั้งในและนอกพื้นที่จนเชื่อมั่นว่าข้อมูลนั้นเป็นความจริงมากที่สุด ผลการวิจัยพบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชวงศ์ทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังพื้นที่บ้านม้งดอยปุยเมื่อปี พ.ศ. 2507 เป็นครั้งแรกจากนั้นได้เสด็จเยื่ยมเยือนราษฎรชุมชนเผ่าม้งบ้านแม่สาใหม่ เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2512 และทรงเสด็จมาอีกหลายครั้งอย่างต่อเนื่องเพื่อทอดพระเนตรและติดตามโครงการพัฒนาต่างๆ ภายในชุมชนนี้จนประชาชนชาวเผ่าม้งเลิกปลูกฝิ่นและหันมาประกอบอาชีพทางการเกษตรอื่นๆ ทดแทนด้วยการใช้พื้นที่อย่างเป็นประโยชน์ อนุรักษ์ดินและทรัพยากรป่าไม้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามพระราโชบายที่ว่า “การที่แจกสิ่งของหรือเงินแก่ราษฎรนั้นเป็นการช่วยเหลือชั่วคราวไม่ยั่งยืน แต่การที่จะช่วยเหลือประชาชนอยู่รอดได้ก็คือการให้อาชีพ” หรือพระราชดำรัสที่ว่า “ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก” นั่นเอง สำหรับการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวภายในชุมชนบ้านแม่สานั้น ชุมชนได้ร่วมกับคณะผู้วิจัยจัดทำโปรแกรมซึ่งสามารถจำแนกได้ 3 โปรแกรมคือ 1) โปรแกรมการท่องเที่ยวธรรมชาติและวิถีชีวิตเกษตร (1วัน) 2) โปรแกรมการท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชนเผ่าม้ง วิถีชีวิตและบ้านพักโฮมสเตย์ (2 วัน 1 คืน) และ 3 โปรแกรมการท่องเที่ยวตามฤดูกาลหรือประเพณีชนเผ่าม้ง โดยโปรแกรมการท่องเที่ยวเหล่านี้ได้กำหนดให้มีกิจกรรมการบริการต่างๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นอกจากนี้ชุมชนมีความพร้อมในการให้บริการด้วยการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดการการท่องเที่ยวทั้ง 3 องค์ประกอบหลักคือ 1) ความพอประมาณซึ่งมีมติร่วมกันว่าการท่องเที่ยวไม่ใช่เป็นการที่รับผลเป็นตัวเงินเท่านั้น แต่จะมองถึงความยั่งยืนของชุมชนและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก มีการกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมภายในชุมชน ไม่มีผู้ใดผูกขาดผลประโยชน์ 2) ความมีเหตุมีผลโดยการกำหนดกฎกติกาและระเบียบของการท่องเที่ยวภายในชุมชนและ 3) การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเองโดยเฉพาะ “ภาษาม้ง” ซึ่งมีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างน่าประทับใจถึงแม้ว่า ชุมชนเผ่าม้งจะไม่มีภาษาเขียนแต่พวกเขาก็สามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ชุมชนบ้านแม่สายังสามารถประยุกต์ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญา มาเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี เช่น กระบวนการทำผ้าลายเขียนเทียน การทอผ้าใยกัญชง และการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าม้ง เป็นต้น ส่วนเงื่อนไขด้านคุณธรรมนั้น ชุมชนบ้านแม่สาได้ยึดถือปฎิบัติเป็นอย่างดียิ่งด้วยการเลิกปลูกฝิ่นและไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งนี้ตั้งแต่ได้ถวายคำสัตย์ปฎิญาณไว้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชนเผ่าม้งบ้านแม่สาได้น้อมนำคำปฏิญาณนั้นมายึดถือและปฏิบัติ พร้อมทั้งถ่ายทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ชุมชนบ้านแม่สาได้รับการประกาศให้เป็นชุมชนมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยระหว่างปี พ.ศ. 2554 - 2557 ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนได้ร่วมกันใช้สติปัญญาตลอดจนภูมิปัญญาในการวิเคราะห์และเข้าใจปัญหาต่ออุปสรรคต่างๆ อย่างไม่ย่อท้อจนผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านั้นก็ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชวงศ์ของปวงชนชาวไทยนั่นเอง
บทคัดย่อ (EN): The main objective of this research for publicizing and broadcasting of the Royal duties at Maesa community to interest people by local participation in Maesa community tourism management program through Sufficiency Economy Philosophy. Totally of the respondent in this research were 76 who involved in this program. Using qualitative research techniques such as interview, observation and group forum were used for collecting data and analyzed by descriptive statistics to describe his Royal development project and debate or compare the data between secondary and primary data for confirming the truth from all of stakeholders with insiders and outsiders. The results of this research evident that in 1964, His Majesty King Bhumibol Adulyadej of Thailand accompanied by Her Majesty Queen Sirikit and other member of the Royal family, visited the Hmong village of Doi Pui (Pui mountain) near Chiang Mai. Following five years (January 22, 1969) they came to visit Hmong village at Maesa community. Many Royal development projects from His Majesty were developed at this community. His Majesty in order to eradicate opium poppy cultivation, encourage a wise and proper balance in utilizing and conserving land and forest resources. Since then the opium poppy cultivation has transformed to the cultivation of highland crops which provide the Hmong a better life. From the King’s initiatives, His Majesty immediately realized that “It is not sustainable way for giving money or some things to people, but how educated their occupation” or “Help the hill tribes, Help the Thais, Help the world”. Furthermore, the results show that local people participated with researchers to decide tourism program of Maesa community in to three programs; 1) Natural and Traditional Agricultural tourism program (1day). 2) Hmong culture, way of life and homestay tourism program (2 days 1 night), and 3) Hmong traditional and event tourism program. Those of tourism programs would be well managed for Thais and non-Thais tourist service activities. Moreso, this community has applied the Sufficiency Economy Philosophy in tourism management by using the three principles as follows; 1) Moderation which means having enough, local people had been agreement that tourism income and benefit is not only money but it should be concerned to environmental and cultural sustainability. The good things in this community are sharing of the benefit to all of stakeholders include hosts (insiders) and guests (outsiders) , 2) Reasonableness by having the community rules and regulations for tourism management activities and 3) Immunity by using “Hmong Language” that young generation can learn their language without writing. Furthermore, local people of Maesa community applied their local wisdom or knowledge through tourism activities which tourists can learn and get more experiences, especially, the process of batik cloth and embroidered cloth producing and also the Yai Kan Chong cloth producing warring demonstrated by local people. Lastly, Hmong cultural performance activities morality is another conditional where by local people honesty to the King of Thailand, all of them don’t grow opium and don’t associate with narcotic any more. Since they were promise and transfer to all of the youth and those people in their community. Therefore, Maesa community was promoted to be Homestay Standard of Thailand year 2011-2014, it was because of local people used their own wisdom, intelligence and knowledge to analyze and solve their problems. Moreover, it is because of His Majesty King Bhumibol Adulyadej of Thailand.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: เชียงใหม่
คำสำคัญ (EN): Sufficiency Economy
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการโปรแกรมการท่องเที่ยวตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของชุมชนบ้านแม่สา ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2554
การเสริมสร้างมูลค่าของน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรท้องถิ่น สู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนในชุมชนในพื้นที่สะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อการพัฒนากลุ่มเกษตรอินทรีย์และการจัดการเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงใน อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การแยกและจำแนกไส้เดือนฝอยในสวนส้ม อำเภอแม่ริม และอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การถอดบทเรียนการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการเกษตร กรณีศึกษา: ผู้นำเกษตรกรเครือข่าย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านหม้อ ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ "แม่ญิงฮ้าย" พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นหญิงในจังหวัดเชียงใหม่ ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง ที่มีต่อแหล่งและประเภทของข่าวสาร ในการยอมรับเทคโนโลยีการปลูกถั่วเหลือง เขตอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การจัดการผักปลอดสารพิษตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนบ้านท่าเดื่อ ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง การถ่ายทอดองค์ความรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขาซับแกงไก่สู่ชุมชน การถ่ายทอดองค์ความรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นในแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สู่ชุมชน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก