สืบค้นงานวิจัย
การใช้ประโยชน์จากของเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อการผลิตแก๊สเชื้อเพลิงชีวภาพ
ประวิทย์ คงจันทร์ - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การใช้ประโยชน์จากของเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อการผลิตแก๊สเชื้อเพลิงชีวภาพ
ชื่อเรื่อง (EN): Utilization of palm oil mill wastes for gaseous biofuels production
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ประวิทย์ คงจันทร์
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: เพื่อใช้ประโยชน์จากน้ำทิ้งจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สำหรับผลิตแก๊สไฮโตรเจนและมีเทนโดยการ หมักร่วมกับสาหร่ายพุงชะโด ในกระบวนการหมักไร้อากาศสองขั้นตอนกระบวนการหมักดำเนินการทั้งแบบ แบทช์และแบบต่อเนื่อง ผลการทตลองในการหมักแบบแบทช์สองขั้นตอน ขั้นแรกที่อุณหภูมิเทอร์โมฟิลิก (55 *C) และชั้นที่ สองที่อุณหภูมิเมโซฟิลิก (35 () โดยใช้ POME ร่วมกับสาหร่ายพุงชะโดที่ความเข้มข้นชับสเตรทรวมเริ่มต้น 10 g-VS/L.wbstrateที่อัตราส่วนผสม (VS Basis) ต่างๆ (10:0, 9:1, 8:2, 7:3 6:4, 5:5, 4:6, 3:7, 2:8, 1:9 และ 0:10) ผลผลิตไฮโดรเจนสูงสุด62.9 :2. 7 mL-H1/g-VS.ded ได้รับจากการหมักที่อัตราส่วนการผสมของ POME และสาหร่ายพุงชะโต เท่ากับ 9:1 (VS basis) ผลผลิตไฮโตรเจนดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 และร้อยละ 60 เมื่อ เทียบกับการหมักเฉพา ะ POME และสาหร่ายพุงชะโดตามลำดับ และให้ผลผลิตมีเทนเท่ากับ 358.7+15.4 mL-CH/8-VS.ded การศึกษาการผลิตไฮโตรเจนและมีเทนแบบต่อเนื่องด้วยเครื่องปฏิกรณ์ Continuous Stired Tank Reactor (CSTR) และ Plug Flow Reactor(PFR) ตามลำดับด้วยกระบวนการสองขั้นตอน พบว่าเครื่องปฏิกรณ์ CSTR ที่ควบคุมระยะเวลากักเก็บน้ำ (HRT) 4 วัน โดยใช้ความเข้มข้นของสาหร่ายร้อยละ 10 (vS basis) ของซับสเตรทรวมให้ผลผลิตไฮโตรเจนได้ 66.42.1 mL-H:/9-VS..ed และเมื่อป้อนน้ำหมัก จากขั้นตอนการผลิตไฮโตรเจนเข้าสู่เครื่องปฏิกรณ์ PFR ที่ระยะเวลากักเก็บ 52.5 วัน สามารถผลิตมีเทนได้ 3907.1 mL-CH./8-VS.น้ำหมักในขั้นตอนการผลิตไฮโตรเจนประกอบไปด้วยกลุ่มจุสินทรีย์หลักได้แก่ กลุ่มแบคทีเรีย Clostridium sp., Enterobacter sp. เป็นกลุ่มที่ส่งเสริมและก่อให้เกิดการผลิตแก๊ส ไฮโตรเจนและกลุ่มแบคทีเรียWeissellasp.Leuconostoc sp., และ Lactobacillus sp. เป็นกลุ่มผลิตแล คติกและมีส่วนทำให้ผลผลิตแก๊สไฮโดรเจนลดลง ส่วนในน้ำหมักของขั้นผลิตมีเทนพบกลุ่มจุสินทรีย์อาเคียร์ Methonocorpusculum sp. Methonothrix sp. และ Methanoregula sp. ซึ่งมีความสำคัญต่อ ประสิทธิภาพในการผลิตแก๊สมีเทน ผลผลิตของไฮโดรเจน 4.9 L-H/L-Substrate และมีเทน 28.9 L-CH/L- Substrate ที่ได้จากกระบวนการย่อยสลายร่วมไร้อากาศสองขั้นตอน งานวิจัยนี้มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนากระบวนการย่อยสลายร่วมไร้อากาศสองขั้นตอนของ POME และสาหร่าย ในระดับอุตสาหกรรมต่อไป ดังนั้นงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางของนวัตกรรมที่เป็นไปได้ สำหรับการใช้น้ำทิ้งจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มร่วมกับสาหร่ายพุงชะโดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลิตแก๊ส เชื้อเพลิงชีวภาพซึ่งเป็นแก๊สผสมระหว่างไฮโดรเจนและมีเทน
บทคัดย่อ (EN): The aim of this research project was to utilize palm oil mill effluent (POME) co- digesting with Cerathophyllumdemersumfor hydrogen and methane production by using the two-stage anaerobic co-digestion. The first stage and second stage were operated under thermophilic (55C) and room temperature conditions (25-30C). In batch cultivation at the initial organic concentration of 10 g-VS/L, various POME: C. demersum mixing ratios (VS Basis) of 10:0, 9:1, 8:2, 7:3, 6:4, 5:5, 4:6, 3:7, 2:8, 1:9 and 0:10 were investigated for the bio-hydrogen and methane potentials. Highest hydrogen production yield of 62.9 mL-H2/g-VSadded obtained from POME: C. demersumratio of 9:1 (VS Basis), which is 22% an60 %6 higher than that from single fermentation of POME and C.demersum, respectively. Subsequent methane production yield of 358.7mL-CHa/g-VSaddedwas achieved. The two-stage process for continuous hydrogen and methane production was subsequently investigated in the Continuous Stirred Tank Reactor (CSTR) and Plug Flow Reactor (PFR) respectively. Specific hydrogen yield of 66.4 mL-H2/g VSaddedusing 10% of VS from C. demersum concentration in mixed substrate was obtained by operating at hydraulic retention time (HRT) of 4 days and methane yield of 390 mL-CHa/g- VSadded was obtained by operating PFR at hydraulic retention time (HRT) of 52.5 days. Dominant hydrogen-producing bacteria in CSTR were Clostridium sp. and Enterobacter sp.Existance of Weissella sp., Leuconostoc sp., and Lactobacillus sp. could possibly cause lowering hydrogen production. Meanwhile, PFR broth was dominated with methanogens of Methanocorpusculum sp. Methanothrix sp.andMethanoregula sp. Hydrogen and methane yields of 4.9 L-H2/L-Substrate and 28.9 L-CH./L-Substrate satisfactory obtined from the continuous two-stage anaerobic process could be enable potentially for scale-up this two- stage process to the industrial scale. This research work thus demonstrated a novel and feasible approach for co-digesting POME with C. demersumto senerate valuable gaseous biofuel (mixed gas of hydrogen and methane), efficiently.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: แก๊สเชื้อเพลิงชีวภาพ
คำสำคัญ (EN): gaseous biofuels
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้ประโยชน์จากของเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อการผลิตแก๊สเชื้อเพลิงชีวภาพ
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2557
แผนงานวิจัย การใช้ประโยชน์จากของเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อการผลิตแก๊สเชื้อเพลิงชีวภาพ การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร แผนงานวิจัยการใช้ประโยชน์จากของเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อการผลิตแก๊สเชื้อเพลิงชีวภาพ (ต่อเนื่องปีที่ 2) การใช้น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซล การใช้หญ้าแฝกบำบัดน้ำเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากน้ำเสียโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ปีที่2 การพัฒนาคุณภาพไบโอดีเซลชุมชนโดยการแยกน้ำด้วยการสกัดด้วยตัวทำละลาย การศึกษาแนวทางการจัดตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม การใช้กากเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นอาหารเสริมสำหรับโคเนื้อ การศึกษาการผลิตอาหารสุนัข
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก