สืบค้นงานวิจัย
การใช้ไรตัวห้ำ , Amblyseius longispinosus (Evans) ควบคุมไรสองจุด ศัตรูสำคัญของสตรอเบอรี่
มานิตา คงชื่นสิน - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การใช้ไรตัวห้ำ , Amblyseius longispinosus (Evans) ควบคุมไรสองจุด ศัตรูสำคัญของสตรอเบอรี่
ชื่อเรื่อง (EN): Biological Control of Two-Spotted Spider Mite on Strawberries by Predatory Mite, Amblyseius longispinosus (Evans)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: มานิตา คงชื่นสิน
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Manita Kongchuensin
บทคัดย่อ: การศึกษาวิธีเลี้ยงขยายปริมาณไรตัวห้ำ Amblyseius longispinosus (Evans) และวิธีการนำไปใช้โดยศึกษาอัตราการปล่อยไรตัวห้ำชนิดนี้ที่เหมาะสมในการควบคุมไรสองจุด Tetranychus urticae ในแปลงสตรอเบอรี่ และการทดสอบประสิทธิภาพของไรตัวห้ำ A. longispinosus ในแปลงปลูกสตรอเบอรี่ขนาดใหญ่ ได้ปฏิบัติการทดลองในปี 2535-2539 โดยทำการทดลองเลี้ยงขยายปริมาณที่กองกีฏและสัตววิทยา กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพมหานคร และทำการศึกษาการปล่อยในสภาพแปลงปลูก สตรอเบอรี่ ที่ อำเภอเมือง และอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงไรตัวห้ำ A. longispinosus ให้ได้ปริมาณมาก พบว่าถั่วพุ่ม และถั่วเขียวผิวมันเป็นพืชอาหารที่ดีที่สุดสำหรับเหยื่อ (ไรแดงหม่อน) โดยมีอัตราการปล่อยเลี้ยงขยายไรตัวห้ำต่อไรปดงหม่อน อัตรา 1:20 ถึง 1:50 หรือปล่อยไรตัวห้ำเป็นจำนวน 20-50 ตัวต่อไรแดงหม่อน 1,000 ตัว ลงบนต้นถั่วอายุ 3 สัปดาห์ จำนวน 180 ต้น จะสามารถผลิตขยายไรตัวห้ำได้มาก เฉลี่ยประมาณ 27,500 ตัว หรือ 13-17 ตัวต่อใบถั่ว ภายในเวลา 2 สัปดาห์ การศึกษาอัตราการปล่อยไรตัวห้ำ A. longispinosus ที่เหมาะสมในการควบคุมไรสองจุดในแปลงสตรอเบอรี่ ผลการทดลองพบว่าการปล่อยในอัตรา 2, 5 และ 10 ตัวต่อต้น ตั้งแต่ไรสองจุดเริ่มเข้าทำลายประมาณ 5 ตัวต่อใบย่อย โดยการปล่อย 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์ ให้ผลดีในการควบคุมไรสองจุดได้ดีไม่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้สิ้นเปลืองไรตัวห้ำน้อยที่สุด จึงควรปล่อยไรตัวห้ำเพียง 2-5 ตัวต่อต้น ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพของไรตัวห้ำชนิดนี้ในการควบคุมไรสองจุดในแปลงสตรอเบอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีการระบาดอย่างรุนแรง ผลการทดลองเลี้ยงไรตัวห้ำแล้วนำไปใช้ปล่อยพบว่าไรตัวห้ำ A. longispinosus มีประสิทธิภาพดีมากด้วยการใช้วิธีปล่อบ 2-5 ตัว ต่อต้น เมื่อเริ่มมีไรสองจุดเข้าทำลายและปล่อยไปเป็นระยะ ๆ ห่างกันครั้งละ ประมาณ 2 สัปดาห์ เป็นจำนวน 7 ครั้ง ไรตัวห้ำจะสามารถควบคุมไรสองจุดได้อย่างสมบูรณ์ในเวลา 12 สัปดาห์ โดยสามารถลดจำนวนไรสองจุดในช่วงระบาดรุนแรง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้สูงถึง 84.60 % และทำให้ต้นสตรอเบอรี่มีช่อดอกมากแตกต่างทางสถิติจากแปลงที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งคิดเป็นน้ำหนักผลผลิตที่ได้แตกต่างถึง 102.62 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 400 ตารางเมตร
บทคัดย่อ (EN): The extent to which the predatory mite, Amblyseius longispluosus (Evans), can control the two-spotted spider mite, Tetranychus urticae Koch in strawberries was investigated. Trials were conducted on strawberry plots in chiang Mai during 1993-1996. Mass rearing of A. longsispinosus for the release purpose was carried out on mungbean, the best host plant as well as cowpea, infested with mulberry red mites (T. truncatus Ehara) in greenhouse. The initial predator: red mite rations were found to be between 1 : 20 to 1:50, in order to build up the population of A. longispinosus. In 1994, the optimal release rate of A. longispinosus was established. Three rates were investigated 2, 5 and 10 mites peer plant. The release was started when T. urticeae were found about 5 mites per leaflet. The result indicated that the two-spotted spider mite populations was significantly reduced in 3 release plots within 4 weeks after 2 times releasing. The mean nymbers of T. urticae in the 3 release plots were significantly different from the check 9no release), but not different from each other. The results indicate that the suitable releasing rate of A. longispinonsus should be at 2-5 mites per plant. The ability of A. longispinosus was made at 2-week-interval at the rates of 2-5 mites per plant for 7 weeks. Population of T. urticae and A. longispinosus were followed at 2-week-intervals thoughout the study. T. urticae was effectively suppressed by A. longispinosus with the pest population reaching a peak of 172.64 mites per leaftet in the check, but only 57-86 mites per leaflet in the release plots. The difference in the overall spider mite population between check and release plots were statistically significant. The pest population was completely controlled within 12 weeks. The inflorescence numbers of the strawberry in release plots was significantly different from thos ein the check, and as result, the yield from the release plot was estimated to be 102.62 kg of fruit per 400 m2 higher than that of the non-release.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: สตรอเบอรี่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

มานิตา คงชื่นสิน. "การใช้ไรตัวห้ำ , Amblyseius longispinosus (Evans) ควบคุมไรสองจุด ศัตรูสำคัญของสตรอเบอรี่Biological Control of Two-Spotted Spider Mite on Strawberries by Predatory Mite, Amblyseius longispinosus (Evans)". กรมวิชาการเกษตร. 2539

มานิตา คงชื่นสิน. "การใช้ไรตัวห้ำ , Amblyseius longispinosus (Evans) ควบคุมไรสองจุด ศัตรูสำคัญของสตรอเบอรี่Biological Control of Two-Spotted Spider Mite on Strawberries by Predatory Mite, Amblyseius longispinosus (Evans)". กรมวิชาการเกษตร. 2539. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้ไรตัวห้ำ , Amblyseius longispinosus (Evans) ควบคุมไรสองจุด ศัตรูสำคัญของสตรอเบอรี่
มานิตา คงชื่นสิน
กรมวิชาการเกษตร
2539
การปลูกสตรอเบอรี่ในระบบไฮโดรโพนิกส์ การเปลี่ยนแปลงคุณภาพของผลสตรอเบอรี่ก่อนการเก็บเกี่ยว พัฒนาการผลิตขยายไรตัวห้ำ Amblyseius longispinosus เพื่อใช้ควบคุมไรแดงศัตรูพืช การผลิตสตรอเบอรี่นอกฤดูในโรงเรือนในจังหวัดอุบลราชธานี ชนิดและปริมาณไรตัวห้ำบนทุเรียน ชนิด ปริมาณ และชีววิทยาของไรบนฝ้ายในประเทศไทย การจำแนกพันธุ์ลูกผสมสตรอเบอรี่โดยวิธีสัณฐานวิทยาและอิเล็กโทรโฟรีซิส ศึกษาชีววิธีในการควบคุมปริมาณจุลินทรีย์วิบริโอด้วยจุลินทรีย์บาซิลลัสในห้องปฏิบัติการ โครงการวิจัยและพัฒนาชีวภัณฑ์เกษตรและสารเคลือบผลสำหรับควบคุมโรคผลเน่าของสตรอเบอรี่ การตอบสนองของสตรอเบอรี่พันธุ์ไทโอก้าต่ออุณหภูมิ จิบเบอเรลลิค แอซิด และเอทธิฟอน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair