สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยการศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขแล้วเฉพาะส่วนของพืชอนุรักษ์
มานิตย์ ใจฉกรรจ์ - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยการศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขแล้วเฉพาะส่วนของพืชอนุรักษ์
ชื่อเรื่อง (EN): The Effect of Law Enforcement for the Conserved Plants under Plant Act B.E. 2518
บทคัดย่อ: การศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขแล้ว เฉพาะส่วนของพืชอนุรักษ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของกฎหมายพันธุ์พืชในส่วนของพืชอนุรักษ์และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส ที่มีต่อผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้รับใบสำคัญขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงพืชอนุรักษ์ เกษตรกร ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อให้ได้แนวทางในการพัฒนากฎหมายพันธุ์พืชในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออก การขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงพืชอนุรักษ์ที่เหมาะสมกับประเทศไทย ทำการศึกษาโดยการค้นคว้าข้อมูลบทบัญญัติของกฎหมายจาก บทความ วารสาร และเอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ และการจัดประชุม/สัมมนา และสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แล้วนำข้อมูลมารวบรวมเพื่อทำการวิเคราะห์หาข้อสรุป จากการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีการกำหนดมาตรการการดำเนินงานตามพันธกรณีที่ได้ให้ไว้กับอนุสัญญาไซเตสอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะมาตรการทางด้านกฎหมายที่ได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติพันธุ์พืช ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535 โดยเพิ่มเติมในส่วนของพืชอนุรักษ์เพื่อรองรับการดำเนินงานทางด้านพืชป่า การกำหนดมาตรการดังกล่าวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ ทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมการค้าพืชอนุรักษ์เพิ่มมากขึ้น มีสิทธิในการร้องขอให้ประเทศภาคีอื่นๆ ช่วยดูแลพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศผ่านทางสำนักเลขาธิการไซเตส นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ทำการค้าพืชอนุรักษ์ที่ได้จากการขยายพันธุ์เทียมเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกล้วยไม้ และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้อเสีย คือ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบในการบังคับใช้กฎหมายเนื่องจากอนุสัญญาไซเตสมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทุกการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาฯ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องอัตรากำลังของพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ การขาดแคลนงบประมาณในการพัฒนาศักยภาพของพนักงานเจ้าหน้าที่ ความต่อเนื่องในการสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายในการป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากในการปฏิบัติงานจริงโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน และขาดงบประมาณในการดูแลรักษาพืชอนุรักษ์ของกลาง ส่วนผลกระทบที่มีต่อผู้ประกอบการนำเข้า ส่งออก เช่น ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบของพ.ร.บ.พันธุ์พืช ในการขอหนังสืออนุญาตนำเข้า ส่งออก และนำผ่านพืชอนุรักษ์ และหนังสือรับรองการส่งออกพืชลูกผสม จึงทำให้การสื่อสารระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการคลาดเคลื่อนได้ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาไซเตส รวมทั้งช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ส่วนผลกระทบที่มีต่อผู้มีส่วนเสียกับการขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงพืชอนุรักษ์ พบว่าจากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติพันธุ์พืชที่กำหนดให้ผู้ที่ต้องการขยายพันธุ์เทียมพืชอนุรักษ์เพื่อการค้า จะต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงพืชอนุรักษ์กับกรมวิชาการเกษตร โดยพ่อ-แม่พันธุ์ที่นำมาขยายพันธุ์เทียมจะต้องได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย และจะต้องมีการคงไว้ซึ่งจำนวนพ่อ-แม่พันธุ์ รวมทั้งต้องมีการจัดการ และควบคุมสภาวะแวดล้อมให้ต่างจากการเจริญเติบโตในธรรมชาติ จากการประเมินผลการดำเนินงานรับขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงพืชอนุรักษ์ของกรมวิชาการเกษตรที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงพืชอนุรักษ์อย่างเข้มงวดหลายเงื่อนไขนั้น ผู้รับใบสำคัญฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งเกิดจากข้อกฎหมายไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของเกษตรกรไทย ข้อเสนอแนะในการแก้ไขผลกระทบจากการที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาไซเตสจึงต้องมีการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของพนักงานเจ้าหน้าที่โดยให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องในการฝึกอบรมทั้งในและต่างประเทศและสนับสนุนกิจกรรมเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ก่อนที่ภาครัฐจะกำหนดหลักเกณฑ์ใดๆ ควรศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เป็นจริง กลุ่มวิจัยอนุสัญญาไซเตสด้านพืช ในฐานะฝ่ายปฏิบัติการอนุสัญญาไซเตสจะต้องทำความเข้าใจในหลักปฏิบัติของกฎหมายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และวางมาตรการในการปฏิบัติให้เหมาะสมสอดคล้องกับประเทศไทยและมีความยืดหยุ่นเป็นกรณีไป นอกจากนี้ยังต้องมีการนำมาตรการที่มิใช่มาตรการทางกฎหมายเข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติ เช่น การประชาสัมพันธ์ให้ภาคประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอนุสัญญาไซเตสอย่างทั่วถึง การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลดปัญหาการนำออกมาจากป่าและไม่สนับสนุนผู้ค้าของป่า เป็นต้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยการศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขแล้วเฉพาะส่วนของพืชอนุรักษ์
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2555
โครงการศึกษาและพัฒนาระบบการควบคุมการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพืชอนุรักษ์ ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พระราชบัญญัติพันธุ์พืช (ฉบับที่2) พ.ศ. 2535 โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โครงการวิจัยการศึกษาวิจัยพืชอนุรักษ์ของกลางในคดีว่าด้วยกฎหมายพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 เพื่อการเก็บรักษาให้สามารถดำรงชีพได้ในสถานที่เก็บรักษาของกลาง โครงการวิจัยการศึกษาการอนุรักษ์พืชพื้นเมืองในชุมชนและพืชหายากตลอดจนการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนเพื่อการอนุวัตตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 พืชอ้างอิงสำหรับประเมินการตรึงไนโตรเจนโดย N Isotope Dilution Technique โครงการศึกษาและพัฒนาระบบการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์พันธุ์พืชอย่างยั่งยืนของชุมชน และ แนวทาง การให้ความคุ้มครองพันธุ์พืชพื้นเมือง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 การพัฒนาการเพาะเลี้ยงม้าน้ำเพื่อการอนุรักษ์ การตั้งชื่อพันธุ์พืชใหม่ในการจดทะเบียนเพื่อขอรับความคุ้มครอง โครงการวิจัยการศึกษาเทคโนโลยีการผลิตพืชผักเพื่อการส่งออก โครงการวิจัยการศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบพันธุ์พืชเพื่อการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก