สืบค้นงานวิจัย
การติดตามและประเมินผล โครงการสานฝันยุวเกษตรกรในโรงเรียน ขยายโอกาสในเขตปฏิรูปที่ดิน : กรณีศึกษา โรงเรียนบ้านเขานาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ณฤดี จินตนานุสรณ์ - สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ชื่อเรื่อง: การติดตามและประเมินผล โครงการสานฝันยุวเกษตรกรในโรงเรียน ขยายโอกาสในเขตปฏิรูปที่ดิน : กรณีศึกษา โรงเรียนบ้านเขานาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณฤดี จินตนานุสรณ์
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การติดตามและประเมินผลโครงการสานฝันยุวเกษตรกรในโรงเรียนขยาย โอกาสในเขตปฏิรูปที่ดิน : กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านเขานาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินระดับความรู้ เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของเกษตรกร ในเขตปฏิรูปที่ดินของยุวเกษตรกร 2) ประเมินทักษะการประกอบอาชีพเกษตรของ ยุวเกษตรกร 3) ประเมินระดับเจตคติของผู้บริหารโรงเรียน ครู/อาจารย์ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อโครงการสานฝันยุวเกษตรกรในโรงเรียนขยายโอกาส ในเขตปฏิรูปที่ดินและ 4) ประเมินการขยายผลองค์ความรู้การประกอบอาชีพทาง การเกษตรของยุวเกษตรกรสู่ครอบครัวของยุวเกษตรกร ประชากรที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนที่เป็นสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร จำนวน 50 ราย ของโรงเรียนบ้านเขานาใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 2 และผู้บริหารโรงเรียน ครู/อาจารย์ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 30 ราย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบทดสอบ แบบสอบถามและแบบวัดเจตคติ ผลการศึกษาแบ่งเป็น 2 ตอน ดังนี้ 1) การติดตามและประเมินผลยุวเกษตรกรในโรงเรียนบ้านเขานาใน พบว่า ยุวเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 74 เพศชาย คิดเป็น ร้อยละ 26 ยุวเกษตรกร อายุ 12 ปี คิดเป็นร้อยละ 52 (กำลังศึกษาชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6) รองลงมาคือ อายุ 13 ปี คิดเป็นร้อยละ 18 (ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1) และส่วนใหญ่เป็นสมาชิกยุวเกษตรกรได้ 1 ปี คิดเป็นร้อยละ 54 เป็นสมาชิก ยุวเกษตรกรได้ 2 ปี คิดเป็นร้อยละ 46 บิดามารดาส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวน คิดเป็นร้อยละ 84 รองลงมามีอาชีพเป็นข้าราชการ คิดเป็นร้อยละ 6 และมีอาชีพ รับจ้าง คิดเป็นร้อยละ 6 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เมื่อศึกษาระดับความรู้เกี่ยวกับ สิทธิและห์น้าที่ของเกษตรกรในเขตปฏิรูป ที่ดินของยุวเกษตรกรพบว่า ส่วนใหญ่ทำคะแนนสอบอยู่ในช่วง 13 -. 18 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 58 ของตัวอย่างยุวเกษตรกรทั้งหมด รองลงมาคือ คะแนนสอบได้สูงกว่า 18 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 28 และคะแนนสอบไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 50 (คะแนนต่ำกว่า 13 คะแนน) คิดเป็นร้อยละ 14 สรุปว่า ยุวเกษตรกร โรงเรียนบ้านเขานาในไม่ต่ำกว่า 70 มีความรู้ เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของยุวเกษตรกร ในเขตปฏิรูปที่ดินผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวน 43 ราย คิดเป็นร้อยละ 86 จากการติดตามพบว่า ยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านเขานาใน มีทักษะ การประกอบเกษตรกรรม ด้านการทำกิจกรรมแปลงเรียนรู้ของยุวเกษตรกร ในโรงเรียน ยุวเกษตรกรทุกคนทำกิจกรรมขั้นเตรียมพื้นที่ ร้อยละ 100 ทำกิจกรรม ด้านการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ คิดเป็นร้อยละ 71 ด้านดูแลรักษา คิดเป็นร้อยละ 60 ด้านเก็บเกี่ยวผลผลิต คิดเป็นร้อยละ 56 และมีการจดบันทึกการเก็บเกี่ยวผลผลิต คิดเป็นร้อยละ 42 ของกลุ่มตัวอย่าง ความถี่ของการลงปฏิบัติในแปลงเรียนรู้พบว่า ส่วนใหญ่ยุวเกษตรกรจะ ลงปฏิบัติงานในแปลง อาทิตย์ละ 1 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 46 ของตัวอย่างยุวเกษตรกร ทั้งหมด รองลงมาคือ ลงปฏิบัติในแปลงอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 26 มีเพียง ส่วนน้อยที่ลงปฏิบัติในแปลงมากว่าอาทิตย์ละ 3 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 16 ของ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เมื่อศึกษาถึงการบริโภคผลผลิตจากแปลงเกษตรกรรมพบว่า ส่วนใหญ่ได้บริโภคผลผลิตที่ได้จากแปลงเรียนรู้เกษตรกรรมของโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 88 ของตัวอย่างทั้งหมด การจดบันทึกผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวพบว่า มีการจดบันทึก ทุกครั้งที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิต คิดเป็นร้อยละ 40 เมื่อศึกษาดูว่ายุวเกษตรกรรู้หรือไม่ ว่าผลผลิตที่ได้มีการนำเข้าเป็นวัตถุดิบในโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน พบว่ายุวเกษตรกรที่รู้ คิดเป็นร้อยละ 88 และยุวเกษตรกรที่เคยนำผลผลิตจาก แปลงนำกลับไปบริโภคที่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 90 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ผลการติดตามพบว่า ยุวเกษตรกรนำความรู้ด้านการประกอบอาชีพ เกษตรกรรมไปปฏิบัติต่อที่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 76 กิจกรรมด้านการประกอบอาชีพ เกษตรกรรมส่วนใหญ่ที่ยุวเกษตรกรสนใจและนำไปขยายผลต่อที่บ้าน ได้แก่ การปลูกพืช คิดเป็นร้อยละ 44.74 รองลงมาคือ การเลี้ยงสัตว์ คิดเป็นร้อยละ 34. 21 และมีการเลี้ยงสัตว์น้ำ คิดเป็นร้อยละ 21.05 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 2) การติดตามและประเมินผลผู้บริหารโรงเรียน ครู/อาจารย์ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60 และ เพศชาย ร้อยละ 40 ของตัวอย่างทั้งหมดโดยทั้งหมด มีอายุเฉลี่ย 40.20 ปี อายุ มากกว่า 45 ปี คิดเป็นร้อยละ 36.67 ของตัวอย่างทั้งหมด ด้านการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 53.34 ของตัวอย่างทั้งหมด ขณะที่ ระยะเวลาอาศัยอยู่ในบ้านเขานาใน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ไม่เกิน 5 ปี คิดเป็นร้อยละ 40 เมื่อศึกษาระดับเจตคติที่มีต่อโครงการสานฝันยุวเกษตรกรในโรงเรียน ขยายโอกาสในเขตปฏิรูปที่ดินพบว่า ผู้บริหารโรงเรียน ครู/อาจารย์ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเจตคติอยู่ในระดับสูงต่อโครงการสานฝัน ยุวเกษตรกร ( X = 4.09) โดยประเด็นเจตคติที่มีคะเนนเฉลี่ยสูงสุดคือ สร้างคุณลักษณะที่ดี ด้านความพอเพียงแก่ยุวเกษตรกร รองลงมาคือ มีเจตคติว่ายุวเกษตรกรสามารถ นำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง ( X = 4.57 และ 4.43 ตามลำดับ) จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครู/อาจารย์ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องของโรงเรียนบ้านเขานาในที่มีต่อโครงการสานฝัน ยุวเกษตรกรในโรงเรียนขยายโอกาสในเขตปฏิรูปที่ดินโดยให้ความเห็นว่าเป็น โครงการที่ดีมีความสำคัญมีประโยชน์ต่อยุวเกษตรกรและครู คิดเป็นร้อยละ 65 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดและทำให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ คิดเป็น ร้อยละ 55 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด นอกจากนี้ช่วยเสริมสร้างความรู้นอกห้องเรียน และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ คิดเป็นร้อยละ 50 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เมื่อศึกษาความคิดเห็นในด้านประโยชน์ของโครงการสานฝันยุวเกษตรกร ในโรงเรียนขยายโอกาสในเขตปฏิรูปที่ดินพบว่า เป็นโครงการที่ทำให้นักเรียนรู้จัก การทำการเกษตรแบบพอเพียง รู้จักใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บนพื้นที่ที่ทำกินอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด คิดเป็นร้อยละ 65 เป็นโครงการ ที่ช่วยทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 50 และเป็นโครงการ ที่สามารถบูรณาการให้เข้ากับชีวิตจริงและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ คิดเป็น ร้อยละ 40 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคของการดำเนินโครงการพบว่า ครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างได้ให้ความเห็นว่า หลักสูตรสิทธิและหน้าที่ของเกษตรกร ในเขตปฏิรูปที่ดินยังเป็นเรื่องไกลตัวยุวเกษตรกรพอสมควร จึงทำให้ความสนใจ ความตื่นตัวในการรับฟังค่อนข้างน้อย ประกอบกับยุวเกษตรกรยังไม่ถึงเวลาที่จะได้รับ สิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินต่อจากพ่อแม่ ซึ่งต้องรอเวลาอีกนานพอสมควรกว่าจะ ได้รับสิทธิต่างๆ จาก ส.ป.ก. ขณะที่ด้านอาจารย์ที่ปรึกษาก็ยังขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ทางด้านการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด และ 1 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ศักยภาพ สภาพพื้นที่ของโรงเรียนยังไม่มี ความพร้อม เช่น ขาดแหล่งน้ำ พื้นที่จัดทำแปลงเกษตรมีบริเวณจำกัด นักเรียน ในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวนน้อย เวลาทำกิจกรรมเกษตรมีน้อย (ร้อยละ 25) นอกจากนี้นักเรียนให้ความสนใจทางด้านการเกษตรน้อยลง เนื่องจาก สังคมเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาฏิวัตน์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีความยากในการ สร้างแรงจูงใจแก่นักเรียน คิดเป็นร้อยละ 20 ด้านข้อเสนอแนะของกลุ่มตัวอย่าง เห็นว่า ส.ป.ก. ควรให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยโรงเรียนละ 2 ปี เพราะกลุ่มยุวเกษตรกรให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมแปลงเกษตรดีมาก 3) ข้อเสนอแนะ จากผลการศึกษาตัวอย่างจำนวน 50 ราย พบว่ายุวเกษตรกร 7 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 14 นี้ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน แม้ว่าเป็นส่วนน้อยแต่ก็ควรส่งเสริม สนับสนุนองค์ความรู้เรื่อง สิทธิและหน้าที่ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินให้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้ยุวเกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจดียิ่งขึ้น ข้อเสนอแนะในเชิงนโยบาย ส.ป.ก. ควรกำหนดช่วงเวลาของการดำเนิน กิจกรรมให้สอดคล้องกับแผนการเรียนการสอนของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวนสมาชิกของกลุ่มยุวเกษตรกรควรมีขนาดที่เหมาะสม (20 - 30 ราย) เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินการ การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็น การสนับสนุนให้ยุวเกษตรกรได้นำความรู้ทางด้านเกษตรไปปฏิบัติได้จริงทั้งในโรงเรียน และในชุมชน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.alro.go.th/research_plan/ewt_dl_link.php?nid=390
เผยแพร่โดย: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คำสำคัญ: สุราษฎร์ธานี
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การติดตามและประเมินผล โครงการสานฝันยุวเกษตรกรในโรงเรียน ขยายโอกาสในเขตปฏิรูปที่ดิน : กรณีศึกษา โรงเรียนบ้านเขานาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2554
โครงการจัดทำฐานข้อมูลอันตรกิริยาระหว่างสมุนไพรกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ของไทย การติดตามและประเมินผลโครงการสร้างและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ในเขตปฏิรูปที่ดิน : กรณีศึกษาโครงการบ่มเพาะเกษตรกรอนาคตในเขตปฏิรูปที่ดิน การเพิ่มประสิทธิผลของนโยบายรัฐต่อเกษตรกรยางพาราในจังหวัดสุราษฎร์ธานี การวิเคราะห์ดินนาเพื่อประเมินค่าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ ผลของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต่อเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี การติดตามและประเมินผลการใช้ประโยชน์ในที่ดินและการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของ เกษตรกรในนิคมเศรษฐกิจพอเพียงในเขตปฏิรูปที่ดิน ปีการเพาะปลูก พ.ศ. 2553 การติดตามประเมินผลวิสาหกิจชุมชนในเขตปฏิรูปที่ดิน ปี พ.ศ. 2554 การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดขอนแก่น การติดตาม ประเมินผล และการใช้ประโยชน์โครงการวิจัยด้านยางพารา การศึกษาภาวะโภชนาการของสมาชิกยุวเกษตรกรในโรงเรียนของจังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก