สืบค้นงานวิจัย
การจัดการน้ำในการปลูกข้าวเพื่อควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: การจัดการน้ำในการปลูกข้าวเพื่อควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
ชื่อเรื่อง (EN): Water management for brown planthopper control
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pethathai Patirupanusara
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การจัดการน้ำในการปลูกข้าวเพื่อควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เป็นการป้องกันกำจัดโดยวิธีทางเขตกรรมวิธีหนึ่ง ได้ทำการศึกษาผลของระยะเวลาในการท่วมขังของน้ำต่อไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและผลของระดับน้ำในการปลูกข้าวต่อการแพร่ระบาดและจำนวนประชากรของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำการทดลองที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่พ.ศ.2538 - 2540 ผลของระยะเวลาในการท่วมขังของน้ำต่อไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลวางแผนการทดลองแบบ 6x6 + 1 factorial in RCB 4 ซ้ำ ประกอบด้วย 2 ปัจจัยคือ ระยะเวลาในการท่วมขังของน้ำ 6 ระดับ คือ 2, 4, 6 , 8, และ 12 วัน ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งคือการให้น้ำท่วมหลังจากแมลงวางไข่แล้ว 1, 2, 3, 4, 5, และ 6 วัน มีกรรมวิธีที่ไม่มีน้ำท่วมสำหรับเปรียบเทียบ พบว่า การให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน 12 วัน สามารถลดปริมาณการฟักไข่ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ดีที่สุด รองลงมาคือ 6-10 วัน ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การฟัก 45.34 % และ 60.88 - 71.82 % ตามลำตับ และการให้น้ำท่วมหลังจากแมลงวางไข่แล้ว 6 วันลดปริมาณการฟักไข่ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ ให้น้ำท่วมหลังการวางไข่ 4 - 5 วัน ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การฟัก 49.78 % และ 60.14 - 61.43 % ตามลำดับ ผลของระดับน้ำในการปลูกข้าวต่อการแพร่ระบาดและจำนวนประชากรของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำการทดลองในฤดูนาปรังปี 2539 และ 2540 โดยปลูกข้าวสุพรรณบุรี 60 ในกระถางชีเมนต์ขนาด 70 x 80 x 40 ชม. กระถางละ 4 x 4 กอ วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 6 กรรมวิธี 3 ซ้ำ พบว่าระดับน้ำมีผลต่อจำนวนประชากรของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และยังมีผลต่อความสูงและการแตกกอของต้นข้าวอีกด้วย การปลูกข้าวโดย ไม่มีน้ำขังมีปริมาณเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลน้อยที่สุด แต่การเจริญเติบโตของตันข้าวไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากการระบายน้ำทำให้ปุ๋ยถูกชะล้างออกไปและมีผลผลิตต่ำ รองลงมาคือ ระดับน้ำผิวดิน 10 วันหลังปล่อยแมลงแล้วให้น้ำสูง 20 ชม. สลับกับน้ำแห้ง ซึ่งมีปริมาณแมลงน้อยและให้ผลผลิตสูงไม่แตกต่างกับระดับน้ำผิวดินซึ่งจะมีต้นเตี้ยและแตกกอมากกว่ากรรมวิธีอื่น ๆ ส่วนการปลูกข้าวโดยมีระดับน้ำคงที่ 10 ชม. 20 ชม. และระตับน้ำผิวดิน 5 วันหลังปล่อยแมลงแล้วให้ น้ำสูง 20 ชม. สลับกับน้ำแห้ง มีปริมาณเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมาก จนเกิด hopper burn ในระยะข้าวออกดอก
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://anchan.lib.ku.ac.th/agnet/bitstream/001/2529/1/RIC020522a.pdf
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
คำสำคัญ: ผลผลิต
คำสำคัญ (EN): Brown planthopper control
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมการข้าว
รายละเอียด: Summary only
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการน้ำในการปลูกข้าวเพื่อควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
กรมการข้าว
2542
กรมการข้าว
มุมมองเรื่องชีวชนิดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การพัฒนากระบวนการต้นแบบในการทดสอบพันธุ์ข้าวลูกผสม อิทธิพลของขนาดเพลี้ยอ่อนถั่ว (Aphis cracciuora) ที่มีผลต่อขนาด ระยะเวลาการพัฒนา อัตราส่วนทางเพศของตัวเบียน และจำนวนตัวเบียน (Aphidius colemani) ที่เกิดจากเพลี้ยอ่อน สาเหตุของความต้านทานในข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparuata lugens (Stal) การใช้กับดักถังน้ำสีเหลืองคาดการณ์การกระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว การจัดการพันธุ์ข้าวเพื่อลดการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าวจังหวัดสกลนคร การพัฒนาแบบจำลองสถานการณ์ประชากรของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก