สืบค้นงานวิจัย
เปรียบเทียบค่าการผสมพันธุ์ที่ทำนายด้วยโมเดลรอบการให้นมและโมเดลวันทดสอบในโคนมลูกผสม
สายัณห์ บัวบาน - กรมปศุสัตว์
ชื่อเรื่อง: เปรียบเทียบค่าการผสมพันธุ์ที่ทำนายด้วยโมเดลรอบการให้นมและโมเดลวันทดสอบในโคนมลูกผสม
ชื่อเรื่อง (EN): Comparison of Breeding Values Predicted with Lactation Model and Test-Day Model in Crossbred Dairy Cattle
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สายัณห์ บัวบาน
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sayan Buaban
บทคัดย่อ: เปรียบเทียบค่าการผสมพันธุ์ที่ทำนายด้วยโมเดลรอบการให้นมและโมเดลวันทดสอบ ในโคนมลูกผสม สายัณห์ บัวบาน1 จุรีรัตน์ แสนโภชน์2 1,2 สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปสุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ปทุมธานี 12000 บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประมาณค่าพารามิเตอร์ทางพันธุกรรม และคุณค่าการผสมพันธุ์ ของลักษณะปริมาณน้ำนมในวันทดสอบ และปริมาณน้ำนมที่ 305 วัน และ 2) เพื่อเปรียบเทียบค่าการผสมพันธุ์ของลักษณะปริมาณน้ำนมที่ประเมินด้วยโมเดลวันทดสอบ(test day model, TDMs) โดยใช้บันทึกผลผลิตน้ำนมในวันทดสอบ กับโมเดลรอบการให้นม (lactation model, LCM)โดยใช้บันทึกผลผลิตน้ำนมในรอบการให้นมที่ 305 วันเพื่อที่จะหาโมเดลวันทดสอบที่เหมาะสมสำหรับประเมินค่าทางพันธุกรรมของโคนมลูกผสมในประเทศไทย โมเดลวันทดสอบที่ใช้ในการวิเคราะห์ประกอบด้วย repeatability TDMs (RP_TDMs) และ random regression TDMs (RR-TDMs) ที่มีฟังก์ชั่นวันให้นมแบบ Wilmink, Ali&Shaeffer, Shaeffer&Dekker และ Legendre polynomial ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นข้อมูลปริมาณน้ำนมที่ 305 วัน และ ข้อมูลปริมาณน้ำนมวันทดสอบในรอบการให้นมแรกของแม่โคนมลูกผสมที่ได้รวบรวมไว้ในระบบฐานข้อมูลของสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ที่คลอดลูกในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2535 -2550 จำนวน 10,111 ข้อมูล และ 86,519 ข้อมูล ตามลำดับ ประมาณค่าองค์ประกอบความแปรปรวน และความแปรปรวนร่วมด้วยวิธี Restricted Maximum Likelihood (REML) และประเมินคุณค่าการผสมพันธุ์ด้วยเทคนิค BLUP (Best Linear Unbiased Prediction) ผลการศึกษาพบว่าความแปรปรวนของความคลาดเคลื่อนจาก TDMs น้อยกว่า LCM ค่าอัตราพันธุกรรมของลักษณะปริมาณน้ำนมในวันทดสอบใกล้เคียงกับลักษณะปริมาณน้ำนมที่ 305 วัน (0.21) ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคุณค่าการผสมพันธุ์จาก TDMs สูงกว่า LCM คุณค่าการผสมพันธุ์ของปริมาณน้ำนมภายใต้ TDMs และ LCM มีความสัมพันธ์อย่างสูง (0.80 - 0.84 สำหรับพ่อพันธุ์ และ 0.78 สำหรับแม่พันธุ์)การจัดลำดับตามคุณค่าการผสมพันธุ์ของพ่อพันธุ์เปลี่ยนไปน้อยกว่าแม่พันธุ์ การใช้ TDMs ทำให้การปรับปรุงทางพันธุกรรมดีขึ้นมากกว่าการใช้ LCM ผลที่ได้จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า TDMs สามารถเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งในการประเมินค่าทางพันธุกรรมของโคนมลูกผสมในประเทศไทยแทน LCM โมเดลที่เหมาะสมที่สุดคือ RR-TDMs ซึ่งอธิบายค่าเฉลี่ยของกราฟการให้นม และอิทธิพลสุ่มทางพันธุกรรมด้วยฟังก์ชันการให้นมแบบ Legendre polynomial ลำดับที่ 4 และอธิบายอิทธิพลสุ่มของสภาพแวดล้อมถาวรด้วยฟังก์ชันการให้นมแบบ Legendre polynomial ลำดับที่ 3 เนื่องจากให้ค่า PSB, MSE, RV ต่ำสุด และค่า RHO สูงสุด คำสำคัญ: การประเมินค่าทางพันธุกรรม โมเดลวันทดสอบ โมเดลรอบการให้นม โคนมลูกผสม
บทคัดย่อ (EN): Comparison of Breeding Values Predicted with Lactation Model and Test-Day Model in Crossbred Dairy Cattle Sayan Buaban*1 Jureeratana Sanpote2 1,2The Bureau of Biotechnology in Livestock Production, Department of Livestock Development, Prathumtani 12000, Thailand *Corresponding author: buaban_ai@hotmail.com This study was designed 1) to estimate genetic parameters and breeding values for test-day (TD) and 305-day milk yields, and 2) to compare estimates of genetic values with the test-day models (TDMs) with those from a model using 305-day lactation records (LCM) to investigate the suitability of TDMs for genetic evaluation of crossbred dairy cattle in Thailand. TDMs were analyzed using repeatability models and a set of random regression models with lactation functions (Wilmink, Ali&Shaeffer and Shaeffer&Dekker) and Legendre polynomial of varying order (up to four coefficients) on additive genetic(AG) and permanent environmental (PE) effects. The data included 86,519 TD records of 10,111 first lactation of crossbred dairy cows obtained from the dairy database of the Bureau of Biotechnology for Livestock Production, Department of Livestock Development, Thailand calving from 1992 to 2007. Variance and covariance component estimates of LCM (additive and residual) and TDMs (Variance and covariance of additive and permanent environment random regression coefficients and residual) were estimated by Restricted Maximum Likelihood (REML) method and the breeding values were predicted by Best Linear Unbiased Prediction (BLUP). The results showed that residual variance (RV) from TDMs were smaller than LCM. Heritability estimates of TD milk yields from all TDMs were close to the corresponding estimates for 305-day milk yields (0.21). TDMs resulted in higher means and S.D. of EBVs than LCM. Estimated breeding values with TDMs were highly correlated with those with LCM (0.80 to 0.84 for sires and 0.78 for cows). Largest rank shift measured showed that ranking of sire was affected less than that of cows. More genetic improvement can be achieved by using TDMs to select animals for higher milk than by using models with 305-d lactation records. This finding indicates that TDMs using TD milk yields could be alternative to replace LCM for genetic evaluation of milk yield in crossbred dairy cattle in Thailand. The best models to fit TD milk yields are RR-TDMs which have the fourth order of Legendre polynomial for describing the average lactation curve and AG and the third order for describing the PE curves according to lowest PSB, MSE, RV and highest RHO values. Keywords: genetic evaluation, test-day model, lactation model, crossbred dairy cattle
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมปศุสัตว์
คำสำคัญ: โมเดลวันทดสอบ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เปรียบเทียบค่าการผสมพันธุ์ที่ทำนายด้วยโมเดลรอบการให้นมและโมเดลวันทดสอบในโคนมลูกผสม
กรมปศุสัตว์
30 กันยายน 2551
กรมปศุสัตว์
การเปรียบเทียบโมเดลทางพันธุกรรมระหว่างค่าความแปรปรวนของความคลาดเคลื่อนแบบคงที่และไม่คงที่ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์โดยใช้โมเดลวันทดสอบรีเกรซชั่นสุ่ม การทดสอบการใช้พืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเลี้ยงโคนมทดแทนฝูง(อายุ6-18เดือน)ในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยจังหวัดเพชรบูรณ์ การประมาณค่าพารามิเตอร์ทางพันธุกรรมและความคงทนของการให้นมในโคนมโดยใช้โมเดลวันทดสอบรีเกรสชั่นสุ่ม การทดสอบการเสริม Urea Molasses Multinutrient Block (UMMB) แก่โครีดนมในฟาร์มเกษตรกร ผลการใช้เมล็ดฝ้ายทดแทนอาหารข้นสำหรับโคกำลังรีดนม การศึกษาต้นทุนการผลิตนำนมดิบของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้ต้นและเปลือกข้าวโพดฝักอ่อนเป็นอาหารหลักในโคกำลังรีดนม การทดสอบเทคโนโลยีการเลี้ยงลูกโคนมเพศผู้ในสภาพขังคอกในพื้นที่จังหวัดสกลนคร สมรรถภาพการเจริญเติบโตก่อนและหลังหย่านมของแพะลูกผสม 50% บอร์-พื้นเมือง และ 50% แองโกลนูเบียน-พื้นเมือง การใช้รูปแบบยีนที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตน้ำนมและความสมบูรณ์พันธุ์ในโคนมลูกผสมโฮลสไตน์เป็นปัจจัยในการประมาณค่าการผสมพันธุ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก