สืบค้นงานวิจัย
สถานภาพและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์ในประชากรโคนมในเขตภาคกลางของประเทศไทย
ธนาทิพย์ สุวรรณโสภี - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: สถานภาพและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์ในประชากรโคนมในเขตภาคกลางของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Situation and Factor Affecting Dairy Sire Selection for Genetic Improvement in Central Thai Dairy Population
บทคัดย่อ: การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพือจำแนกสถานการณ์และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมของโคนมในระดับฟาร์ม ข้อมูลผลผลิตน้ำนมรวมที่ 305 วัน และพันธุ์ประวัติของโคนม 1,921 ตัว ที่คลอดลูกครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2533 ถึง 2550 ในฟาร์มเกษตรกร 161 ราย ในเขตภาคกลางของประเทศไทยถูกนำมาใช้ประมาณค่าองค์ประกอบของความแปรปรวน ด้วยวิธี average information restricted maximum likelihood และทำนายคุณค่าการผสมพันธุ์ของโคนมแต่ละตัว หุ่นจำลองทางพันธุกรรมทางพันธุกรรมแบบ Animal model ที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ปัจจัยร่วมระหว่างฟาร์ม-ปี-ฤดูกาลที่สัตว์คลอดลูก อายุเมื่อสัตว์คลอดลูก และกลุ่มทางพันธุกรรมที่พิจารณาในรูปของสมการรีเกรสชั่นเป็นปัจจัยกำหนด ส่วนปัจจัยสุ่มนั้น ได้แก่ อิทธิพลแบบบวกสะสมของตัวสัตว์ และความคลาดเคลื่อนสุ่ม ความสามารถทางพันธุกรรมของโคนมแต่ละตัวที่คลอดลูกในแต่ละปี ถูกนำมาใช้ในการประมาณค่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง (สัมประสิทธิถดถอย; b) ทางพันธุกรรมของโคนมในแต่ละฟาร์ม แล้วจึงนำค่าดังกล่าวมาจำแนกฟาร์มของเกษตรกรออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มฟาร์มที่มีพันธุกรรมถดถอย (b 0.5) ตามลำดับ แบบสอบถามที่ประกอบด้วยคำถามที่สัมพันธ์กับพื้นฐานของเกษตรกร ฝูงโคนม การจัดการฟาร์ม การตัดสินใจ และความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำฟาร์มเลี้ยงโคนม ถูกนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลจากเกษตรกรแต่ละราย และถูกนำมาใช้ในการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมของโคนม ในระดับฟาร์ม วิธีการทดสอบ Fisher's exact test ถูกนำมาใช้ในการทดสอบความสัมพันธ์ของปัจจัยระหว่างกลุ่มฟาร์มทั้งสามกลุ่ม ในประชากรที่ศึกษาความแปรปรวนของลักษณะที่ปรากฏมีค่า 628,043 ? 25,050 กิโลกรัม2 ความแปรปรวนทางพันธุกรรมมีค่า 212,003 ? 50,840 กิโลกรัม2 และอัตราพันธุกรรมมีค่า 0.34 ? 0.08 คุณค่าการผสมพันธุ์มีค่าอยู่ในช่วง -849.22 ถึง 2,448.63 กิโลกรัม สำหรับโครีดนม -637.78 ถึง 1,307.40 กิโลกรัม สำหรับพ่อพันธุ์ และ -601.34 ถึง 2,448.63 กิโลกรัม สำหรับแม่พันธุ์ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในภาพรวมของประชากรมีค่า 0.29 ? 1.02 กิโลกรัมต่อปี สำหรับแม่โครีดนม, -1.47 ? 1.89 กิโลกรัมต่อปี สำหรับพ่อพันธุ์, และ 1.44 ? 0.91กิโลกรัมต่อปีสำหรับแม่พันธุ์ ฟาร์มส่วนใหญ่ (40%) มีแนวโน้มทางพันธุกรรมก้าวหน้า (0.63 ? 4.67 ถึง 230.79 ? 166.63 กิโลกรัมต่อเดือน) รองลงมาได้แก่ ฟาร์มที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรมถดถอย (35%; -173.68 ? 39.63 ถึง -0.62 ? 2.57 กิโลกรัม/เดือน) และไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม (25%; -0.52 ? 3.52 ถึง 0.55 ? 2.68 กิโลกรัมต่อเดือน) อย่างไรก็ตาม ทุกปัจจัยที่ศึกษาไม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มฟาร์ม ยกเว้น ระดับการศึกษาของเกษตรกร (P 0.5) ตามลำดับ แบบสอบถามที่ประกอบด้วยคำถามที่สัมพันธ์กับพื้นฐานของเกษตรกร ฝูงโคนม การจัดการฟาร์ม การตัดสินใจ และความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำฟาร์มเลี้ยงโคนม ถูกนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลจากเกษตรกรแต่ละราย และถูกนำมาใช้ในการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมของโคนม ในระดับฟาร์ม วิธีการทดสอบ Fisher's exact test ถูกนำมาใช้ในการทดสอบความสัมพันธ์ของปัจจัยระหว่างกลุ่มฟาร์มทั้งสามกลุ่ม ในประชากรที่ศึกษาความแปรปรวนของลักษณะที่ปรากฏมีค่า 628,043 ? 25,050 กิโลกรัม2 ความแปรปรวนทางพันธุกรรมมีค่า 212,003 ? 50,840 กิโลกรัม2 และอัตราพันธุกรรมมีค่า 0.34 ? 0.08 คุณค่าการผสมพันธุ์มีค่าอยู่ในช่วง -849.22 ถึง 2,448.63 กิโลกรัม สำหรับโครีดนม -637.78 ถึง 1,307.40 กิโลกรัม สำหรับพ่อพันธุ์ และ -601.34 ถึง 2,448.63 กิโลกรัม สำหรับแม่พันธุ์ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในภาพรวมของประชากรมีค่า 0.29 ? 1.02 กิโลกรัมต่อปี สำหรับแม่โครีดนม, -1.47 ? 1.89 กิโลกรัมต่อปี สำหรับพ่อพันธุ์, และ 1.44 ? 0.91กิโลกรัมต่อปีสำหรับแม่พันธุ์ ฟาร์มส่วนใหญ่ (40%) มีแนวโน้มทางพันธุกรรมก้าวหน้า (0.63 ? 4.67 ถึง 230.79 ? 166.63 กิโลกรัมต่อเดือน) รองลงมาได้แก่ ฟาร์มที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรมถดถอย (35%; -173.68 ? 39.63 ถึง -0.62 ? 2.57 กิโลกรัม/เดือน) และไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม (25%; -0.52 ? 3.52 ถึง 0.55 ? 2.68 กิโลกรัมต่อเดือน) อย่างไรก็ตาม ทุกปัจจัยที่ศึกษาไม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มฟาร์ม ยกเว้น ระดับการศึกษาของเกษตรกร (P < 0.05)
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this study were to characterize situation and factors affecting dairy sire selection for genetic improvement of dairy cattle at farm level. Accumulated 305-day milk yield (MY305) and pedigree information of 1,921 first lactation dairy cows that calved from 1990 through 2007 in 161 farms in Central Thailand were used to estimate variance components using average information restricted maximum likelihood procedure and predict animal breeding values. The animal model for each trait included herd-year-season, calving age, and regression additive genetic group as fixed effects, and random effects were cow and residual. Estimated breeding values of individual cows that calved in a particular year then were used to estimate genetic trends for each individual farms. Within-farm genetic trends (regression coefficients) were used to classify farms into 3 groups; 1) farms with negative genetic trend (b 0.5). Questionnaires, which had questions related to farmer’s backgrounds, dairy herd, farm management, decision making, and their opinion on dairy farming were used to gather information from individual farmers and then they were used to study factors affecting genetic improvement for milk production at farm level. Fisher’s exact test was used to test association of the studied factors between farm groups. In the study population, the estimate was 628,043 ? 25,050 kg2 for phenotypic variation, 212,003 ? 50,840 kg2 for genetic variation, and 0.34 ? 0.08 for heritability. Estimated breeding value ranged from -849.22 to 2,448.63 kg for cows, -637.78 to 1,307.40 kg for sires, and -601.34 to 2,448.63 kg for dams. For the whole population, the estimated genetic trends were 0.29 ? 1.02 kg per yr for cows, -1.47 ? 1.89 kg per yr for sires, and 1.44 ? 0.91 kg per yr for dams. At farm level, most farms (40%) had positive genetic trend (0.63 ? 4.67 to 230.79 ? 166.63 kg per month) followed by farms with negative genetic trend (35%; -173.68 ? 39.63 to -0.62 ? 2.57 kg per month) and those with no genetic trend (25%; - 0.52 ? 3.52 to 0.55 ? 2.68 kg per month). However, all studied factors were not significantly associated between those farm groups, excepted for education background (P 0.5). Questionnaires, which had questions related to farmer’s backgrounds, dairy herd, farm management, decision making, and their opinion on dairy farming were used to gather information from individual farmers and then they were used to study factors affecting genetic improvement for milk production at farm level. Fisher’s exact test was used to test association of the studied factors between farm groups. In the study population, the estimate was 628,043 ? 25,050 kg2 for phenotypic variation, 212,003 ? 50,840 kg2 for genetic variation, and 0.34 ? 0.08 for heritability. Estimated breeding value ranged from -849.22 to 2,448.63 kg for cows, -637.78 to 1,307.40 kg for sires, and -601.34 to 2,448.63 kg for dams. For the whole population, the estimated genetic trends were 0.29 ? 1.02 kg per yr for cows, -1.47 ? 1.89 kg per yr for sires, and 1.44 ? 0.91 kg per yr for dams. At farm level, most farms (40%) had positive genetic trend (0.63 ? 4.67 to 230.79 ? 166.63 kg per month) followed by farms with negative genetic trend (35%; -173.68 ? 39.63 to -0.62 ? 2.57 kg per month) and those with no genetic trend (25%; - 0.52 ? 3.52 to 0.55 ? 2.68 kg per month). However, all studied factors were not significantly associated between those farm groups, excepted for education background (P < 0.05).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ธนาทิพย์ สุวรรณโสภี. "สถานภาพและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์ในประชากรโคนมในเขตภาคกลางของประเทศไทยSituation and Factor Affecting Dairy Sire Selection for Genetic Improvement in Central Thai Dairy Population". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552

ธนาทิพย์ สุวรรณโสภี. "สถานภาพและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์ในประชากรโคนมในเขตภาคกลางของประเทศไทยSituation and Factor Affecting Dairy Sire Selection for Genetic Improvement in Central Thai Dairy Population". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
สถานภาพและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์ในประชากรโคนมในเขตภาคกลางของประเทศไทย
ธนาทิพย์ สุวรรณโสภี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
ปัจจัยที่มีอิทธิพลและความเป็นไปได้ในการคัดเลือกพันธุ์เพื่อลดจำนวนเซลล์โซมาติกในน้ำนมของโคนมที่เลี้ยงดูในภาคกลางของประเทศไทย การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของโรค Trypanosomiasis ที่ทำให้เกิดอาการ แท้งในโคนมในเขตภาคกลาง ของประเทศไทย ผลกระทบของการผสมเลือดชิดที่ส่งผลต่อความสมบูรณ์พันธุ์ของประชากรโคนมในประเทศไทย ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อลักษณะความสมบูรณ์พันธุ์ของโคนมลูกผสมในประเทศไทย การศึกษาอิทธิพลของปัจจัยการเกิดดินและปัจจัยเชิงพื้นที่ ที่มีผลต่อความแปรปรวนของดินที่ได้รับอิทธิพลจากเกลือ ในเขตที่ราบภาคกลางของประเทศไทย การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค Cryptosporidiosis และ Giardiasis จากอุจจาระโคนมในเขตภาคเหนื่อของประเทศไทย การทำประกันภัยโคนมของสมาชิกองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เขตมวกเหล็ก การปรับปรุงพันธุกรรมลักษณะเชิงทำงานในโคนมเพื่อผลิตแม่โคนมคงทนในประเทศไทย การศึกษาอิทธิพลร่วมระหว่างระดับเลือดของพ่อและระดับเลือดของแม่พันธุ์โคนมต่อปริมาณน้ำนมรวม 305 วัน ในประชากรโคนมหลากหลายพันธุกรรมที่เลี้ยงในประเทศไทย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการให้ผลผลิตน้ำนมในโคนมไทยฟรีเชียน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair