สืบค้นงานวิจัย
สมบัติของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน
ธชพล ณ นคร - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: สมบัติของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน
ชื่อเรื่อง (EN): Properties of the Solidified Heavy Metal Sludge Using Portland Cement and Black Husk Ash as Solidification Binder
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธชพล ณ นคร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thachapon Na nagara
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาความสามารถในการรับแรงอัดและการรั่วไหลของโลหะหนักจากก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน โดยใช้การแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ด้วยเถ้าแกลบดำที่มีปริมาณร้อยละ 0, 10, 20 และ 30 โดยน้ำหนัก และแปรเปลี่ยนกากตะกอนในอัตราร้อยละ 0, 10, 20, 30 และ 50 โดยน้ำหนัก พบว่าก้อนหล่อแข็งที่มีการแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ด้วยเถ้าแกลบดำปริมาณร้อยละ 10 โดยน้ำหนักให้ค่ากำลังรับแรงอัดสูงสุดหลังจากอายุการบ่ม 28 วันขึ้นไป โดยมีความสามารถในการรับแรงอัดสูงกว่าก้อนหล่อแข็งที่ไม่มีการแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ด้วยเถ้าแกลบดำที่อายุการบ่ม 28, 56 และ 91 วัน คิดเป็นร้อยละ 8.5, 8.2 และ 9.1 ตามลำดับ นอกจากนี้เมื่อปริมาณกากตะกอนโลหะหนักในก้อนหล่อแข็งเพิ่มขึ้นทำให้ความสามารถในการรับแรงอัดของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักลดลง โดยที่ปริมาณกากตะกอนโลหะหนักในก้อนหล่อแข็งร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก ที่ 28 วัน มีความสามารถในการรับแรงอัดเท่ากับ 94 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งน้อยกว่าก้อนหล่อแข็งที่ไม่มีการเติมกากตะกอนโลหะหนักที่อายุเท่ากันคิดเป็นร้อยละ 77.7 เมื่อทำการทดสอบการรั่วไหลของโลหะหนักจากก้อนหล่อแข็งด้วยวิธี Multiple Extraction Procedure (MEP) พบว่าปริมาณกากตะกอนโลหะหนักและค่าพีเอชของสารชะละลายก็ยังมีผลต่อการรั่วไหลของโลหะจากก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนัก โดยเมื่อแทนที่ก้อนหล่อแข็งด้วยกากตะกอนโลหะหนักร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก ความเข้มข้นสะสมของการชะละลายของ ทองแดง, เหล็ก, โครเมี่ยม, แคดเมี่ยม และสังกะสี มีค่าเท่ากับ 0.247, 2.348, 0.346, 0.006 และ 0.389 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ส่วนตะกั่วไม่สามารถตรวจวัดความเข้มข้นได้ด้วยเครื่อง AAS อย่างไรก็ตามปริมาณโลหะหนักในสารชะละลายมีค่าไม่เกินมาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนด
บทคัดย่อ (EN): This research work investigated the compressive strength and leaching of heavy metal from the solidified wastes using ordinary portland cement (OPC) and black husk ash (BHA) as binders. OPC was replaced by BHA at 0, 10, 20 and 30% by wt. and metal sludge was loaded at 0, 10, 20, 30 and 50% by wt.. Results showed that the blended cement with 10% by wt. of BHA substitution gave the highest strength after 28 days of curing. Compressive strength of cement blended with 10% by wt. of BHA was 8.5, 8.2 and 9.1% higher than that of the plain hardened cement at the age of 28, 56 and 91 days, respectively. In addition, strength of the solidified wastes decreased when the amounts of waste increased. It was found that the solidified waste containing 50% by wt. of metal sludge gave a 28 - day strength of 94 kg/cm2, which was 77.7% lower than that of the control. Leachability of heavy metals was tested using Multiple Extraction Procedure (MEP). It is observed that the amounts of waste loading and leachate pHs affected leachability of heavy metals from the solidified wastes. The cumulative concentration of Cu, Fe, Cr, Cd and Zn released from the solidified waste containing 50% by wt. of metal sludge was 0.247, 2.348, 0.346, 0.006 and 0.389 mg/L, respectively. However, concentration of these heavy metals in the leachates was not exceeded the standard criteria of the Ministry of Industry.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=9177&obj_id=26435
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: โลหะหนัก
คำสำคัญ (EN): Heavy Metals
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: This research work investigated the compressive strength and leaching of heavy metal from the solidified wastes using ordinary portland cement (OPC) and black husk ash (BHA) as binders. OPC was replaced by BHA at 0, 10, 20 and 30% by wt. and metal sludge was loaded at 0, 10, 20, 30 and 50% by wt.. Results showed that the blended cement with 10% by wt. of BHA substitution gave the highest strength after 28 days of curing. Compressive strength of cement blended with 10% by wt. of BHA was 8.5, 8.2 and 9.1% higher than that of the plain hardened cement at the age of 28, 56 and 91 days, respectively. In addition, strength of the solidified wastes decreased when the amounts of waste increased. It was found that the solidified waste containing 50% by wt. of metal sludge gave a 28 - day strength of 94 kg/cm2, which was 77.7% lower than that of the control. Leachability of heavy metals was tested using Multiple Extraction Procedure (MEP). It is observed that the amounts of waste loading and leachate pHs affected leachability of heavy metals from the solidified wastes. The cumulative concentration of Cu, Fe, Cr, Cd and Zn released from the solidified waste containing 50% by wt. of metal sludge was 0.247, 2.348, 0.346, 0.006 and 0.389 mg/L, respectively. However, concentration of these heavy metals in the leachates was not exceeded the standard criteria of the Ministry of Industry.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ธชพล ณ นคร. "สมบัติของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสานProperties of the Solidified Heavy Metal Sludge Using Portland Cement and Black Husk Ash as Solidification Binder". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. 2548

ธชพล ณ นคร. "สมบัติของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสานProperties of the Solidified Heavy Metal Sludge Using Portland Cement and Black Husk Ash as Solidification Binder". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. 2548. Print.



TARR Wordcloud:
สมบัติของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน
ธชพล ณ นคร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2548
การกำจัดโลหะหนักในกากตะกอนสลัดจ์ด้วยวิธีไบโอลิชชิ่ง การตรึงกากตะกอนโลหะหนักโดยการกระตุ้นเถ้าแกลบด้วยสารเคมีและความร้อน : ความสามารถในการชะโลหะหนัก ผลของโลหะหนักต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายสีเขียว การรั่วไหลของโลหะหนักจากก้อนหล่อแข็งของเสียที่เตรียมโดยการกระตุ้นเถ้าแกลบด้วยด่าง การหาปริมาณโลหะบางชนิดในดินตะกอน น้ำ และปลาโดยใช้เทคนิคอินดัคทีฟคัพเปิลพลาสมา อะตอมมิกอิมิสชันสเปกโตรสโคปี การใช้ไทโอยูเรียในการสกัดทองจากแร่ชาโคไพไรด์และการดูดซับทองไทโอยูเรีย โดยใช้ Chlorella vulgaris และแกลบ การผลิตถ่านกัมมันต์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและการประยุกต์ใช้ในการกำจัดสีย้อมและโลหะหนักในน้ำ การศึกษาอิทธิพลของเถ้าปาล์มน้ำมันจากแหล่งต่างๆของภาคใต้ตอนบนต่อคุณสมบัติของมอร์ตาร์ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ กำลังรับแรงอัดอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน และใช้ปูนซีเมนต์ และโซเดียมซิลิเกตในการกระตุ้นปฎิกิริยาปอซโซลาน อิทธิพลของชนิของสารกระตุ้นประเภทด่างที่มีต่อกำลังรับแรงอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียลคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุประสาน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair