สืบค้นงานวิจัย
ผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรงงานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของแท่งหล่อแข็ง
Nakarin Trongjit - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรงงานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของแท่งหล่อแข็ง
ชื่อเรื่อง (EN): Particle size effects of rice husk ash and waste sludge on compressive strength and leachability of solidified battery waste sludge
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nakarin Trongjit
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อหาผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรง งานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของ แท่งหล่อแข็ง การทดลองแบ่งชุดการทดลองเป็น 16 ชุด การทดลองโดยแบ่งตามขนาดของอนุภาคที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ขนาดใหญ่กว่า 150 ไมครอน, ขนาด 75- 150 ไมครอน,ขนาดเล็กกว่า 75 ไมครอนและ ไม่แยกขนาด ส่วนผสมที่ใช้ในการทดลองใช้สัดส่วนคงที่ ปูน ซีเมนต์:แกลบ:กากตะกอน เท่ากับ 1:0.5:0.15 โดยแต่ละชุดการทดลองจะมีอายุการบ่มที่ 7,14,21และ28วัน กากตะกอนจากโรงงานแบตเตอร์รี่ถูกนำมาวิเคราะห์หาความเข้มข้นของตะกั่วพบว่ามีปริมาณตะกั่วอยู่ 587 กรัมตะกั่วต่อกิโลกรัมตะกอนแห้ง และค่าการชะละลายของตะกั่วเท่ากับ 148 มิลลิกรัมต่อลิตรจากการทดลอง พบว่าขนาดของอนุภาคของขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนมีผลกับกำลังรับแรงอัดและการชะละลายตะกั่วของแท่ง หล่อแข็ง โดยกำลังรับแรงอัดจะเพิ่มขึ้นถ้าขนาดอนุภาคของขี้เถ้าแกลบและลดลง(P<0.001)และกำลังรับแรงอัดจะ เพิ่มขึ้นถ้าขนาดอนุภาคของกากตะกอนลดลง(P=0.037)ในส่วนของการชะละลายตะกั่วพบว่า การชะลายตะกั่วลด ลงเมื่อขนาดอนุภาคของขี้เถ้าแกลบลดลง(P=0.001)และการชะลายตะกั่วลดลงเมื่อขนาดอนุภาคของกากตะกอนลด ลง(P<0.001)นอกจากนั้นยังพบว่ากำลังรับแรงอัดเพิ่มขึ้นเมื่อระยะเวลาในการบ่มแท่งหล่อแข็งเพิ่มขึ้น(P<0.001) และการชะละลายของตะกั่วลดลงเมื่อระยะเวลาในการบ่มแท่งหล่อแข็งเพิ่มขึ้น(P=0.002) ขนาดอนุภาคของขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนที่เหมาะสมคือ ขนาดเล็กกว่า 75 ไมครอนและระยะเวลาใน การบ่มที่เหมาะสมคือ 28 วันในสภาวะดังกล่าวสามารถผ่านตามมาตรฐานที่กำหนดและสามารถสรุปได้ว่าขนาด อนุภาคของขี้เถ้าแกลบ,ขนาดของกากตะกอน และระยะเวลาในการบ่มมีผลต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลาย ตะกั่ว ของแท่งหล่อแข็ง
บทคัดย่อ (EN): The research aimed to find the effects of particle size on the compressive strength and leachability for the solidification of Battery Waste Sludge (BWS) by using cement and rice husk ash(RHA).Sixteen experiment samples under different size fractions were assigned to be above 150 microns,75-150 microns, under 75 microns and particle of unseparated mixed sizes (all the sizes mentioned above). The ratio of mixture cement : RHA : BWS was constant at 1:0.5:0.15, and the water cement ratio was varied using the flow tests. The specimens were cured under different periods at 7,14,21,28 days. The Battery waste water sludge was collected and analyzed for lead content,which was about 587 mg/g of dried sludge, while the leachability of lead was about 148 mg/L.The particle size of RHA&BWS and the curing time affected compressive strength and lead leachability.The compressive strength increased as the particle size of RHA decreased (P<0.001) and the compressive strength increased as the particle size of BWS decreased (P=0.037).The lead leachability decreased as the particle size of RHA decreased (P=0.001)and the lead leachability decreased as the particle size of BWS decreased (P<0.001). The compressive strength increased as the curing time increased (P<0.001) and lead leaching decreased as the curing time increased (P=0.002). The optimum condition in the process of solidified sludge was a mixture of particle sizes of RHA and BWS under 75 microns at 28- day curing time. The optimum condition of solidified sludge has passed the standards required for compressive strength and lead leachability.It can be accepted that the effect of RHA&BWS on compressive strength and lead leachability is a combined effect of its size and curing time.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2687&obj_id=2374
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Strength of materials
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: วัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อหาผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรง งานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของ แท่งหล่อแข็ง การทดลองแบ่งชุดการทดลองเป็น 16 ชุด การทดลองโดยแบ่งตามขนาดของอนุภาคที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ขนาดใหญ่กว่า 150 ไมครอน, ขนาด 75- 150 ไมครอน,ขนาดเล็กกว่า 75 ไมครอนและ ไม่แยกขนาด ส่วนผสมที่ใช้ในการทดลองใช้สัดส่วนคงที่ ปูน ซีเมนต์:แกลบ:กากตะกอน เท่ากับ 1:0.5:0.15 โดยแต่ละชุดการทดลองจะมีอายุการบ่มที่ 7,14,21และ28วัน กากตะกอนจากโรงงานแบตเตอร์รี่ถูกนำมาวิเคราะห์หาความเข้มข้นของตะกั่วพบว่ามีปริมาณตะกั่วอยู่ 587 กรัมตะกั่วต่อกิโลกรัมตะกอนแห้ง และค่าการชะละลายของตะกั่วเท่ากับ 148 มิลลิกรัมต่อลิตรจากการทดลอง พบว่าขนาดของอนุภาคของขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนมีผลกับกำลังรับแรงอัดและการชะละลายตะกั่วของแท่ง หล่อแข็ง โดยกำลังรับแรงอัดจะเพิ่มขึ้นถ้าขนาดอนุภาคของขี้เถ้าแกลบและลดลง(P
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรงงานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของแท่งหล่อแข็ง
Nakarin Trongjit
มหาวิทยาลัยมหิดล
2548
การชะละลายของตะกั่วและกำลังรับแรงอัดจากการหล่อแข็งกากตะกอนของโรงงานแบตเตอรี่โดยใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และขี้เถ้าแกลบ การหล่อแข็งกากตะกอนตะกั่วโดยใช้ปูนซีเมนต์ขี้เถ้าแกลบและขี้เถ้าลอย อิทธิพลของชนิของสารกระตุ้นประเภทด่างที่มีต่อกำลังรับแรงอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียลคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุประสาน กำลังรับแรงอัดอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน และใช้ปูนซีเมนต์ และโซเดียมซิลิเกตในการกระตุ้นปฎิกิริยาปอซโซลาน การศึกษาศักยภาพและประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากตะกอนน้ำเสียโรงงานน้ำตาลผสมกับชานอ้อย เชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟ การใช้ประโยชน์กากตะกอนจากโรงงานแป้งมันดัดแปรผสมกับเศษถ่านผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง การใช้ประโยชน์จากกากตะกอนน้ำเสียโรงงานฟอกย้อมในการผลิตปุ๋ย การรั่วไหลของโลหะหนักจากก้อนหล่อแข็งของเสียที่เตรียมโดยการกระตุ้นเถ้าแกลบด้วยด่าง การตรึงกากตะกอนโลหะหนักโดยการกระตุ้นเถ้าแกลบด้วยสารเคมีและความร้อน : ความสามารถในการชะโลหะหนัก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก