สืบค้นงานวิจัย
โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวง ปี 2555
รัชนีวรรณ ตาฬุมาศสวัสดิ์ - กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวง ปี 2555
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัชนีวรรณ ตาฬุมาศสวัสดิ์
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการโครงการความร่วมมือ ด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวงร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ในแผนงานวิจัยและพัฒนาด้าน เทคโนโลยีฝนหลวง โครงการวิจัยและพัฒนาพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ปี 2555 ตามอนุมัติหลักการที่ กษ 0213/1740 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2555 โดยมีนายวราวุธ ชันติยานันท์ ผู้อำนวยการสำนักฝนหลวง และการบินเกษตร ได้ประชุมวางแผนปฏิบัติการร่วมกับ น.อ.มนูญ รู้กิจนา ผู้อำนวยการกองปฏิบัติกิจพิเศษ กรมยุทธการทหารอากาศ กองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 ณ ฐานปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ครื่องบินโจมตีธุรการแบบที่ 2 (AU-23A) จำนวน 2 เครื่อง ระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2555 บินปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นโซเดียมคลอไรด์จำนวน 100 นัด ที่ติดตั้งกับเครื่องบิน AU-23A เพื่อใช้ทำฝนในสภาวะเมผอุ่น ซึ่งในปี 2555 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลงานวิจัยพลุสารดูดความชื้นไปใช้ประโยชน์ และเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการนำพลุสารดูดความชื้นมาใช้ร่วมในการปฏิบัติการฝนหลวง โดยมีนางรัชนีวรรณ ตาฬุมาศสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้น นักบินกองทัพอากาศ นักวิชาการฝนหลวง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการบินวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝน หลวง โดยมีคณะที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่ดำเนินงานโครงการ รวม 90 คน สรุปได้ดังนี้ 1) การพัฒนาเทคนิคการใช้พลุสารดูดความชื้น (Hygroscopic Fare) เพื่อทำฝนจากสารฝนหลวง 3-4 ชนิด บด้วยเนื้อพลุน้ำหนัก 800 กรัมต่อนัด อนุภาคของสารที่เผาไหม้ (ควัน) ที่ได้จากการจุดพลุสาร มีน้ำหนักคิดเป็นร้อยละ 20 จะให้สาร "โซเดียมคลอไรด์ ขนาดอนุกาคเฉลี่ย 0 77 ไมครอน โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุครั้ง นี้ใช้พลุสารดูดความชื้นโชเดียมคลอไรค์ทั้งหมด 95 นัด (จากทั้งหมด 98 นัด ประสิทธิภาพการจุดติดและระบบอุปกรณ์ในการจุดพลุ ร้อยละ 97 (พลุไม่จุดตัวและจุดติดแต่ไม่เผาไหม้ จำนวน 3 นัด และระยะเวลาในการเผาไหม้เฉลี่ยนัดละ ธ นาที โครงการนี้มีภารกิจทดสอบ Size Distribution ของพลุสารดูดความชื้นโซเดียมคลอไรด์ (NaC) และแคลเซียมคลอไรด์ (CaCL) โดยเครื่องบินตรวจวัดเมฆฟิสิกส์ของฝนหลวง (บ. SKA-350) มีเครื่องมือ PCASP ตรวจวัดขนาดอนุภาค (Aerosol) ซึ่งมีขนาดระหว่าง 0.1-3 Jm และเครื่องมือ CCNC ตรวจวัดขนาดของเม็ดน้ำ (CCV) ซึ่งมีขนาด ระหว่าง 0.75-10 มm โดยใช้ บ.AU-23A ปฏิบัติการบินทดสอบคู่กับ บ SKA-350 สรุปได้ว่า 1 พลุสารดูดความชื้นให้ อนุภาค NacU CaCI, (ควัน) ขนาด 0.3/0 1-0.3 แm สูงที่สุด โตกว่าอนุกาคในธรรมชาติซึ่งมีขนาด 0.1 บm สูงที่สุด และ 2) ประสิทธิภาพของอนุภาคพลุสารดูดความชื้น Naci/CaCI, (ควัน) ให้ขนาดเม็ดน้ำ CCN ขนาด 1 um สูงที่สุด จากผลการทดสอบมีผลว่าการทำฝนใช้พลุสารดูดความชื้นโซเดียมคลอไรด์/แคลเซียมคลอไรด์สามารถเพิ่มขนาดเม็ดน้ำ ขนาดเล็กได้ เป็นประโยชน์ต่อโครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น 2) การปฏิบัติการในแต่ละวัน หลังจากประชุมร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เพื่อประเมินสถานการณ์ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว นักวิชาการจะทำการวิเคราะห์อากาศเพื่อประเมินสภาพอากาศ นักวิชาการและนักบินกองทัพอากาศจะ ร่วมกันวางแผนการปฏิบัติงานประจำวันทุกวัน วิธีการทดสอบโดย บ.AU-23A บินปฏิบัติการวิจัยทำฝนคู่กับเครื่องตรวจ อากาศเรดาร์ฝนหลวงอมก๋อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ สรรพาวุธจะทำการติดตั้งพลุสารดูดความชื้นที่บริเวณปีกทั้งสองข้างของบ AU-23A ซึ่งเมื้อไปถึงกลุ่มเมฆเป้าหมาย นักวิชาการที่ปฏิบัติงานบนอากาศยานจะประสานกับนักวิชาการเรดาร์ เพื่อตรวจสอบกลุ่มเมฆเป้าหมายที่จะปฏิบัติการฝน หลวง และดัดเลือกกลุ่มเมฆเป้าหมายที่อยู่ในเกณฑ์การทำฝน และบันทึกข้อมูลการปฏิบัติการทำฝนไว้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ถ่ายรูปถ่ายภาพกลุ่มเมฆเป้าหมายก่อนปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อจะได้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับกลุ่มเมฆเป้าหมายหลังจาก ที่ทำการจุดพลุแล้ว จากนั้นนักวิชาการจะเป็นผู้ทำการกดสวิทซ์ที่ Contro Box เพื่อทำการจุดพลุทำฝนใต้ฐานเมฆ/ไหล่เมฆ โดยระหว่างที่มีการจุดพลุออกไปแล้วนั้น เรดาร์ตรวจกลุ่มฝนที่สถานีเรดาร์ฝนหลวงอมก๋อย จะทำการบันทึกการ เปลี่ยนแปลงของกลุ่มเมฆเป้าหมาย ซึ่งทำให้นักวิชาการประเมินผลสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการใช้พลุ ทำฝนได้อย่างแม่นยำ และในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ บ.AU-23A สามารถใช้งานได้ดี 3) ผลการปฏิบัติการกับกลุ่มมฆเป้าหมายที่อยู่ในเกณฑ์ทำฝนเมฆอุ่น โดยการจุดพลุใต้ฐานเมฆ/ไหล่เมมที่ระดับ ความสูง 4,000-7,000 ฟุต บ.AU-23A สามารถบินปฏิบัติการวิจัยพลุทำฝนได้รวม 20 วัน 38 เที่ยวบิน 58 ชั่วโมง 10 นาที (เที่ยวบิน/ชั่วโมงบินรวมเวลาเดินทาง) ปฏิบัติการทำฝนกับกลุ่มเมฆเป้าหมายรวม 26 กลุ่มเมฆ เพื่อจะได้วิเคราะห์ เปรียบเทียบกลุ่มเมฆก่อนและหลังปฏิบัติการวิจัยพลทำฝน 4) การดำเนินงานโครงการปฏิบัติการวิจัยพลุฯและปฏิบัติภารกิจจริงในภาคอากาศ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้ง ไว้ จึงทำให้ทราบว่าการปฏิบัติการทำฝนโดยนำศักยภาพของแต่ละหน่วยงานมาบูรณา-การร่วมกัน ทำให้เกิดประสิทธิภาพใน การทำงานมากขึ้น จากการวิเคราะห์ปัจจัยตัวแปรข้อมูลเรดาร์เปรียบเทียบก่อนและหลังจุดพลุทำฝน 26 กลุ่มเมฆ ได้ค่าเฉลี่ยของความเข้มฝน (Relectivity) เพิ่มจาก 30 เป็น 34 dBZ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 13) พื้นที่ฝนตก (Rain Area) เพิ่มจาก 45 เป็น 56 ตารางกิโลเมตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 24) และปริมาตรฝน (Rain Volume) เพิ่มจาก 12,380 เป็น 18,006 ลูกบาศก์เมตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 45) สรุปได้ว่าการปฏิบัติการฝนหลวงด้วยพลุสารดูดความชื้นในสภาวะเมฆอุ่น สามารถเพิ่มปริมาณน้ำฝนและเพิ่มพื้นที่ของการเกิดฝนได้ ในช่วงฤดูฝนจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (เดือนกรกฎาคม - สิงทาคม 2555) พื้นที่ฝนตกที่ได้รับประโยชน์จากการใช้พสุโซเดียมคลอไรด์ทำฝนเฉลี่ย 30 ตร.กม ต่อ กลุ่มเมฆ หรือเฉลี่ย 18,750 ไร่ต่อกลุ่มเมม ครอบคลุมพื้นที่บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://164.115.23.116:8060/Frontend/download?DocumentID=46&fileIndex=0&originalFileName=26%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%20%E0%B8%9B%E0%B8%B5%202555.pdf
เผยแพร่โดย: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
คำสำคัญ: ความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวง
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมฝนหลวง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวง ปี 2555
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
2556
โครงการประยุกต์ผลการวิจัยฝนหลวงในการปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ฝนหลวงประจำภาค โครงการทดสอบประสิทธิภาพพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ปี 2554 โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวง ปี 2556 โครงการพัฒนาระบบพยากรณ์อากาศและโอกาสความสำเร็จ ในการปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการย่อยที่ 5 โครงการวิเคราะห์ปริมาณสาร THC ในเฮมพ์ โครงการย่อยที่ 1 โครงการคัดเลือกสายพันธุ์เฮมพ์ที่มีปริมาณสาร THC ต่ำ รายชื่อผลิตภัณฑ์ยาคุณภาพและผู้ผลิต GreenBook 8 ปี 2555 รวมรวม จำแนก ศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ไหมชนิดฟักปีละ 2 ครั้ง รวบรวม จำแนก ศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ไหมชนิดฟักปีละ 2 ครั้ง รวบรวม จำแนก ศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ไหมชนิดฟักปีละ 2 ครั้ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก