สืบค้นงานวิจัย
แนวทางพัฒนาความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชนกับการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า จังหวัดเชียงใหม่
เกศสุดา สิทธิสันติกุล - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: แนวทางพัฒนาความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชนกับการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Improving Food Security in Community Relating to Natural Resources, Production, Culture and Trade: A Case Studyat Chiang Mai
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนเกษตรอินทรีย์กับทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า รวมทั้งปัจจัยและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง และ 2) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาความมั่นคงทางอาหารของชุมชนเกษตรอินทรีย์ที่สัมพันธ์กับการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า ขอบเขตพื้นที่การศึกษาอยู่ในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ บ้านสันทราย ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ การสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตอย่างมีส่วนร่วม การประชุมกลุ่มย่อย การรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า ความมั่นคงทางอาหารในมุมมองของเกษตรกรอินทรีย์ ได้แก่ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งอาหารอันหลากหลายได้ตลอดปี การเสริมสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างพอเพียง การมีวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนพึ่งพาวัตถุดิบเพื่อการผลิตและอาหาร และการมีสุขภาพที่ดีจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดสารเคมีและการบริโภคอาหารปลอดภัย ความมั่นคงทางอาหารนี้มีความสัมพันธ์กับวิถีของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งประกอบด้วย 1) การผลิต – การยึดมั่นหลักความพอเพียง มีรูปแบบการทำเกษตรแบบผสมผสาน และมุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองด้านปัจจัยการผลิต 2) การจัดการผลผลิตและการค้า – รู้วิธีการหลากหลายในการประกอบอาหาร มีการแปรรูป และการใส่บรรจุภัณฑ์ มีช่องทางการจำหน่ายที่เป็นตลาดในชุมชนและนอกชุมชน และมีการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพผลผลิตภายในโดยสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ และการตรวจสอบภายนอกโดยผู้บริโภคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3) วัฒนธรรม – การดำรงไว้ซึ่งการแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้านอาหาร ความรู้ แรงงาน และวัตถุดิบการผลิต รวมทั้งมีการสืบทอดวิถีของเกษตรอินทรีย์ในครัวเรือน ในและนอกชุมชน 4) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม – การผลิตแบบอินทรีย์มีส่วนช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมในพื้นที่การเกษตร การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าและน้ำ รวมทั้งการกระตุ้นจิตสำนึกต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งในและนอกชุมชน โดยเฉพาะเรื่องพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ ปัจจัยที่เอื้อต่อการดำรงเสถียรภาพความมั่นคงทางอาหารของเกษตรกรอินทรีย์ ได้แก่ การมีที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เป็นของตนเอง การช่วยเหลือเกื้อกูลกันภายในกลุ่มเกษตรอินทรีย์และเครือข่าย กระแสความนิยมการบริโภคผลิตภัณฑ์อินทรีย์ การมีตลาดที่มีสินค้าที่ได้มาตรฐานและมีราคาที่เป็นธรรม และการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ เกษตรกรต้องมีใจรักที่จะทำและซื่อสัตย์ต่อการผลิตแบบไม่ใช้สารเคมี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอาหารของเกษตรกรอินทรีย์ ได้แก่ ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อความแห้งแล้ง การขาดผู้สืบทอดวิถีการผลิตแบบอินทรีย์เนื่องจากรูปแบบการดำรงชีวิตของชุมชนเปลี่ยนแปลงไป และการทำเกษตรเคมีในพื้นที่อื่นซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนพื้นที่การเกษตรและผลผลิตแบบอินทรีย์ ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาความมั่นคงทางอาหารของชุมชนเกษตรอินทรีย์สามารถแบ่งออกได้เป็นแนวทางพัฒนาระดับชุมชนและแนวทางสนับสนุนเชิงนโยบาย แนวทางระดับชุมชน ได้แก่ การให้เกษตรกรอินทรีย์เป็นผู้แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดความรู้ภายในและนอกชุมชน การขยายผลรูปธรรมของการพึ่งพาตนเองด้านความมั่นคงทางอาหาร การสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือภายในและนอกชุมชน การเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยการผลิต การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการผลิตและผลผลิตอินทรีย์ การกระตุ้นจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนที่จริงจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับแนวทางสนับสนุนเชิงนโยบายนั้น ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการกำหนดและควบคุมการใช้ประโยชน์พื้นที่การเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและพัฒนาแหล่งน้ำ ส่งเสริมการใช้พันธุกรรมพืชท้องถิ่น ส่งเสริมการเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง และการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ คำสำคัญ : ความมั่นคงทางอาหาร ชุมชนเกษตรอินทรีย์
บทคัดย่อ (EN): This study aimed to: i) examine the relationship between food security in an organic community and its elements of natural resources, production, culture and trade, including the factors and conditions relating to food security, and ii) to suggest the performance to improve food security in organic community relating to the existence of natural resources, production process, culture and trade. Data employed in this analysis were collected from interviews, focus group, participatory observation, and related documents with key resource persons of organic agriculture group, San Sai Village, Luang Nuea Sub-district, Doi Sa Ket District, Chiang Mai Province. The result indicated that food security in the viewpoint of organic agriculturalists included the capability to access varieties of food all year round, having economy that encouraged the capability to access food sufficiently, and being healthy by consuming safety diet and living in non-polluted environment. In addition, it related to the performance of organic agriculture which consisted of four elements: 1) production – holding the principle of sufficiency, practicing integrated agriculture, and focusing on self-reliance on inputs of production, 2) production management and trade – knowing diverse methods of cooking and preserved food, creating packaging, distributing products inside and outside markets of community local, and standardizing products by internal members of organic agriculture group and external consumer and related agencies, 3) culture – maintaining culture of sharing and helping one another about food, knowledge, labor, and production inputs; and transmitting organic practices to members in household and people inside and outside community, 4) natural resource and environment – continuing organic helping revive ecosystem and environment in agriculture areas, participating in the activities of conservation outside and inside communities, and stimulating environmental awareness especially energy and climate change. However, the factors encouraging the stability of food security were: holding land ownership, helping one another with organic agriculture members and network, remaining the popularity of consuming organic products, providing standard organic products and fair price in markets, and obtaining support from related agencies. Organic agriculturalists were also the important condition to stabilize food security; they required passion and royalty to abolish chemical substances in agricultural practices. In contrast, the risks factors of food security included drought caused by climate change, lack of succession due to livelihood change, and chemical practices in other areas leading polluted agriculture areas and products. In order to improve food security, the suggestions for an organic community derived from this study included: 1) allowing organic agriculturalists to teach and share knowledge inside and outside communities, 2) extending the concrete centers of self-reliance on food security, 3) establishing the organic networks inside and outside communities to help one another, 4) developing the potential of organic agriculturalists in adaptation to the change of agricultural inputs, 5) promoting the confidence of producers and consumers in organic practices and products, 6) stimulating the awareness of natural resources and environment, and 7) having the extreme encouragement of related agencies. In addition, the government should focus on determining and controlling land use for agriculture, enhancing the efficiency of water management and water source development, promoting the use of heredity plants for cultivation, encouraging self-reliance on agriculture, and developing young agriculturalists. Keywords: food security, organic community
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: ความมั่นคงทางอาหาร
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

เกศสุดา สิทธิสันติกุล. "แนวทางพัฒนาความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชนกับการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า จังหวัดเชียงใหม่Improving Food Security in Community Relating to Natural Resources, Production, Culture and Trade: A Case Studyat Chiang Mai". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2559

เกศสุดา สิทธิสันติกุล. "แนวทางพัฒนาความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชนกับการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า จังหวัดเชียงใหม่Improving Food Security in Community Relating to Natural Resources, Production, Culture and Trade: A Case Studyat Chiang Mai". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
แนวทางพัฒนาความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชนกับการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต วัฒนธรรม และการค้า จังหวัดเชียงใหม่
เกศสุดา สิทธิสันติกุล
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
30 กันยายน 2559
แนวทางพัฒนาความมั่นคงทางอาหารในชุมชนเกษตรอินทรีย์ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ การประเมินคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารและการสำรวจความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบอาหารพื้นถิ่น เพื่อความมั่นคงทางอาหารและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ในชุมชนพื้นที่สูงชุมชนภูลังกา จังหวัดพะเยา การบริหารการเงินของการท่องเที่ยวชุมชนเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย การคัดเลือกพันธุ์ และการขยายพันธุ์พืชเก๊กฮวยสะโง๊ะ ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรตามหลักเกษตรอินทรีย์ และสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเกษตรพื้นที่สูงสะโง๊ะ โครงการศึกษาและพัฒนาพลังงานทางเลือกระดับชุมชน อาหารบำรุงสมอง การวิเคราะห์พื้นที่ และระบบการผลิตข้าวไร่ที่สัมพันธ์กับความมั่นคงทางอาหารระดับครัวเรือน ของชุมชนห้วยลอย จังหวัดน่าน การยกระดับคุณค่ามันเทศให้เป็นอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพและแหล่งสำรองอาหารในภาวะวิกฤติเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ การยกระดับคุณค่ามันเทศให้เป็นอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพและแหล่งสำรองอาหารในภาวะวิกฤติเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ โครงการวิจัยและพัฒนาการฟื้นฟูแหล่งอาหารและความหลากหลายทางชีวภาพของชุมชนบนพื้นที่สูง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair