สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแซะหอม
นันทฤทธิ์ โชคถาวร - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแซะหอม
ชื่อเรื่อง (EN): Development of Technique, Method for Essence Extraction from Dendrobium Scabrilingue
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นันทฤทธิ์ โชคถาวร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nantarit Chokethaworn
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชุดเอกสาร: การผลิตเอื้องแซะหอมเพื่อการสกัดกลิ่นหอม
บทคัดย่อ: การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแระหอม ได้คัดเลือกดอกกล้วยไม้ เอื้องแระหอมสดขณะที่มีกลิ่นหอมและดอกบานได้เต็มที่มาใช้ทดลองยืนยันสำหรับทดสอบการ สกัดด้วย ตัวทำละลาย ตัวทำละลายที่เหมาะสมสำหรับการสกัดน้ำหอมได้แก่ อะชิโดน -บิวทานอล เอทานอล ๑-โพรพานอล ๒-โพรพานอล และน้ำกลั่น รวมทั้งตัวทำละลายเหล่านี้ ผสมกัน ตัวทำละลายชนิดปิโตรเลียมอีเทอร์ เฮกเซนผสม ดเอทิลอีเทอร์ และเอทิลแอริเตต ไม่ควรนำมาใช้สกัดสารให้กลิ่นหอมที่เป็นสารหลักและสำคัญ เพื่อการผลิตน้ำหอมเพราะสกัดไม่ได้ น้ำหอม ในการวิจัยนี้ พบว่า กล้วยไม้เอื้องแซะหอม สามารถแบ่งย่อยออกตามความ แตกต่างของสี กลีบปากของดอกได้เป็น 4 ชนิดย่อย ดอกเอื้องแซะหอมที่มีสีกลีบปากเป็นสีเหลือง สว่าง สีเหลืองอมส้ม และสีส้ม เป็นดอกที่สามารถนำมาสกัดสารหอมเพื่อผลิตเป็นน้ำหอมได้ แต่ ดอกเอื้องแซะที่มีกสีบปากเป็นสีเขียวคล้ายสีหยก ไม่สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำหอม ตัวทำละลายชนิดต่าง ๆ ได้ถูกทดสอบประสิทธิภาพของการสกัดโดยเลือกระดับ ความมีขั้วไฟฟ้าของแต่ละตัวทำละลายให้ต่าง ๆ กัน จากนั้นนำสารสกัดจากดอกกล้วยไม้ไป วิเคราะห์ส่วนประกอบเคมีด้วยเทคนิคโครมาโทกราฟิแก๊ส-แมสสเปกโทรเมตรี (GC-MS) น้ำมันหอมระเหยและน้ำมันดอกไม้สามารถระเหยได้ กิดขึ้นจากปฏิกิริยาการเกิด เอสเทอร์ของกรดคาร์บอกซิลิกที่ตรวจพบ ทำปฏิกิริยากับสารแอลกอฮอล์ต่าง ๆ ที่พบในสารสกัด จากดอกเอื้องแระหอม ส่วนประกอบเคมีสำคัญในน้ำมันดอกไม่ซึ่งมีกลิ่นหอมจากกล้วยไม้เอื้องแระหอม เป็นสารอะซิเตตเอสเทอร์ และเอสเทอร์ของกรดไขมันอื่น ๆ ที่ได้จากปฏิกิริยาของกรดไขมันกับ แอลกอฮอล์ซนิดเฟนิลเอทิลแอลกอฮอล์ เบนซิลแอลกอฮอล์ ลินาลอล วานี้"สิน ลิโมนีน รวมทั้ง อนุพันธ์ของเซสควิเทอร์ปันหนึ่งชนิด นอกจากนี้ยังพบอีกว่าน้ำหอมที่สกัดได้มีส่วนประกอบเคมีที่เป็นของแข็งชนิด -เมทอกริ---ไวนิลพืนอล ละลายอยู่ในน้ำมันดอกกล้วยไม้เอื้องแซะหอมและให้กลิ่นหอมของ วานิลลาอยู่ด้วย การขยายพันธุ์และปลูกเลี้ยงกล้วยไม้เอื้องแซะหอมให้ได้จำนวนมากโดยกลุ่ม ผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ และความร่วมมือของประชาชนซึ่งมาช่วยกันอนุรักษ์และผลิ่ตกล้วยไม้ให้ได้ จำนวนมากขึ้น เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนจะคัดเลือกดอกกล้วยไม้ที่สด ขณะที่มีกลิ่นหอม เพื่อนำไป สกัดสารมีกลิ่นหอมสำหรับการผลิตน้ำหอมคุณภาพสูงเป็นอุดสาหกรรมต่อไป
บทคัดย่อ (EN): To develop technique, method for essence extraction from Dendrobium scabrilingue Lindl., fresh and scent flowers at completely blooming stage were selected and subjected to solvent extraction. Acetone, 1-butanol, ethanol, 1-propanol, 2-propanol and distilled water including mixtures of these solvents were reconfirmed to be appropriate for perfume extraction. Petroleum ether, hexanes, diethyl ether and ethyl acetate should not be used to extract major essence for perfume production. In this research, the flowers of Dendrobium scabrilingue LindI. could be subdivided into 4 subclasses by colour difference of their labellums. Three subclasses of the orchid flowers, which had bright yellow colour, yellowish orange colour, or orange our in each labellum, could be used as raw materials for essence e perfume production. One subclass of the orchid flowers, which had S'feenish jade-like colour in the labellum could not be used. tested for extraction efficiency. And chemical constituents of the orchid extracts were analyzed by gas chromatography-mass spectrometry (GC-MS). Esterification of carboxylic acids with alcohols could produce essential oil and volatile floral oil in the orchid extracts. Acetate esters and esters of other fatty acids from phenylethyl alcohol, benzyl alcohol, linalool, vanillin, limonene and a derivative of sesquiterpenoid compound were important chemical components in essence of the orchid floral oils. In addition, the perfume extracts were found to be consisted of a solid component which created vanilla flavor as 2-methoxy-4-vinyIphenol in the liquid floraloils. Propagation for mass cultivation of Dendrobium scabrilingue Lindl. by orchid growers and cooperation of people for conservation and mass production before selection of fresh and scent flowers for essence extraction were important steps of further industrial production of the perfume at top quality.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://webpac.library.mju.ac.th:8080/mm/fulltext/research/2552/Nantarit_Chokethaworn_2551/fulltext.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: เอื้องแซะหอม
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นันทฤทธิ์ โชคถาวร. "การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแซะหอมDevelopment of Technique, Method for Essence Extraction from Dendrobium Scabrilingue". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2551

นันทฤทธิ์ โชคถาวร. "การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแซะหอมDevelopment of Technique, Method for Essence Extraction from Dendrobium Scabrilingue". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2551. Print.



TARR Wordcloud:
การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแซะหอม
นันทฤทธิ์ โชคถาวร
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2551
การพัฒนาเทคนิค วิธีการสกัดน้ำหอมจากเอื้องแซะหอม การผลิตเอื้องแซะหอมเพื่อสกัดกลิ่นหอม การผลิตเอื้องแซะหอมเพื่อการสกัดกลิ่นหอม การพัฒนาเทคนิค วิธีการผลิตน้ำหอมคุณภาพสูงจากเอื้องแซะหอมเชิงพาณิชย์ การพัฒนาเทคนิค วิธีการผลิตน้ำหอมคุณภาพสูงจากเอื้องแซะหอมเชิงพาณิชย์ อิทธิพลของแหล่งปลูกต่อปริมาณดอกของเอื้องแซะ การศึกษาลักษณะการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกล้วยไม้ไทยเอื้องแซะ ระบบการขยายพันธุ์กล้วยไม้ไทยเอื้องแซะหอมเพื่อการสกัดกลิ่นหอม การปรับปรุงพันธ์เอื้องแซะหอมพันธ์แท้และพันธุ์ผสมเอื้องแซะหอม การปรับปรุงพันธุ์เอื้องแซะหอมพันธุ์แท้และพันธุ์ผสมเอื้องแซะหอม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair