สืบค้นงานวิจัย
การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบอินทรีย์และการกักเก็บคาร์บอนในดิน
ชัชชัย ถิ่นโพธิ์ทอง - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบอินทรีย์และการกักเก็บคาร์บอนในดิน
ชื่อเรื่อง (EN): Use of Biochar improvement for Organic vegetable production and Carbon seguestration
บทคัดย่อ: การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบอินทรีย์และการกักเก็บคาร์บอนในดิน ดำเนินการทดลองในพื้นที่แปลงเกษตรกร ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ระหว่างปี พ.ศ. 2557-2559 วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design จำนวน 4 ซ้ำ 6 วิธีการ ประกอบด้วย แปลงควบคุม วิธีเกษตรกร ปุ๋ยอินทรีย์ตามค่าวิเคราะห์ดิน ถ่านชีวภาพอัตรา 1.0 1.5 และ 2.0 ตันต่อไร่ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ตามค่าวิเคราะห์ดิน ผลการทดลองพบว่า การใช้ถ่านชีวภาพอัตรา 2.0 ตันต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ 1.5 ตันต่อไร่ ให้ผลผลิตคะน้าสูงสุดเฉลี่ย 2,120.8 กิโลกรัมต่อไร่ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 1.5 ตันต่อไร่ ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 2 ปี มากสุดจำนวน 15,378.5 บาทต่อไร่ (ผลผลิต 1,863.9 กิโลกรัมต่อไร่) การเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน พบว่ามีการสะสมของฟอสฟอรัสและแคลเซียมในดินเพิ่มสูงขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทดลอง ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยน และปริมาณแมกนีเซียม มีค่าลดลงเล็กน้อยจากก่อนการทดลอง และความเป็นกรดเป็นด่างของดินจาก 8.2 ลดลงเล็กน้อยเหลือเฉลี่ย 8.1 เมื่อสิ้นสุดการทดลอง
บทคัดย่อ (EN): Use of Biochar soil improvement for Organic vegetable production and Carbon sequestration was conducted in farmer field at Tumbon Don Rae , Muang Ratchaburi district, Ratchaburi Province during 2014-2016. The experimental design was Randomized Complete Block Design with 4 replications 6 treatment. There were; control, farmer practice’s fertilization (pig manure fertilizer at the rate of 2 tons per rai), recommended rate of organic fertilizer in the result of soil analysis (pig manure at the rate of 1.5 tons per rai), biochar at the rate of 1.0 1.5 and 2.0 tons per rai combination with recommended rate of organic fertilizer in the result of soil analysis The result showed that used of biochar at the rate 2.0 tons per rai combination with recommended rate of organic fertilizer in the result of soil analysis. Chinese Kale gave the highest average yield was 2,120.8 kilogram per rai. Recommended rate of organic fertilizer in the result of soil analysis (1.5 tons per rai) gave the highest average net profit of 15,375.5 baht per rai (yield was 1,863.9 kilogram per rai) Change of soil properties compared before and after studied showed that available phosphorus and calcium were increased. While organic matter, potassium, magnesium and soil pH were slightly decreased.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ผักอินทรีย์
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ชัชชัย ถิ่นโพธิ์ทอง. "การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบอินทรีย์และการกักเก็บคาร์บอนในดินUse of Biochar improvement for Organic vegetable production and Carbon seguestration". กรมพัฒนาที่ดิน. 2559

ชัชชัย ถิ่นโพธิ์ทอง. "การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบอินทรีย์และการกักเก็บคาร์บอนในดินUse of Biochar improvement for Organic vegetable production and Carbon seguestration". กรมพัฒนาที่ดิน. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบอินทรีย์และการกักเก็บคาร์บอนในดิน
ชัชชัย ถิ่นโพธิ์ทอง
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
การใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงดินเพื่อผลิตผักระบบปลอดสารพิษ และการกักเก็บคาร์บอนในดิน การใช้ไบโอชาร์ปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อผลิตข้าวและกักเก็บคาร์บอนในดิน ศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลผลิตผักและความอุดมสมบูรณ์ของดิน จังหวัดปทุมธานี ชุดโครงการวิจัยเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตผักอินทรีย์โครงการหลวงโครงการย่อยที่ 2 การปรับปรุงพันธุ์ผักเพื่อระบบเกษตรอินทรีย์ โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดผักอินทรีย์โครงการหลวง โครงการย่อยที่ 2 การปรับปรุงพันธุ์ผักเพื่อระบบเกษตรอินทรีย์ ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในเม็ดดินขนาดต่างๆของบางชุดดินที่ใช้ปลูกยางพาราในภาคใต้ของไทย การประเมินมวลชีวภาพและการกักเก็บคาร์บอนในสวนส้ม การกักเก็บคาร์บอนในดินเค็มจากการใช้วัสดุอินทรีย์ปรับปรุงดินในการผลิตข้าว ศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนในดินและการปลดปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้การจัดการไถกลบตอซังข้าวในดินนา การจัดการดินที่เหมาะสมด้วยพืชปุ๋ยสดร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ และแหนแดงเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และผลผลิตของผักคะน้า ข้าวโพดฝักอ่อนภายใต้การปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มชุดดินที่ 7
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair