สืบค้นงานวิจัย
โครงการศึกษารูปแบบโรงเรือนและระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบ
สิรินทร์รัตน์ ผู้ยอดยิ่ง - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: โครงการศึกษารูปแบบโรงเรือนและระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบ
ชื่อเรื่อง (EN): Integrated research for enhance the efficiency of roses production in Thai highland.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สิรินทร์รัตน์ ผู้ยอดยิ่ง
บทคัดย่อ: โครงการศึกษารูปแบบโรงเรือนและระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบ ดำเนินการทดลองจำนวน 3 การทดลอง ได้แก่ การทดลองที่ 1 การศึกษารูปแบบโรงเรือนในการปลูกกุหลาบบนพื้นที่สูง ดำเนินการทดสอบในพื้นที่สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ (บ้านผาหมอน) ระหว่างเดือน กรกฎาคม - สิงหาคม 2559 จำนวน 2 รูปแบบ คือ 1) โรงเรือนแบบเดิมหลังคาคุมพลาสติก ด้านข้างเปิดโล่ง (โรงเรือนรูปแบบเดิม) เปรียบเทียบกับ 2) โรงเรือนหลังคาคุมพลาสติก ด้านข้างติดผ้าสปันบอนด์ (โรงเรือนรูปแบบใหม่) ในกุหลาบพันธุ์ไนท์เดย์ ผลการทดสอบพบว่า โรงเรือนรูปแบบใหม่มีอุณหภูมิสูงกว่าโรงเรือนรูปแบบเดิม ประมาณ 0.7 - 4.1 องศาเซลเซียส โดยโรงเรือนรูปแบบใหม่มีค่าก่อสร้าง 311.98 บาท/ตร.ม. ให้ปริมาณผลผลิตรวม 20.00 ดอก/ต้น/ตร.ม. ขณะที่โรงเรือนรูปแบบเดิมมีค่าก่อสร้าง 257.30 บาท/ตร.ม. ให้ปริมาณผลผลิตรวม 16.08 ดอก/ต้น/ตร.ม. การทดลองที่ 2 การศึกษาวิธีการจัดการศัตรูพืช (เพลี้ยไฟ) ที่เหมาะสมสำหรับกุหลาบบนพื้นที่สูง จำนวน 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ Royal Baccara และ พันธุ์ Avalance ทำการทดลองระหว่างเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2559 ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเปรียบเทียบวิธีการจัดการศัตรูกุหลาบในแปลงของเกษตรกรที่ปฏิบัติตามวิธีการเดิม (ใช้สารเคมี) เปรียบเทียบกับแปลงที่ปฏิบัติด้วยวิธีการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน ( Integrated Pest Management : IPM) ด้วยการใช้กับดับกาวสีเหลือง (1 แผ่นต่อ 100 ตารางเมตร) ร่วมกับการใช้น้ำหมักจากกระเทียม พริก และหอมใหญ่ ฉีดพ่นทุกๆ 2 สัปดาห์ จากผลการทดลองพบว่า หลังการทดสอบ 10 สัปดาห์ พบแมลงศัตรูเข้าทำลายทั้งหมด 3 ชนิด คือ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ และหนอนกระทู้ สำหรับพันธุ์ Royal Baccara ส่วนของเพลี้ยไฟ และเพลี้ยอ่อน พบว่ามีความแตกต่างทางสถิติ โดยพบเพลี้ยไฟในแปลงที่ใช้วิธีการแบบผสมผสานเฉลี่ย 0.45 ตัวต่อต้น สูงกว่าแปลงที่ใช้สารเคมีที่ไม่พบเพลี้ยไฟ (0.00 ตัวต่อต้น) ขณะที่เพลี้ยอ่อน พบในแปลงที่ใช้วิธีการแบบผสมผสานอยู่ในระดับ 61-80 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าแปลงที่ใช้สารเคมีที่อยู่ในระดับ 0-20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการเข้าทำลายของโรคพบ 2 ชนิด คือ โรคราแป้ง (Powderly mildew) และโรคราน้ำค้าง (Downey mildew) โดยเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคในแปลงที่ปฏิบัติตามวิธีการแบบผสมผสานไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติกับแปลงที่ปฏิบัติตามวิธีการเดิม (ใช้สารเคมี) โดยเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคคิดเป็น 0-10 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่พันธุ์ Avalance ในส่วนของหนอนกระทู้ พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่ในส่วนของเพลี้ยไฟ และเพลี้ยอ่อน พบว่ามีความแตกต่างกันทางสถิติ โดยพบเพลี้ยไฟในแปลงที่ใช้วิธีการแบบผสมผสานเฉลี่ย 1.10 ตัวต่อต้น สูงกว่าแปลงที่ใช้สารเคมีที่ไม่พบเพลี้ยไฟ (0.00 ตัวต่อต้น) ขณะที่เพลี้ยอ่อนพบระดับความความรุนแรงของแปลงที่ใช้วิธีการแบบผสมผสาน (IPM) 61-80 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าแปลงที่ใช้สารเคมีที่มีระดับ 0-20 เปอร์เซ็นต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคในแปลงที่ปฏิบัติตามวิธีการแบบผสมผสานไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติกับแปลงที่ปฏิบัติตามวิธีการเดิม โดยเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคคิดเป็น 0-10 เปอร์เซ็นต์ การทดลองที่ 3 การศึกษาระยะตัดดอกที่เหมาะสมของกุหลาบ 2 พันธุ์ ในการทดลองครั้งนี้ได้จัดการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ เพื่อศึกษาระยะตัดดอก 3 ระยะ ซึ่งจากผลการศึกษาระยะตัดดอกที่เหมาะสมของกุหลาบ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ Titanic และ Happy day พบว่า กุหลาบพันธุ์ Titanic ระยะตัดดอกที่เหมาะสมคือ ระยะตัดดอกที่ 2 ซึ่งมีอายุปักแจกันนานที่สุด 3.50 วัน และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของดอกและการบานของดอกไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับระยะตัดดอกที่ 3 สำหรับกุหลาบพันธุ์ Happy day ระยะตัดดอกที่เหมาะสมคือ ระยะตัดดอกที่ 3 ซึ่งมีอายุปักแจกันนานที่สุด 5 วัน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของดอกแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากระยะตัดดอกที่ 1 และ 2 แต่สำหรับการบานของดอกไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับระยะตัดดอกที่ 2
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: การจัดการก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สิรินทร์รัตน์ ผู้ยอดยิ่ง. "โครงการศึกษารูปแบบโรงเรือนและระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบIntegrated research for enhance the efficiency of roses production in Thai highland.". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2559

สิรินทร์รัตน์ ผู้ยอดยิ่ง. "โครงการศึกษารูปแบบโรงเรือนและระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบIntegrated research for enhance the efficiency of roses production in Thai highland.". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2559. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการศึกษารูปแบบโรงเรือนและระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบ
สิรินทร์รัตน์ ผู้ยอดยิ่ง
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2559
โครงการวิจัยการคัดเลือกพันธุ์และพัฒนาระบบการจัดการการปลูกกุหลาบในโรงเรือน การพัฒนาระบบและการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชไร้ดิน ในรูปแบบโรงเรือนต้นทุนต่ำ ชุดโครงการศึกษาเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของดอกกุหลาบ โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณภาพกุหลาบ โครงการศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่ ศึกษาการจัดการดินเปรี้ยวจัดที่เหมาะสมต่อการปลูกยางพารา การพัฒนาระบบการเก็บรักษาของดอกกุหลาบในเชิงการค้า โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการควบคุมสภาพแวดล้อมสำหรับโรงเรือนปลูกเบญจมาศ การพัฒนาระบบการเก็บรักษาของดอกกุหลาบในเชิงการค้า (ระยะที่ 1) โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของกุหลาบบนพื้นที่สูง ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง โครงการย่อย 1 การวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair