สืบค้นงานวิจัย
การเตรียมพอลิเมอร์ย่อยสลายได้จากพอลิเอทิลีน และโปร-ออกซิเดนท์เพื่อผลิตวัสดุคลุมแปลงเกษตร
ธวัฒน์ สร้อยทอง - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การเตรียมพอลิเมอร์ย่อยสลายได้จากพอลิเอทิลีน และโปร-ออกซิเดนท์เพื่อผลิตวัสดุคลุมแปลงเกษตร
ชื่อเรื่อง (EN): The preparation of degradable polyethylene filled with pro-oxidant for mulching films.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธวัฒน์ สร้อยทอง
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยแม่โจ้
บทคัดย่อ: การศึกษานี้ได้ทำการขึ้นรูปฟิล์มวัสดุผสม PE–TiO2–CoSt เตรียมโดยใช้ปริมาณไททาเนียมไดออกไซด์ 0, 0.25 และ 1 เปอร์เซ็นโดยน้ำหนัก และโคบอลต์สเตียเรต 0, 0.25 และ 1 เปอร์เซ็นโดยน้ำหนัก โดยวิธีกระบวนการหลอมผสมด้วยอุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส และขึ้นรูปแผ่นฟิล์มด้วยเทคนิคการกดอัดให้ได้แผ่นฟิล์มหนา 60-70 ไมโครเมตร ด้วยความดัน 1,000 psi เป็นเวลา 5 นาที ศึกษาการย่อยสลายด้วยแสง และความร้อน โดยนำแผ่นฟิล์มที่ได้ไปรับแสงยูวีภายใต้หลอดรังสียูวี ค่าความสว่าง 200 แคนเดลลาต่อตารางเซนติเมตร) ขนาด 400 วัตต์ โดยวางชิ้นทดสอบห่างจากหลอดไฟ 50 เซนติเมตร อุณหภูมิในการทดสอบ 35 องศาเซลเซียสใช้ระยะเวลาในการรับแสง 0-21 วัน และทำการทดสอบการย่อยสลายด้วยความร้อนโดยนำแผ่นฟิล์มไปอบด้วยความร้อน 50 และ 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 0-12 วัน โดยแผ่นฟิล์มที่ผ่านการย่อยสลายด้วยแสง หรือความร้อนถูกนำมาวิเคราะห์การดูดกลืนแสง พบว่าฟิล์มพอเอทิลีนบริสุทธิ์มีช่วงการดูดกลืนแสง 200–250 นาโนเมตร และเมื่อใส่ไททาเนียมไดออกไซด์พบช่วงการดูดกลืนแสงเพิ่มขึ้นเป็น 200–450 นาโนเมตร แสดงให้เห็นว่าช่วงการดูดกลืนแสงเพิ่มขึ้นตามปริมาณไททาเนียมไดออกไซด์ แต่โคบอลต์สเตียเรตไม่ส่งผลต่อความสามารถในการดูกลืนรังสียูวีของแผ่นฟิล์ม และการใส่สารเติมแต่งในแผ่นฟิล์มไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านความร้อน เมื่อทำการทดสอบหาหมู่ฟังก์ชันเคมีด้วยเครื่องวิเคราะห์หาชนิด และปริมาณของสารด้วยเทคนิคอินฟราเรดสเปคโตรสโคปพบว่าเมื่อเพิ่มเวลาการฉายแสงที่มากขึ้น หรืออุณหภูมิที่ใช้ในการอบสูงขึ้นทำให้หมู่คาร์บอนิล ซึ่งปรากฎพีคในบริเวณย่านความถี่ 1700–1750 ต่อเซนติเมตรจะมีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของหมู่คาร์บอนิลนั้น ส่งผลทำให้เกิดปฏิกิริยาการย่อยสลายทางแสง และความร้อนที่มากขึ้น นอกจากนี้อัตราการสูญเสียน้ำหนักของแผ่นฟิล์มพบว่าแผ่นฟิล์มที่ผสมไททาเนียมไดออกไซด์ช่วยให้เกิดการย่อยสลายที่ดีเมื่อมีแสง และความร้อน แต่แผ่นฟิล์มที่ผสมโคบอลต์สเตียเรตเกิดการย่อยสลายที่ดีกว่าเมื่อมีความร้อน โดยอัตราส่วนผสมที่ทำการทดลองแล้วเกิดการย่อยสลายที่ดีได้แก่แผ่นฟิล์มพอลิเอทิลีน และ 1%โดยน้ำหนักไททาเนียมไดออกไซด์ และ 1% โดยน้ำหนักโคบอลต์สเตียเรต โดยมีการสูญเสียน้ำหนักเมื่อผ่านการฉายแสงที่ 5.5 % และอัตราสูญเสียน้ำหนักเมื่อทำการทดสอบการย่อยสลายด้วยความร้อนที่ 50 และ 60 องศาเซลเซียสเท่ากับ 9 และ 19 % ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Photodegradation of polyethylene (PE) – titanium dioxide (TiO2) – cobalt stearate (Co(St)) composite films were prepared. The polyethylene composite, consisting of 0-1 wt.% of TiO2 and with 0-1 wt.% of Co(St) were melt mixed by twin screw extruder at 190 oC. The composite were hot pressed to films, (having 60-70 ?m in thickness), at 190 oC under 1,000 psi for 5 min. The composite films were cut, then a high pressure mercuryvapor lamp of 400 W was used as a UV light source having 200 cd/cm2 illuminace. The distance between specimens and the lamp was 50 cm. The photodegradation tests were carried out at 35 oC for 0-21 days. The thermal degradation of composite films experiments were performed under oven (50 and 60 oC.) for 0-12 days. The films before UV and heat degradation test was investigated by UV-Vis spectrophotometer. The UV-Vis absorption spectra of the PE and PE-(Co(St) films was interrupted above 200-250 nm. The absorption threshold of TiO2 shifted toward the red region of spectrum up to 450 nm. It can be seen that the melting temperature of composite films did not change significantly compared to that of the neat PE. The FTIR spectra of the composite films appeared in the region about 1700-1750 cm–1 was attributed to absorption of a carbonyl (C=O) group. When the carbonyl group increased the degradation rate was increased. In addition, the photo and thermal degradation extent of the films can be evaluated directly by their weight loss. The weight loss rate of the composite film with TiO2 after 21 day irradiation is the high composite film with (Co(St). The weight loss rate of the composite film with (Co(St) after heated in the oven is the high composite film with TiO2. The polyethylene (PE) – 1 wt.% TiO2 –1 wt.% Co(St) composite films shows weight loss rate about 5.5% by photo degradation 9 and 19% by thermal degradation.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: การย่อยสลายทางความร้อน
คำสำคัญ (EN): thermal oxidation
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ธวัฒน์ สร้อยทอง. "การเตรียมพอลิเมอร์ย่อยสลายได้จากพอลิเอทิลีน และโปร-ออกซิเดนท์เพื่อผลิตวัสดุคลุมแปลงเกษตรThe preparation of degradable polyethylene filled with pro-oxidant for mulching films.". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2560

ธวัฒน์ สร้อยทอง. "การเตรียมพอลิเมอร์ย่อยสลายได้จากพอลิเอทิลีน และโปร-ออกซิเดนท์เพื่อผลิตวัสดุคลุมแปลงเกษตรThe preparation of degradable polyethylene filled with pro-oxidant for mulching films.". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2560. Print.



TARR Wordcloud:
การเตรียมพอลิเมอร์ย่อยสลายได้จากพอลิเอทิลีน และโปร-ออกซิเดนท์เพื่อผลิตวัสดุคลุมแปลงเกษตร
ธวัฒน์ สร้อยทอง
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2560
การเตรียมวัสดุเชิงประกอบจากพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การผลิตเอนไซม์ย่อยสลายลิกโนเซลลูโลสโดยแบคทีเรียที่อยู่ร่วมกับไลเคนเพื่อย่อยสลายวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร พอลิเมอร์ที่เหมาะสมสำหรับการเคลือบเมล็ดพันธุ์ผักกาดหอม ผลของการพอกเมล็ดพันธุ์ด้วย Methylhydroxy Ethylcellulose และ Polyvinylpyrrolidone เป็นวัสดุประสานต่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ผัดกาดหอม การเตรียมฟิล์มพอลิไวนิลคลอไรด์ย่อยสลายได้ด้วยเส้นใยนาโนไททาเนียมไดออกไซด์ วัสดุชีวภาพไฮโดรเจลฉลาดที่มีการเชื่อมโยงตาข่ายด้วยพอลิยูริเทนย่อยสลายได้สำหรับการประยุกต์ใช้เป็นวัสดุปิดแผล ผลของการใช้วัสดุคลุมแปลงปลูกที่แตกต่างกันที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของฟ้าทะลายโจร รูปแบบการพัฒนาระบบแปลงเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการทำเกษตรของผู้พิการในจังหวัดเชียงใหม่ สมบัติทางฟิสิกส์ดินและการย่อยสลายของเศษซากใบยางพาราในแปลงยางพาราที่มีอายุแตกต่างกัน การแยกและคัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายน้ำมัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair