สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาคุณภาพน้ำและแนวทางการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของเมือง จังหวัดนนทบุรี
ประวรดา โภชนจันทร์ - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ชื่อเรื่อง: การศึกษาคุณภาพน้ำและแนวทางการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของเมือง จังหวัดนนทบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): Water Characteristic and Sustainable Water Managementof Nonthaburi Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ประวรดา โภชนจันทร์
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยในเรื่องการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ ส่วนขยายของเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวน รวบรวมและเผยแพร่แนวทาง การสร้างมูลค่าเพิ่มและแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้เกิดประ โยชน์สูงสุด โดยแบ่ง ทรัพยากรที่ทำการศึกษาเป็น 4 ทรัพยากร ดังนี้คือ ทรัพยากรชีวภาพ ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากร ชุมชน และทรัพยากรการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ ซึ่งพบว่า ทรัพยากรชื่วภาพของพื้นที่ที่ศึกษา คือ การติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำและความหลาก ชนิดของโปรโตชัวในแม่น้ำเข้าพระยา พบว่า คุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ดั้งแต่บริเวณสะพาน พระรามเจ็ดถึงวัดเชิงเลนทำการเก็บตัวอย่าง 2 ช่วงฤดู คือฤดูแล้ง (เดือนมึนาคม 2551-เมษายน 255 1) และฤดูฝน (ดือนมิถุนายน 2531-กรกฎาคม 255I) ผลการตรวงสอบคุณภาพน้ำจัดเป็นแหล่ง น้ำประเกทที่ 3 ตามมาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดิน ส่วนเกณฑ์คุณภาพน้ำตามระบU Saprobic System ของ Kolkwizและ Marsson ที่ขัดแบ่งคุณภาพน้ำตามคำบีโอดี พบว่า คุณภาพน้ำเป็นแบบ Mesosaprobic zone ซึ่งเป็นเขตน้ำเสื่อมสภาพปานกลาง ความหลากชนิดของโปรโตซัทั้ง 2 ฤดู พบทั้งหมด 6 class S1 species ในฤดูแล้งพบ 4 Class 34 species น้อยกว่าในฤดูฝน 6 Class 47 specics และการศึกษาการเพิ่มประชากรของหิ่งห้อยในแหล่งอาศัชธรรมชาติ พบว่า หิ่งห้อยเพศเมียวางไข่ 60.6+13.8 ฟอง (แ-60) ใช้ระยะฟักออกจากไข่ประมาณ 8-12 วัน โดขมีอัตราการฟัก รร.5เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสามารถพัฒนาเข้าสู่ระยะหนอนได้ โดยมีอัตรารอดในระยะหนอน 18 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ ดักแค้ที่จะพัฒนาไปเป็นตัวเต็มวัยนั้นมีอัตรารอด 1.4 เปอร์เซ็นต์ ทรัพยากรกายภาพในพื้นที่ที่ศึกษา คือ การศึกษาคุณภาพน้ำและแนวทางการจัดการน้ำ อย่างยั่งยืน พบว่า ธูปฤาษีสามารถบำบัดน้ำเสียจากชุมชนได้ดี ความเข้มขันของน้ำเสียที่ทำให้ ธูปฤาษีเจริญเดิบโตได้ดีที่สุด คือ ความเข้มข้นร้อยละ 25 และระยะปลูกที่ดีที่สุด คือ 30x30 และ 35x35 เซนดิเมตร ธูปฤาษีจะมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดีที่สุดในวันที่ 45 ซึ่งสามารถ บำบัดน้ำเสียที่มีปริมาณค่าบี โอดี ร้อยละ 58.53 และปริมาณคาร์บอนทั้งหมด ร้อยละ 58.53 ปริมาณ ในโตรเจนทั้งหมด ร้อยละ 39,70 และปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมด ร้อยละ 61.58 สามารถนำวิธี การบำบัดนี้ไปประยุกต์ใช้กับการบำบัดน้ำเสียในจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี ที่มีหมู่บ้นจัดสรรเป็นจำนวนมากไดขสามารถปลูกในแปลงทดลอง และควรมีการตัดแต่งไม่ให้ มีการออกดอกในวันที่ 90 ส่วนการศึกษาความเหมาะสมของสื่อประชาสัมพันธ์ที่ใช้ในการเผยแพร่ งานวิจัยดังกล่าว โดขจำแนกการศึกษาออกเป็น ร ค้าน ได้แก่ สีสัน ความงาม, ภายาที่ใช้, ข้อมูล ที่ได้รับ, ปริมาณของข้อมูลที่ได้รับ และความเข้าใจง่ายของสื่อ พบว่า มีระดับความคิดเห็นว่า เหมาะสมอยู่ในเกณฑ์ที่สูงทั้งหมด และการติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติก- ไฮโครคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ พบว่า การกระจายตัวตามความเข้มข้นของสาร PAH ทั้ง 16 ชนิด บริเวณอำเภอเมือง ส่วนใหญ่มีค่ความเข้มข้นอยู่ในระดับต่ำสุด (Class 1) เนื่องจาก ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทำการเกษตรกรรม ทำให้มีปริมาณการจราจรหนาแน่นน้อย และค่ความเข้มข้น ระดับสูงสุด (Class s) อยู่บริเวณหน้ากระทรวงพาณิชย์ ถนนสนามบินน้ำ และถนนดิวานนท์ เนื่องจากมีการจราจรหนาแน่น และมีการสะสมของปริมาณการจราจรสูง ประกอบกับการขยาขตัว ของเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานหนาแน่นมาก ทรัพยากรชุมชนในพื้นที่ที่ศึกษา คือ แนวทางการมีส่วนร่วมและการประยุกต์ใช้ แบบงำลองในการ จัดการ สิ่งแวดล้อม พบว่า พฤดิกรรมการมีส่วนร่วมส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวคล้อมอยู่ในระดับที่ใช้ได้ เพราะเป็นชุมชนที่ได้รับการพัฒนาและตั้งถิ่นฐานมานาน จึงก่อให้เกิดการสร้างแบบงำลอง โดชนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยถ่ายทอดผ่านสื่อ ได้แก่ ถุงขยะ ถังขยะ ป้ายประชาสัมพันธ์ และแผ่นพับเพื่อนำไปให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งพบว่า แบบงำลองการจัดการขชะมูลฝอยของประชาชนมีคุณภาพที่ยอมรับได้ ในค่าความตรง ความเชื่อมั่น 0.86 ค่าอำนาจจำแนก 0.34 ค่าความยากงง่าย 0.61 และความเป็น ปรนัย และมีประสิทธิภาพให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอย 77.16/88.78 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และได้ทำการศึกษาความเหมาะสมของสื่อประชาสัมพันธ์ที่ใช้ในการเผยแพร่งานวิจัยดังกล่าวโดยจำแนกการศึกษาออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ สีสัน ความงาม, ภาษาที่ใช้, ข้อมูลที่ด้รับ, ปริมาณของข้อมูลที่ได้รับ และความเข้าใจง่ายของสื่อ พบว่า มีระดับความคิดเห็น อยู่ในเกณฑ์ที่สูงทั้งหมด และเมื่อพิจารณาถึงประเภทของสื่อทั้ง 3 ด้านที่ใช้ ได้แก่ โปสเตอร์, แผ่นพับ และการนำเสนอด้วย Power point พบว่า มีระดับความคิดเห็นว่าเหมาะสมอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ทั้งหมด ทรัพยากรการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ในพื้นที่ที่ทำการศึกษา คือ การศึกษาปริมาณ จำแนกประเภท และแนวทางการจัดการมูลฝอยอันตรายจากบ้านเรือน พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ทั้งเพศชายและเพสหญิงมีความรู้ความข้ใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคัดแยก และการเก็บรวบรวม มูลฝอยอันตรายจากบ้านเรือน แต่กลุ่มตัวอย่างเพศหญิงส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในเรื่องเกี่ยวกับการกำจัดมูลฝอขอันตรายมากกว่าเพศชาย และพบว่า ก่อนและหลังการเข้าร่วม กิจกรรมกลุ่มตัวอย่างมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกล้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไม่แตกต่างกันอย่างมื นัยสำคัญทางสถิติ <0ร จากการสอบถามเกี่ยวกับการจัดการมูลฝอยอันตรายจากบ้านเรือน ในชุมชน พบว่ กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วชว่าสมาชิกในครอบครัว มีความร่วมมือในการคัดแขกมูลฝอย อันตราชมากที่สุด และเห็นด้วยว่าได้รับข้อมูลในการกำจัดมูลฝอยอันตรายตามที่ด้องการน้อยที่สุด การจัดกิจกรรมเผขแพร่ความรู้ กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วขว่าเป็นกิจกรรมที่มีประ ไชชน์มากที่สุด รองลงมาคือสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เจ้าหน้าที่องค์กรบริหารส่วนตำบลบางตะไนย์ แสดงความเห็นว่าปัญหาและอุปสรรคในการจัดการมูลฝอยอันตรายในปัจจุบัน คือเจ้าหน้าที่จัดการ ไม่ถูกวิธีเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจ และงบประมาณไม่เพียงพอ และเสนอแนะแนวทาง การแก้ปัญหาไดขใช้การประชาสัมพันธ์ และปลูกจิตสำนึกให้เจ้าหน้ำาที่ และประชาชน และ การศึกษาระบบสารสนเทศสำหรับโครงการวิจัยพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี พบว่า การออกแบบ และพัฒพาระบบสารสนเทศสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานผ่านเครือข่าย อินเตอร์เน็ต ไดยสถาปิตยกรรมของระบบประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนฐานข้อมูล และส่วนคิดต่อ ผู้ใช้งาน ในส่วนของฐานข้อมูลออกแบบด้วยไปรแกรมสำเร็จรูป MS Access มีฐานข้อมูลที่สามารถ รองรับ ข้อมูลสิ่งแวดล้อมทางนกายภาพได้แก่ คุณภาพอากาศ และคุณภาพน้ำ และทรัพยากร ชีวภาพได้แก่ พรรณไม้ และ ไปรไตชัวในส่วนการติดต่อผู้ใช้พัฒนาขึ้นด้วยภาษ1 ASP (Active Scrvice Pages)ซึ่ระบบถูกออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถ เพิ่ม ค้นหา แก้ไข และลบข้อมูลได้ ผ่านทางเครือข่ายอินเดอร์เน็ด นอกจากนั้นระบบสามารถเชื่อมโขงฐานข้อมูลสิ่งแวคล้อม เข้ากับฐานข้อมูลแผนที่ของ maps go0glc.com โดขแสดงผลในรูปแบบรางานข้อมูลคุณลักษณะ ที่มีการอ้างอิงพิกัดภูมิศาสตร์ได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
คำสำคัญ: เขตรอยต่อเมือง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาคุณภาพน้ำและแนวทางการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของเมือง จังหวัดนนทบุรี
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
30 กันยายน 2551
ผลของน้ำทิ้งจากการเลี้ยงกุ้งต่อคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และการจัดการน้ำทิ้งของชุมชนบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย การจัดการน้ำและความเหมาะสมของคุณภาพน้ำในการอุปโภค บริโภค ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช การประเมินความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพน้ำและแผนการส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชของคลองส่งน้ำในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โครงการนำร่องในการประเมินคุณภาพน้ำทางกายภาพและเคมีในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และทางน้ำชลประทานโดยเทียบเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำ : โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำกับแผนการส่งน้ำเพื่อการเกษตร กรณีศึกษา : โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว การประยุกต์ใช้พืชน้ำร่วมกับระบบไบโอรีแอคเตอร์ในการจัดการคุณภาพน้ำ การใช้จุลินทรีย์เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำในตู้เลี้ยงสัตว์น้ำ อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีในเขตชลประทานต่อคุณภาพน้ำของคลองส่งน้ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก