สืบค้นงานวิจัย
ความหลากหลายของสัตว์ขาปล้องขนาดเล็กในดินในพื้นที่ป่าธรรมชาติและป่าที่ถูกรบกวน
Somawan Sukprasert - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ความหลากหลายของสัตว์ขาปล้องขนาดเล็กในดินในพื้นที่ป่าธรรมชาติและป่าที่ถูกรบกวน
ชื่อเรื่อง (EN): Soil microarthropod diversity in natural and disturbed forests
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Somawan Sukprasert
บทคัดย่อ: ศึกษาสัตว์ขาปล้องขนาดเล็กในดินเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของวงศ์และเปรียบเทียบความ หนาแน่นของสัตว์ในแต่ละวงศ์ในพื้นที่ป่าฝนเขตร้อนบริเวณอ่างเก็บน้ำมอสิงโต ในเขตอุทยานแห่งชาติเขา ใหญ่ ระหว่างพื้นที่ป่าที่ถูกรบกวนได้แก่ ทุ่งหญ้า ป่าปลูก (พื้นที่ปลูก Aquilaria crassna) และ ป่าทุติยภูมิ (พื้นที่ที่ถูกแทนที่ด้วยพืชตามธรรมชาติ) กับ ป่าฝนเขตร้อนที่ไม่ถูกรบกวน (ป่าปฐมภูมิ) โดยเก็บตัวอย่างดิน ในพื้นที่ทั้ง 4 และ เก็บซากใบไม้ใน 3 พื้นที่ (ยกเว้นทุ่งหญ้า) เดือนละครั้งเป็นเวลา 1 ปี (ตั้งแต่ เดือนกันยายน 2545 ถึง เดือนสิงหาคม 2546) จากนั้นนำดินและซากใบไม้มาสกัดแยกสัตว์ด้วย Berlese-Tullgren funnel ซึ่ง มีขนาดตาข่าย 2x2 มม. แล้วนำดินไปวิเคราะห์หาค่าความเป็นกรด-เบส ปริมาณสารอินทรีย์ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมและความชื้น ส่วนซากใบไม้นำไปหาค่ามวลและความชื้น พบว่าสมบัติทางกายภาพทั้งห้าประการของดินในพื้นที่ทั้งสี่แห่งไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) แต่มวลและความชื้นของซากใบไม้จากป่าปฐมภูมิสูงที่สุดอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) จากการเก็บ ตัวอย่างทั้งในดินและในซากใบไม้พบว่า 99.45% เป็นสัตว์ขาปล้อง (ไฟลัมอาร์โทรโปดา) และ 0.55% เป็น สัตว์ในไฟลัมเนมาโตดา และแอนเนลิดา ในเดือนกันยายน 2545 และกุมภาพันธ์ 2546 พบความหนาแน่น ของไรวงศ์ Macronysidae และ Cunaxidae มากกว่าเดือนอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ซึ่งความหนาแน่น สูงของไรทั้งสองวงศ์มีความสัมพันธ์กับความชื้นต่ำในดิน เมื่อนับจำนวนสัตว์ขาปล้อง พบแมลงหางดีดเป็น สัตว์กลุ่มเด่นในทุ่งหญ้า ส่วนไรเป็นสัตว์กลุ่มเด่นทั้งในตัวอย่างดินและซากใบไม้ในป่าปลูก ป่าทุติยภูมิและ ป่าปฐมภูมิ แมลงหางดีดในดิน (ยกเว้นวงศ์ Isotomidae) มีความหนาแน่นมากที่สุดในทุ่งหญ้า (166.387 ม-2) รองลงมาคือป่าปลูก(103.883 ม-2) ป่าทุติยภูมิ(41.521 ม-2) และป่าปฐมภูมิ (36.529 ม-2) ส่วนแมลงหางดีดใน ซากใบไม้มีความหนาแน่นมากที่สุดในป่าปฐมภูมิ (135.688 ม-2) และน้อยที่สุดในป่าปลูก (20.142 ม-2) ไรใน วงศ์ Haplozetidae, แมงป่องเทียม และด้วงก้นกระดกในวงศ์ Pselaphidae ทั้งจากดินและซากใบไม้ในป่าปฐม ภูมิมีความหนาแน่นมากกว่าในพื้นที่ที่ถูกรบกวนอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ดังนั้นสัตว์ขาปล้องทั้งสี่กลุ่มนี้ น่าจะสามารถใช้เป็นดัชนีชีวภาพเบื้องต้นในดินของป่าปฐมภูมิบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าไรและด้วงก้นกระดกมีความหนาแน่นสูงเมื่อซากใบไม้มีมวลและความชื้นสูง แมงป่องเทียมมีความ หนาแน่นสูงเมื่อความชื้นในซากสูง ส่วนความหนาแน่นของแมลงหางดีดสูงเมื่อซากใบไม้มีมวลสูง ซึ่ง สอดคล้องกับผลการศึกษาที่พบว่าสัตว์ขาปล้องสองกลุ่มนี้มีความหนาแน่นสูงในป่าปฐมภูมิ ดังนั้นแมงป่อง เทียมและแมลงหางดีดอาจนำไปใช้เป็นดัชนีชีวภาพเบื้องต้นในซากใบไม้ของป่าปฐมภูมิในป่าบริเวณอุทยาน แห่งชาติเขาใหญ่ได้
บทคัดย่อ (EN): In general, different characteristics of soil ecology lead to the differences in soil fauna, especially soil arthropods. The density of soil arthropod families in disturbed and undisturbed forests near Mo Sing To Reservoir, Khao Yai National Park, Thailand, were compared during the period of September 2002 to August 2003. The disturbed forests are grassland, a Crassna plantation and a secondary forest whereas the undisturbed is a natural forest. Soil samples from the four areas and litter from three areas (grassland excluded) were collected and extracted for mesofauna by Berlese-Tullgren funnel (mesh 2x2 mm2.). Soil properties (pH, organic matter, P, K, and moisture content) in four areas were recorded and found to have no significant differences, whereas litter mass and litter moisture were significantly higher in the natural forest (p<0.05). It was found that 99.45 % of total fauna in soil and litter were phylum Arthropoda and 0.55 % were Nematoda and Annelida. Among arthropods, The density of mites in families Macronysidae and Cunaxidae were significantly higher in September 2002 and February 2003 (when the soil moisture was low) than in other months (p<0.05). There were no significant differences of densities between months in all other animals. The dominant arthropods in grassland were springtails (Order Collembola: Class Hexapoda) but those in Crassna plantation, secondary forest, and natural forest from both soil and litter collections were mites (Order Acarina: Class Arachnida). The highest density of springtails (except family Isotomidae) in soil was in the grassland (166.387 m-2), followed by those in Crassna plantation (103.883 m-2) and secondary forest (41.521 m-2), and the lowest was in natural forest (36.529 m-2). In the contrary, springtails in litter was highest in natural forest (135.688 m-2) and lowest in Crassna plantation (20.142 m-2). The densities of mites in the family Haplozetidae, pseudoscorpions (Order Pseudoscorpiones: Class Arachnida) and rove beetles in the family Pselaphidae (Order Coleoptera: Class Hexapoda) from both soil and litter were significantly higher in natural forest than in the three disturbed areas (p<0.05). These four arthropod groups, therefore, could probably serve as primary indicators distinguishing between undisturbed and disturbed forests at Khao Yai. When the correlation between the litter properties and the arthropod density was considered, it was found that the densities of mites and rove beetles were high in litter with high mass and moisture content. The density of pseudoscorpions was positively correlated only with the moisture content while in springtails, the density was high when the litter mass was high. This is in accordance to the high densities of both groups found in the natural forest. Thus, these two groups could be primarily accounted as indicators in litter in different forest types at Khao Yai.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2439&obj_id=1515
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Grassland animals
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ศึกษาสัตว์ขาปล้องขนาดเล็กในดินเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของวงศ์และเปรียบเทียบความ หนาแน่นของสัตว์ในแต่ละวงศ์ในพื้นที่ป่าฝนเขตร้อนบริเวณอ่างเก็บน้ำมอสิงโต ในเขตอุทยานแห่งชาติเขา ใหญ่ ระหว่างพื้นที่ป่าที่ถูกรบกวนได้แก่ ทุ่งหญ้า ป่าปลูก (พื้นที่ปลูก Aquilaria crassna) และ ป่าทุติยภูมิ (พื้นที่ที่ถูกแทนที่ด้วยพืชตามธรรมชาติ) กับ ป่าฝนเขตร้อนที่ไม่ถูกรบกวน (ป่าปฐมภูมิ) โดยเก็บตัวอย่างดิน ในพื้นที่ทั้ง 4 และ เก็บซากใบไม้ใน 3 พื้นที่ (ยกเว้นทุ่งหญ้า) เดือนละครั้งเป็นเวลา 1 ปี (ตั้งแต่ เดือนกันยายน 2545 ถึง เดือนสิงหาคม 2546) จากนั้นนำดินและซากใบไม้มาสกัดแยกสัตว์ด้วย Berlese-Tullgren funnel ซึ่ง มีขนาดตาข่าย 2x2 มม. แล้วนำดินไปวิเคราะห์หาค่าความเป็นกรด-เบส ปริมาณสารอินทรีย์ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมและความชื้น ส่วนซากใบไม้นำไปหาค่ามวลและความชื้น พบว่าสมบัติทางกายภาพทั้งห้าประการของดินในพื้นที่ทั้งสี่แห่งไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความหลากหลายของสัตว์ขาปล้องขนาดเล็กในดินในพื้นที่ป่าธรรมชาติและป่าที่ถูกรบกวน
Somawan Sukprasert
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ผลกระทบของเพอร์มีทรินต่อสัตว์ขาปล้องขนาดเล็กในดินเกษตร การสะสมและพลวัตคาร์บอนในดินของระบบนิเวศป่าธรรมชาติและแปลงฟื้นฟูป่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การประเมินมูลค่าผลผลิตประมงและผลผลิตจากป่าที่ไม่ใช่เนื้อไม้จากป่าบุ่งป่าทาม พื้นที่ลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง จ.นครพนม การจัดการสัตว์ป่าด้วยข้อมุลความชุกชุมของสัตว์กีบเพื่อประยุกต์ใช้สำหรับการรักษาศักยภาพการกระจายตัวของสัตว์ป่าในแนวป่ การดำเนินงานของทหารในโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ความหลากหลายของแมลงบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ สถานภาพ, ความหลากหลายและความชุกชุมสัมพัทธ์ของสัตว์กินเนื้อขนาดเล็กและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ การมีส่วนร่วมในการจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่านอกเขตพื้นที่จัดสรร บ้านป่าคา หมู่ที่ 3 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ความหลากหลายทางพันธุกรรมของราที่สามารถย่อยสลายเซลลูโลสในพื้นที่โครงการสร้างป่าตามแนวพระราชดำริ และป่าพันธุกรรมพืช อ.ครบุรี จังหวัดนครราชสีมา การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแควระบบ-สียัด : ศึกษาเฉพาะกรณีโครงการปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแควระบบสียัด (1),(2)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก