สืบค้นงานวิจัย
ผลของเมทิลจัสโมเนส และกรดซาลิคไซลิกต่ออาการสะท้านหนาวในผลพุทรา
พนิดา บุญฤทธิ์ธงไชย - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: ผลของเมทิลจัสโมเนส และกรดซาลิคไซลิกต่ออาการสะท้านหนาวในผลพุทรา
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of methyl jasmonate and salicylic acid on chilling injury of jujube
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พนิดา บุญฤทธิ์ธงไชย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Panida Boonyaritthongchai
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: พุทราพันธุ์บอมแอปเปิ้ลที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 และ 10 องศาเซลเซียส มีอายุการเก็บรักษา 21 วัน ในขณะที่พุทราที่เก็บรักษาในสภาวะ 25 องศาเซลเซียสมีอายุการเก็บรักษา 9 วัน ทั้งนี้ผลพุทราเริ่มแสดงอาการสะท้านหนาวเล็กน้อยในวันที่ 9 ของการเก็บรักษา หลังจากนั้นอาการสะท้านหนาวเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเก็บรักษานานขึ้น อาการสะท้านหนาวของพุทราที่เก็บรักษาที่ 4 องศาเซลเซียส ได้แก่ ผลเหี่ยว เกิดรอยย่น ในขณะที่อาการสะท้านหนาวของผลที่เก็บที่ 10 องศาเซลเซียส เป็นจุดสีดำกระจายบนบริเวณผิวผล และเหี่ยว พุทราที่เก็บรักษาที่ 4 องศาเซลเซียส มีกิจกรรมเอนไซม์ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide dismutase, SOD) สูงกว่าชุดทดลองอื่น และมีกิจกรรมของเอนไซม์ไลพอกซีจีเนส (Lipoxygenase, LOX) สูงในช่วงสุดท้ายของการเก็บรักษา จากการศึกษาผลของการรมเมทิลจัสโมเนท (Methyl jasmonate, MeJA) 0.1 และ 1 ไมโครโมลาร์เป็นเวลา 8 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นนำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียสต่ออาการสะท้านหนาวของผลพุทรา พบว่า พุทราที่ผ่านการรม MeJAมีการเปลี่ยนแปลงสีเปลือกมากกว่าพุทราชุดควบคุมโดยมีค่า Hue ลดลงตลอดในระหว่างการเก็บรักษา และชะลอการเกิดอาการสะท้านหนาวเมื่อเปรียบเทียบกับพุทราชุดทดลองอื่น โดยผลพุทราที่ผ่านการรมMeJAทั้งสองความเข้มข้นเริ่มแสดงอาการสะท้านหนาวในวันที่ 12 ของการเก็บรักษา ในขณะที่พุทราชุดควบคุมเริ่มแสดงอาการสะท้านหนาวในวันที่ 9ของการเก็บรักษาผลพุทราชุดที่ไม่ได้รม MeJA (ชุดควบคุม)มีกิจกรรมเอนไซม์ LOX สูงกว่าผลที่รม MeJAในระหว่างการเก็บรักษา9 วัน หลังจากนั้นผลพุทราชุดที่ผ่านการรม MeJAมีกิจกรรมเอนไซม์ LOX สูงกว่าชุดควบคุม และพบว่ากิจกรรมของเอนไซม์ SOD ของพุทราที่รม MeJAมีกิจกรรมสูงกว่าผลที่ไม่ได้รมสารตลอดระยะเวลาในการเก็บรักษา พุทราชุดควบคุมและชุดที่รม MeJA0.1 ไมโครโมลาร์ มีกิจกรรมเอนไซม์ POD ไม่แตกต่างกันในระหว่างการเก็บรักษา การศึกษาผลของการจุ่มกรดซาลิคไซลิค (Salicylic acid, SA) 2.0 มิลลิโมลาร์ต่ออาการสะท้านหนาวและเก็บรักษาที่ 10 และ 20 องศาเซลเซียส ทำการจุ่มพุทราในสารละลายกรดซาลิไซลิคที่ความเข้มข้น 0 (ชุดควบคุม) และ 2.0 mMนาน 3 นาที หลังจากนั้นนำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 10 และ 20 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 21 วัน เพื่อศึกษาผลของกรดซาลิไซลิคและการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำต่อการลดอาการสะท้านหนาวและคุณภาพของพุทรา ซึ่งอาการสะท้านหนาวได้แก่ เป็นรอยบุ๋มสีน้ำตาลในระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ อาการสะท้านหนาวนี้สามารถลดได้โดยการใช้สารละลายกรดซาลิไซลิคร่วมกับการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ จากผลการทดลองพบว่าพุทราที่ผ่านการจุ่มในสารละลายกรดซาลิไซลิค 2.0 mMและชุดควบคุมที่เก็บรักษาที่ 25 องศาเซลเซียส มีค่า L สูงกว่าที่เก็บรักษาที่ 10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ค่า a ของพุทราที่ผ่านการจุ่มในสารละลายกรดซาลิไซลิก 2.0 mMและชุดควบคุมที่เก็บรักษาที่ 10 องศาเซลเซียส มีค่า a ต่ำกว่าที่เก็บรักษาที่ 25 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ค่า Hue ของพุทราที่ผ่านการจุ่มในสารละลายกรดซาลิไซลิค 2.0 mMจะมีค่าต่ำลงกว่าชุดควบคุม ทั้งนี้พบว่าค่ากิจกรรมของเอนไซม์ peroxidase ไม่มีความแตกต่างกันในช่วง 12 วันของการเก็บรักษา แต่หลังจากนั้นพุทราที่จุ่มด้วยสารละลายกรดซาลิไซลิคมีกิจกรรมของเอนไซม์ peroxidase สูงกว่าชุดควบคุมจนสิ้นสุดอายุการเก็บรักษากิจกรรมเอนไซม์ LOX ของผลพุทราที่เก็บรักษา 20 องศาเซลเซียส สูงกว่าผลที่เก็บที่ 10 องศาเซลเซียส โดยพุทราชุดที่จุ่มและไม่จุ่ม SA ที่เก็บที่ 10 องศาเซลเซียส มีกิจกรรมเอนไซม์ LOX ไม่แตกต่างกัน และพุทราชุดที่จุ่ม SA มีกิจกรรมเอนไซม์ SOD สูงกว่าพุทราชุดควบคุม แต่มีกิจกรรมของเอนไซม์ POD ไม่แตกต่างกันในระหว่างการเก็บรักษา
บทคัดย่อ (EN): ‘Bomb apple’ jujubes stored at 4 and 10 ?C had a storage life of 21 days while jujubes kept at 25?C had only 9 days storage life. Jujubes stored at 4 and 10 ?C showed little chilling injury (CI) symptoms at 9 days and became more severe as storage continued. Chilling injury symptoms of stored fruit at 4?C included wilting and wrinkling of fruit as well as fruit pitting and browning. Jujubes stored at 4?C had higher superoxide dismutase (SOD) enzyme activity than the other treatments and had higher lipoxygenase (LOX) activity in the last storage period. The effect of 0.1 and 1.0 ?M methyl jasmonate (MeJA) treatment on chilling injury symptoms under storage at 10 ?C was studied. Jujube were fumigated with MeJA for 8 hr at 20?C, and then stored at 10?C. The physical and biochemical changes were observed every 3 days. The results showed that the color of MeJA-treated fruit changed more than in untreated fruit with decreasing hue valuesduring storage time. That MeJA treatments delayed CI occurrence in jujubes by showing CI symptom at 12 days of storage. MeJA-untreated fruit showed CI symptom at 9 days of storage. Moreover, MeJA-untreated fruit had higher LOX enzyme activity than MeJA-treated fruit at 9 days of storage; after that, its activity declined till the end of storage. MeJA-treated jujubes had higher SOD activity than untreated fruit during storage. Untreated fruit had no significant difference of POD activity during storage.Jujube fruit were pre-treated with 0 (control) and 2.0 mM salicylic acid (SA) dipping for 3 min and then stored at 10 and 25?C for 21 days to investigate the effect of SA treatment and cold temperatures on the chilling injuries and changes in the quality of jujubes. Jujube fruit developed chilling injuries manifested as increased fruit pitting and browning during storage. These chilling injury symptoms were significantly reduced by SA treatment and cold temperatures. The L values of jujube fruit treated with 2.0 mM SA and untreated jujubes stored at 25?C were higher than the samples stored at 10?C. The a values of jujube fruits treated with 2.0 mM SA and untreated jujubes stored at 10?C were lower than the samples stored at 25?C. SA-treated fruit revealed the decline of the hue value more than in untreated fruit. Meanwhile, both SA-treated and untreated fruit showed non-significant peroxidase (POD) activity at 12 days of storage; after that, SA-treated fruit had higher POD activity than in the control until the end of the storage period. Jujubes kept at 20 ?C had higher LOX activity than in fruit kept at 10 ?C. No significant differences were found in SA-treated fruit and untreated fruit kept at 10 ?C. SA-treated fruit had higher SOD activity and no difference in POD than in the control during storage.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: อาการสะท้านหนาว
คำสำคัญ (EN): Chilling Injury
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของเมทิลจัสโมเนส และกรดซาลิคไซลิกต่ออาการสะท้านหนาวในผลพุทรา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
30 กันยายน 2554
ผลของอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และสาร Salicylic acid ต่อการเกิดอาการสะท้านหนาวของพุทรา บทบาทของเอทิลีนต่ออาการสะท้านหนาวของกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอมทอง การลดอาการสะท้านหนาวของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง ก่อนการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ ผลของอุณหภูมิต่ำต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและชีวเคมี และการชะลออาการสะท้านหนาวของผลชมพู่ ความสัมพันธ์ระหว่างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อกล้วยไม้กับการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดเป็นด่างของอาหาร การลดอาการสะท้านหนาวในผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกด้วย salicylic acid และการตอบสนองทางการต้านอนุมูลอิสระ การยืดอายุการเก็บรักษาผลลำไยสดด้วยกรดไฮโดรคลอริกทดแทน การใช้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ การประเมินสัดส่วนระหว่างชีวมวล กรด 5-อะมิโนลีวูลินิก และแอสตา แซนทีนเป็นอาหารเสริมในไก่ไข่เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพไข่อย่างสูงสุดโดยใช้เทคนิคพื้นที่ผิวตอบสนอง ศึกษาผลของกรดและเกลือต่อการดูดซึมสีมะเกลือของผ้าไหม การลดการเกิดอาการสะท้านหนาวในกล้วยหอมทอง กล้วยไข่ และ กล้วยน้ำว้า ที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก