สืบค้นงานวิจัย
ผลของสูตรอาหารต่อการเพิ่มปริมาณกล้วยไม้ด่างสกุลหวายที่ กลายพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงในหลอดทดลองเป็นเวลานานเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
คมกฤษณ์ แสงเงิน - มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ชื่อเรื่อง: ผลของสูตรอาหารต่อการเพิ่มปริมาณกล้วยไม้ด่างสกุลหวายที่ กลายพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงในหลอดทดลองเป็นเวลานานเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
ชื่อเรื่อง (EN): The Effect of Culture Media on Proliferation of Chimeric Orchids (Dendrobium) from long term In Vitro Cultured for Commercial Scale
บทคัดย่อ: การเพิ่มปริมาณโปรโตคอร์มกล้วยไม้สกุลหวายด่างจำนวนมากด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อชั้นบางๆ (Thin cell layers: TCLs) ทำโดยนำต้นกล้ากล้วยไม้ด่างทั้งต้นในหลอดทดลองอายุ 4 เดือน มาหั่นตามขวางขนาด 1 มิลลิเมตร แล้วนำไปเพาะเลี้ยงโดยวางเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 ชิ้น บนอาหารสูตร Vacin และ Went (VW) เติม Benzyladenine (BA) หรือ Thidiazuron (TDZ) ความเข้มข้น 0.1 0.5 หรือ 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับการเติมน้ำมะพร้าว มันฝรั่ง หรือกล้วยบดความเข้มข้นต่างๆ (10 15 และ 20 เปอร์เซ็นต์) น้ำตาลซูโครส 2 เปอร์เซ็นต์ และวุ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์ ปรับ pH เป็น 5.6 เพาะเลี้ยงในที่มืด อุณหภูมิ 26?4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 เดือน พบว่า การเติม BA มีผลต่อการเพิ่มปริมาณโปรโตคอร์มไลค์บอดี้ (PLBs) มากกว่า TDZ และการเติมมันฝรั่งช่วยส่งเสริมการเพิ่มปริมาณ PLBs มากที่สุด โดยชิ้นส่วนที่วางเลี้ยงบนอาหารสูตรที่เติม BA ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 15 เปอร์เซ็นต์ ให้อัตราการรอดชีวิตสูงที่สุด 100 เปอร์เซ็นต์ ให้จำนวน PLBs สูงที่สุด 6.41 โปรโตคอร์มต่อชิ้นส่วน และให้อัตราการเกิดไคเมอร่า 91.66 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนำ PLBs ระยะที่มี 2 ใบ มาวางเลี้ยงบนอาหารใหม่สูตรเดิม พบว่า TDZ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางด้านความสูงและการเกิดรากมากกว่า BA และมันผรั่งมีผลช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางด้านต่างๆ มากที่สุด โดย PLBs ที่วางเลี้ยงบนอาหารสูตรที่เติม TDZ ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 15 เปอร์เซ็นต์ ให้ความสูงมากที่สุด 1.01 และ 1.06 เซนติเมตร หลังจากวางเลี้ยงเป็นเวลา 4 และ 6 เดือน ตามลำดับ อาหารสูตรที่เติม TDZ ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 10 เปอร์เซ็นต์ ให้อัตราการเกิดรากมากที่สุด 2.6 และ 3.9 รากต่อต้น หลังจากวางเลี้ยงเป็นเวลา 4 และ 6 เดือน ตามลำดับ สำหรับจำนวนใบ พบว่า อาหารสูตรที่เติม BA ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 15 เปอร์เซ็นต์ ให้อัตราการเกิดใบมากที่สุด 4.50 ใบต่อต้น หลังจากวางเลี้ยงเป็นเวลา 4 เดือน และอาหารสูตรที่เติม BA ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 20 เปอร์เซ็นต์ ให้อัตราการเกิดใบมากที่สุด 6.10 ใบต่อต้น หลังจากวางเลี้ยงเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อนำต้นกล้ากล้วยไม้ความสูง 0.3 เซนติเมตร หรือมีใบมากกว่า 3 ใบ มาวางเลี้ยงบนอาหารสูตรที่เติม NAA 2,4-D หรือ IAA และมันฝรั่ง น้ำมะพร้าว หรือกล้วย พบว่า อาหารสูตรที่เติม IAA ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับน้ำมะพร้าว 10 เปอร์เซ็นต์ ให้ความสูงมากที่สุดเท่ากับ 0.71 เซนติเมตร อาหารสูตรที่เติม 2,4-D ความเข้มข้น 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 20 เปอร์เซ็นต์ ให้จำนวนใบมากที่สุดเท่ากับ 6.1 ใบต่อต้น และอาหารสูตรที่เติม NAA ความเข้มข้น 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับมันฝรั่ง 15 เปอร์เซ็นต์ ให้จำนวนรากมากที่สุด 4.7 รากต่อต้น หลังจากวางเลี้ยงเป็นเวลา 4 เดือน เมื่อวางเลี้ยงต่อไปเป็นเวลา 6 เดือน พบว่า อาหารสูตรที่เติม NAA ความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับน้ำมะพร้าว 20 เปอร์เซ็นต์ ให้ความสูงมากที่สุด 1.07 เซนติเมตร และอาหารสูตรที่เติม 2,4-D ความเข้มข้น 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับน้ำมะพร้าว 10 เปอร์เซ็นต์ ให้จำนวนใบและรากมากที่สุด 5.9 ใบต่อต้น และ 6.6 รากต่อต้น ตามลำดับ สำหรับการนำต้นกล้ากล้วยไม้หวายด่างความสูง 1 เซนติเมตร หรือมีใบมากกว่า 5 ใบ และมีรากสมบูรณ์มากกว่า 3 ราก ออกมาอนุบาลในวัสดุปลูกพีทมอธ ขุยมะพร้าว มะพร้าวสับ เพอร์ไลท์หรือเวอร์มิคิวไลท์เป็นเวลา 2 เดือน พบว่า ต้นกล้ากล้วยไม้ด่างที่อนุบาลบนวัสดุปลูกเพอร์ไลท์ให้อัตราการรอดชีวิตสูงที่สุดเท่ากับ 90.83 75.45 54.58 และ 37.92 เปอร์เซ็นต์ หลังจากอนุบาลเป็นระยะเวลา 2 4 6 และ 8 สัปดาห์ ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): PLBs proliferation of chimeric Dendrobium using thin cell layers (TCLs) technic was performed by transversely sliced into thin pieces (approx. 1 mm in thickness), and transferred the 5-7 pieces to culture on Vacin and Went (VW) medium supplemented with 0.1 0.5 or 1.0 mg/L Benzyladenine (BA) or Thidiazuron (TDZ) in combination with various concentrations of coconut water, potato or banana (10, 15 and 20%). All culture medium components contained 2% sucrose, 0.8% agar and adjusted to pH 5.6. The cultures were maintained in the dark at 26?4 ?C for 2 months. The results revealed that BA was more effective than TDZ and medium contained potato gave the highest PLBs proliferation rate. The explants cultured on 0.1 mg/L BA containing VW medium supplemented with 15% potato gave the highest survival rate at 100%, the highest average number of PLBs formation at 6.41 PLBs/explant and average frequency of chimeric shoot formation at 91.66%. Subculturing 2 leaf stage PLBs to fresh medium with same components found that TDZ was more effective than BA and medium contained potato gave the highest vegetative growth. PLBs cultured on 0.1 mg/L TDZ containing VW medium supplemented with 15% potato gave the highest shoot height at 1.01 and 1.06 cm after 2 and 6 months of culture, respectively. Medium supplemented with 0.1 mg/L TDZ and 10% potato gave the highest root number at 2.6 and 3.9 roots/shoot after culture for 4 and 6 months, respectively. For leaf number found that medium supplemented with 0.1 mg/L BA and 15% potato gave the highest leaf number at 4.50 leafs/plant after culture for 4 months and medium supplemented with 0.1 mg/L BA and 20% potato gave the highest leaf number at 6.10 leafs/plant after culture for 6 month. Transfering 0.3 cm plantlet or higher than 3 leaves to medium supplemented NAA, 2,4-D or IAA in combination with coconut water, potato or banana found that medium supplemented with 0.1 mg/L IAA and 10% coconut water gave the highest shoot height at 0.71 cm. Medium supplemented with 1.0 mg/L 2,4-D and 20% potato water gave the highest leaf number at 6.10 leafs/plant and medium supplemented with 1.0 mg/L NAA and 15% potato gave the highest root number at 4.70 roots/plant after 4 months of culture. After culture for 6 months, medium supplemented with 0.1 mg/L NAA and 20% coconut water gave the highest shoot height at 1.07 cm. Medium supplemented with 0.5 mg/L 2,4-D and 10% coconut water gave the highest leaf and root number at 5.90 leafs/plant and 6.60 roots/shoot, respectively. Hardening of 1 cm height or higher than 3 leaf and 3 roots plantlet to peat moss, perlite, vermiculite, coir chips or coir pith for 2 months found that plantlet hardened on perlite gave the highest survival rate at 90.83, 75.45, 54.58 and 37.92% after hardening for 2, 4, 6 and 8 weeks, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
คำสำคัญ: สูตรอาหาร
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของสูตรอาหารต่อการเพิ่มปริมาณกล้วยไม้ด่างสกุลหวายที่ กลายพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงในหลอดทดลองเป็นเวลานานเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
30 กันยายน 2558
การพัฒนาการเพาะเลี้ยงหอยมุกน้ำจืดและการผลิตไข่มุกน้ำจืดเพื่อการพาณิชย์ การประยุกต์ใช้พืชท้องถิ่นพัฒนาสูตรอาหารเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงปลาหมอเชิงพาณิชย์ การประยุกต์ใช้พืชท้องถิ่นพัฒนาสูตรอาหารเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงปลาหมอเชิงพาณิชย์ การพัฒนาการเพาะเลี้ยงหอยมุกน้ำจืดและการผลิตไข่มุกน้ำจืดเพื่อการพาณิชย์ การขยายพันธุ์กล้วยไม้ด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ศึกษาสูตรอาหารและส่วนของพืชในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อยางพารา วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลานวลจันทร์น้ำจืด การใช้ประโยชน์จากกระถินและกระเฉดบกบดเป็นแหล่งโปรตีนในสูตรอาหารข้นต่อการย่อยสลายและผลผลิตแก๊สในหลอดทดลอง การเพาะเลี้ยงปูม้าในบ่อดินแบบครบวงจร การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก