สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาชีววิทยาประมง สังคมเศรษฐกิจ และระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องต่อการฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าตามแนวทางการพัฒนาทางการประมง (Fishery improvement program: FIP) ในบริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฏร์ธานี ปีที่1
ผศ.ดร. อมรศักดิ์ สวัสดี - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การศึกษาชีววิทยาประมง สังคมเศรษฐกิจ และระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องต่อการฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าตามแนวทางการพัฒนาทางการประมง (Fishery improvement program: FIP) ในบริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฏร์ธานี ปีที่1
ชื่อเรื่อง (EN): The study of fishery biology, socio-economic and ecosystem related to the restoration of Blue Swimming Crab following Fishery improvement program (FIP) in Bandon Bay, Surat Thani province.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผศ.ดร. อมรศักดิ์ สวัสดี
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ข้อมูลชีววิทยาประมง การใช้ประโยชน์พื้นที่และสภาพแวดล้อม รวมทั้งสังคมเศรษฐกิจห่วงโซ่มูลค่า นับเป็นข้อมูลวิชาการที่สำคัญสนับสนุนการพัฒนาทางการประมงตามมาตรฐานสากล งานวิจัยชิ้นนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลวิชาการสำหรับการวางแผนฟื้นฟูทรัพยากรปูม้า รวมทั้งเป็นข้อมูลสนับสนุนการ ประเมินเพื่อยกระดับการพัฒนาทางการประมงปูม้าของไทย (Fishery improvement program) โดยผู้ ประเมินต่างจากองค์กรระหว่างประเทศ (Marine resources assessment group: MRAG) โดยยีมีระยะเวลา ดำเนินงาน 2 ปี และรายงานฉบับนี้เป็นการรายงานผลในรอบ 1 ปีแรกของการทำการวิจัยซึ่งข้อมูลได้นำได้นำไปใช้ ประโยชน์เพื่อการประเมินส่งผลให้ประเทศไทยได้คะแนนการพัฒนาแบบข้ามกระโดด จากระดับ C ในปี พ.ศ.ศ. 2560 (ก่อนการดำเนินโครงการ) เป็นระดับ A ในปี พ.ศ. 2561 (หลังการดำเนินโครงการ) และคงที่ในระดับ A (advanced propress) ใน ปี พ.ศ. 2562 ทำให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถส่งออกปูม้าไปยังคู่ ค้าหลักตลาดต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ใต้หวัน ฮ่องกง ออสเตรเลีย และและแคนาดา ในส่วนของข้อสรุปทางวิชาการ พบว่าปูม้าในบริเวณอ่าวบ้านดอนสามารถสืบพันธ์ได้ทั้งปี แต่จะมีช่วงสืบพันธุ์ หลัก 2 ช่วงคือ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม และช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ซึ่งสอดคล้อง กับลักษณะทางสมุทรศาสตร์ของอ่าวบ้านดอนซึ่งคุณภาพในช่วงดังกล่าวเหมาะสมกับการวางไข่ของปูม้า ขณะที่ความเค็มซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออัตราการรอดของปม้าวัยอ่อนมีความผันแปรระหว่างเดือนหรือ ฤดูกาล แต่ในช่วงสืบพันธุ์ดังกล่าวข้างต้นพื้นที่บริเวณอ่าวความเค็มค่อนข้างสูงกว่า 27 นอกจากนี้ผลการศึกษา แบบจำลองกระแสน้ำชี้ให้เห็นว่ากระแสน้ำในบริเวณอ่าวบ้านดอนมีความแตกต่างตามฤดูกาลและ พื้นที่เกาะ หัวเสร็จเป็นพื้นที่เหมาะสมต่อการเป็นแหล่งอนุบาลตัวอ่อน ขณะที่การใช้ประโยชน์ที่ดินไม่ได้ส่งผลต่อการ ดำรงชีวิตของปูม้า การใช้ประโยชน์ปูม้าในพื้นที่เมื่อพิจารณาจากค่าสัมประสิทธิ์การใช้ประโยชน์และค่า MSY แสดงให้เห็นว่ามีการใช้ประโยชน์เกินศักย์การผลิตโดยธรรมชาติเล็กน้อย ขณะที่สัดส่วนของพ่อแม่พันธ์ (SPR) ยังอยู่ในระดับที่เกินมาตรฐานตามจุดอ้างอิงที่ยอมรับได้จากสากลประเทศ เนื่องด้วยอ่าวบ้านดอนเป็นพื้นพื้นที่ ประมงปูม้าหลักของประเทศ มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการอยู่อาศัยของปูม้าและมีสารอาหารไหลลงสู่อ่าว ตลอดเวลา ลักษณะอ่าวเป็นสันดอน ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่เหมาะสมกับปูม้า ผลจับในอ่าวบ้านดอนจึงยังยังทำให้ ชาวประมงในพื้นที่อ่าวบ้านดอนมีสภาพทางสังคมเศรษฐกิจที่ดีกว่าการทำเกษตรในพื้นที่อื่นของประเทศมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าภาคเกษตรอื่นๆ และมีภาวะหนี้น้อย โดยรายได้เฉลี่ยของชาวประมงที่อ่าวบ้านดอน เท่ากับ 21,950 บาท ช่องทางการขายปูม้าส่วนใหญ่จะขายตรงให้กับแพปูม้าในพื้นที่คิดเป็นกว่าร้อยละ 80 ของผลจับ ทั้งหมด โดยหลังจากนั้นแพจะส่งต่อไปยังบริษัทคิดเป็นร้อยละ 48 และมีช่องทางการขายบางส่วนที่เกิดขึ้น ใหม่ๆจากการปรับตัวเพื่อเพิ่มรายได้เช่น ขายปลีกในตลาดสด ตลาดออนไลน์ เป็นต้น การดำเนินโครงการยังคง มีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเพิ่มเติมในปีที่ 2 ก่อนที่จะสามารถนำข้อมูลมาเพื่อการ บริหารจัดการ เนื่องจากต้องการข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน อย่างไรก็ตามในระยะแรกของโครงการได้นำข้อมูล เพื่อประเมินการพัฒนาทางการประมงไทยตามวัตถุประสงค์หลักของโครงการ รวมทั้งข้อมูลทางวิชาการ สามารถนำไปประกอบการประกาศพื้นที่แหล่งหลบภัยสัตว์น้ำโดยกรมประมง ในส่วนของแผนการบริหาร จัดการเพื่อการทำประมปูม้าอย่างยั่งยืนจึงมีความสำคัญที่จะต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมในปีที่ 2 เพื่อให้งานวิจัย ครอบคลุมทั้งช่วงเวลาและเนื้อหาสาระ ก่อนที่จะนำข้อมูลมาบูรณาการเสนอแผนการบริหารจัดการปูม้าของ ประเทศไทยต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The data on fishery biology, land use, environment status and socio-economic situation are necessary for fishery management planning following international requirement. This research aimed therefore to gather scientific data providing basic knowledge for restoration of BSC stock in Thailand. Moreover, this project also aimed to improve the score of Thai fishing standard (Fishery improvement program: FIP) that links to the international rule. This research needs 2 years investigation but In the process of evaluation, outputs from this project were used as academic support for FIP scoring by external (MRAG: UK) agencies. This improvement also provides the opportunities for DoF and stakeholders to expand the domestic BSC market with reasonable price. Moreover, the growth rates of BSC export for main countries such as USA, Taiwan, Hong Kong, Australia and Canada were obviously increased 154 %. Although research is now ongoing and collecting data is on process, some data possibly indicate fishery biology of BSC. The results suggest that BSC can spawn whole year, but there was two main peaks i.e. between March and May, and July and September. This biological aspect relates to oceanography data which confirm in that season water quality, such as salinity, is proper for crab reproduction. Water movement showed difference between season and indicate very clear how eggs and larvae move because of water current and density. The massive numbers of small crabs were observed in near shore areas especially closed to Koa Set, which is a huge sand done in Bandon Bay. Seaweeds were also found in this area. It can possibly suggest that this area is the most suitable habitat to be nursery ground of Bandon bay. There is no effect of land use for crab well-being and the utilization coefficient including MSY indicate that the fishing activity is a little higher than proper state. However, the proposition of parental stock is still acceptable point as the SPR ratio is higher than 0.3. The catch data showed that the fishermen in Bandon bay have higher benefit from fishing than the average of agriculture sector. The value chain analysis indicate that should improve the market channels for the fishermen because 80 percent of fishermen in community sale crab at 1 crab buying station. That means buyer totally controls the price. However, this project really need to be continued. The marine survey needs to be finished to achieve essential data providing for sustainable management of BSC in Bandon Bay and for supporting scientific evidence for assessing Thai fishing improvement links to international standard.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: ปูม้า
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาชีววิทยาประมง สังคมเศรษฐกิจ และระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องต่อการฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าตามแนวทางการพัฒนาทางการประมง (Fishery improvement program: FIP) ในบริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฏร์ธานี ปีที่1
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2561
การวิจัยและพัฒนาเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและยกระดับการประมงปูม้าสู่มาตรฐานสากล (Fishery improvement program: FIP) ในบริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปีที่ 2 โครงการสร้างแนวทาง/มาตรการการลดการกีดกันทางการค้าในการส่งออกจระเข้ การพัฒนาแผ่นแปะแก้ปวดจากสารสกัดไพลและสารเมือกจากเมล็ดแมงลัก การพัฒนาวัคซีนต่อต้านการติดเชื้อ nervous necrosis virus ในปลากะรัง ด้วยยีสต์อาร์มมิ่งเทคโนโลยี การคาดการณ์ผลกระทบจากการเคลื่อนที่ของไมโครพลาสติกและสารอาหารในอ่าวไทย แผนงานวิจัย : การพัฒนายาจากกัญชาสําหรับใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จังหวัดลพบุรี ต้นแบบการผลิตปลากะพงทองเชิงพาณิชย์: สัตว์น้ำเศรษฐกิจใหม่ โครงการพัฒนาต้นแบบชุดวัดระดับน้ำเพื่อหาอัตราการซึมผ่านผิวดินรายงานผ่านแอปพลิเคชัน การค้นหาเครื่องหมายพันธุกรรมในการคัดเลือกลักษณะทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มสมรรถภาพการผลิตโคไทยบราห์มัน ฤทธิ์ของสารสกัดกัญชงต่อการป้องกันและรักษาการอักเสบ: แนวทางเพื่อการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID19
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก