สืบค้นงานวิจัย
ผลของการทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ของอาหารหยาบด้วยเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ที่ไม่ใช่อาหารหยาบจากกากมันสำปะหลังและเปลือกเมล็ดถั่วเหลืองต่อสมรรถภาพการผลิตของโคนมในภูมิอากาศร้อนชื้น
นิติพงศ์ หอมวงษ์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: ผลของการทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ของอาหารหยาบด้วยเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ที่ไม่ใช่อาหารหยาบจากกากมันสำปะหลังและเปลือกเมล็ดถั่วเหลืองต่อสมรรถภาพการผลิตของโคนมในภูมิอากาศร้อนชื้น
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of Replacing Forage Detergent Fiber with Nonforage Detergent Fiber from Cassava Residues and Soyhulls on Performance of Dairy Cows in the Tropics
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ แม่โครีดนมที่ได้รับความเครียดเนื่องจากความร้อนกินอาหารโดยเฉพราะอาหารหยาบลดลง และพลังงานดำดงชีพเพิ่มขึ้นทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานลดลง ดังนั้นผลผลิตน้ำนมจึงลดลง การทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากอาหารหยาบด้วยแหล่งเยื่อใยที่ไม่ใช่อาหารหยาบในอาหารแม่โครีดนมน่าจะช่วยให้การกินได้เพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงานที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการกินและการนอน การตรวจสอบผลของการทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากอาหารหยาบด้วยแหล่งเยื่อใยที่ไม่ใช่อาหารหยาบในอาหารแม่โครีดนมดำเนินการทดลองในระหว่างฤดูร้อนในประเทศไทย แม่โครีดนมลูกผสมชาฮิวาล12.5%และโฮล์สไตน์87.5%จำนวน 30 ตัวที่มีระยะรีดนม 50?5 วันถูกจัดอย่างสุ่มเพื่อให้รับอาหารทลลองเป็นเวลา 56 วันตามแผนการทดลองแบบสุ่มโดยตลอด อาหารทดลองประกอบด้วยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว 13.75% โดยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าวประมาณ25%ในรูปวัตถุแห้งถูกทดแทนด้วยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลัง ดังนั้นเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าวของอาหารทดลองลดลงเหลือ 10.31% ปริมาณการกินอาหารและพลังงานสุทธิ โปรเจสเตอโรน ปริมาณน้ำนมและปริมาณน้ำนมที่ปรับไขมันนม4%ของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังสูงกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว(P < 0.01) อุณหภูมิร่างกาย(P < 0.01) ซีรั่มยูเรีย(P = 0.03) และความถี่ของการเข้ากินอาหาร(P = 0.02)ของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังต่ำกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว ระยะเวลากินอาหารของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังสูงกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว(P < 0.01) แต่ระยะเวลานอนยาวกว่า(P = 0.03) อย่างไรก็ตามความเข้มข้นของไขมันนมของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังต่ำกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว(P < 0.01) ผลการทดลองดังกล่าวแสดงให้ทราบว่าการเพิ่มปริมาณการกินอาหาร และประสิทธิภาพเมแทบอลิกของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีการทดแทนบางส่วนด้วยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังเป็นผลดีต่อระบบการผลิตภายใต้ความเครียดเนื่องจากความร้อน บทคัดย่อ แม่โครีดนมที่ได้รับความเครียดเนื่องจากความร้อนกินอาหารโดยเฉพราะอาหารหยาบลดลง และพลังงานดำดงชีพเพิ่มขึ้นทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานลดลง ดังนั้นผลผลิตน้ำนมจึงลดลง การทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากอาหารหยาบด้วยแหล่งเยื่อใยที่ไม่ใช่อาหารหยาบในอาหารแม่โครีดนมน่าจะช่วยให้การกินได้เพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงานที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการกินและการนอน การตรวจสอบผลของการทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากอาหารหยาบด้วยแหล่งเยื่อใยที่ไม่ใช่อาหารหยาบในอาหารแม่โครีดนมดำเนินการทดลองในระหว่างฤดูร้อนในประเทศไทย แม่โครีดนมลูกผสมชาฮิวาล12.5%และโฮล์สไตน์87.5%จำนวน 30 ตัวที่มีระยะรีดนม 50?5 วันถูกจัดอย่างสุ่มเพื่อให้รับอาหารทลลองเป็นเวลา 56 วันตามแผนการทดลองแบบสุ่มโดยตลอด อาหารทดลองประกอบด้วยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว 13.75% โดยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าวประมาณ25%ในรูปวัตถุแห้งถูกทดแทนด้วยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลัง ดังนั้นเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าวของอาหารทดลองลดลงเหลือ 10.31% ปริมาณการกินอาหารและพลังงานสุทธิ โปรเจสเตอโรน ปริมาณน้ำนมและปริมาณน้ำนมที่ปรับไขมันนม4%ของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังสูงกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว(P < 0.01) อุณหภูมิร่างกาย(P < 0.01) ซีรั่มยูเรีย(P = 0.03) และความถี่ของการเข้ากินอาหาร(P = 0.02)ของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังต่ำกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว ระยะเวลากินอาหารของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังสูงกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว(P < 0.01) แต่ระยะเวลานอนยาวกว่า(P = 0.03) อย่างไรก็ตามความเข้มข้นของไขมันนมของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังต่ำกว่าแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีเยื่อใยในรูปผนังเชลล์จากฟางข้าว(P < 0.01) ผลการทดลองดังกล่าวแสดงให้ทราบว่าการเพิ่มปริมาณการกินอาหาร และประสิทธิภาพเมแทบอลิกของแม่โครีดนมที่กินอาหารที่มีการทดแทนบางส่วนด้วยเยื่อใยในรูปผนังเชลล์เปลือกถั่วเหลืองและกากมันสำปะหลังเป็นผลดีต่อระบบการผลิตภายใต้ความเครียดเนื่องจากความร้อน
บทคัดย่อ (EN): In heat stress lactating cows, dry matter intake (DMI) particularly roughage intake decrease and greater maintenance costs reduce the efficiency of energy utilization, thereby decreasing milk production. Replacing the level of roughage neutral detergent fiber (NDF) with more digestible nonforage fiber sources (NFFS) in lactating diets may promote greater DMI and reduce energy cost associated with feeding and lying behavior. The effects of replacing roughage NDF with NFFS NDF on behaviors of feeding and lying and lactation performance of lactating cows were investigated under summer conditions in Thailand. Thirty cross-bred (87.5% Holstien x 12.5% Sahiwal) multiparous cows averaging 50?5 days in milk were randomly allocated to dietary treatments for 56 d according to a completely randomize design. The control diet consisted of 13.75% roughage NDF from rice straw. The roughage NDF content for 25% DM was replaced with NDF from soy hulls and cassava residues, so that the roughage NDF content of the experimental diets was reduced to 10.31%. The intake of DM and NEL, rectal temperature, the concentration of progesterone and the milk yield and 4% fat corrected milk were greater (P < 0.01) for cows fed the diets containing NFFS than those fed the diets containing roughage NDF from rice straw. The concentration of serum urea-N (P = 0.03) was affected by dietary treatment. Number of meal (P = 0.02) was affected by dietary treatment. Cows fed diets containing NFFS had lower numbers of meals. Meal duration was lower (P < 0.01) in cows fed diets containing NFFS than those fed diet containing roughage NDF from rice straw. Lying duration (P = 0.03) was affected by dietary treatment. Cows fed diets containing NFFS laid down longer duration than those fed diet containing roughage NDF from rice straw. However, milk fat was lower (P < 0.01) in cows fed diets containing NFFS than those fed diet containing roughage NDF from rice straw. These results suggested that under heat stress an increase in DMI and metabolic efficiency in dairy cows fed diets in which partial roughage NDF was replaced with NFFS NDF would be of an advantage in productive systems. In heat stress lactating cows, dry matter intake (DMI) particularly roughage intake decrease and greater maintenance costs reduce the efficiency of energy utilization, thereby decreasing milk production. Replacing the level of roughage neutral detergent fiber (NDF) with more digestible nonforage fiber sources (NFFS) in lactating diets may promote greater DMI and reduce energy cost associated with feeding and lying behavior. The effects of replacing roughage NDF with NFFS NDF on behaviors of feeding and lying and lactation performance of lactating cows were investigated under summer conditions in Thailand. Thirty cross-bred (87.5% Holstien x 12.5% Sahiwal) multiparous cows averaging 50?5 days in milk were randomly allocated to dietary treatments for 56 d according to a completely randomize design. The control diet consisted of 13.75% roughage NDF from rice straw. The roughage NDF content for 25% DM was replaced with NDF from soy hulls and cassava residues, so that the roughage NDF content of the experimental diets was reduced to 10.31%. The intake of DM and NEL, rectal temperature, the concentration of progesterone and the milk yield and 4% fat corrected milk were greater (P < 0.01) for cows fed the diets containing NFFS than those fed the diets containing roughage NDF from rice straw. The concentration of serum urea-N (P = 0.03) was affected by dietary treatment. Number of meal (P = 0.02) was affected by dietary treatment. Cows fed diets containing NFFS had lower numbers of meals. Meal duration was lower (P < 0.01) in cows fed diets containing NFFS than those fed diet containing roughage NDF from rice straw. Lying duration (P = 0.03) was affected by dietary treatment. Cows fed diets containing NFFS laid down longer duration than those fed diet containing roughage NDF from rice straw. However, milk fat was lower (P < 0.01) in cows fed diets containing NFFS than those fed diet containing roughage NDF from rice straw. These results suggested that under heat stress an increase in DMI and metabolic efficiency in dairy cows fed diets in which partial roughage NDF was replaced with NFFS NDF would be of an advantage in productive systems.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: แม่โครีดนม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการทดแทนเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ของอาหารหยาบด้วยเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ที่ไม่ใช่อาหารหยาบจากกากมันสำปะหลังและเปลือกเมล็ดถั่วเหลืองต่อสมรรถภาพการผลิตของโคนมในภูมิอากาศร้อนชื้น
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
ผลของการให้ความร้อนต่อการกะเทาะเปลือกเมล็ดถั่วเหลือง การปรับปรุงคุณภาพอาหารหยาบหมักจากชานอ้อยและกากมันสำปะหลังด้วยเอนไซม์และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ โดยวิธีการหมักอาหารแบบแข็ง การใช้วัสดุเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรมและพืชอาหารที่มีศักยภาพสูงเป็นแหล่งเยื่อใยในรูปผนังเซลล์ เพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตด้วยต้นทุนต่ำสำหรับการเลี้ยงโคนมในภูมิอากาศร้อนชื้น ผลของการใช้กากมันสำปะหลังต่อกระบวนการผลิตอาหารสุกรอัดเม็ด ลักษณะทางกายภาพของเม็ดอาหาร การย่อยได้ของสารอาหาร สมรรถภาพการผลิต และคุณภาพซาก การใช้กากมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลหมักยีสต์ เพื่อเป็นอาหารในโครีดนม การเพิ่มโปรตีนในกากมันสำปะหลังและเปลือกมันสำปะหลังโดยใช้จุลินทรีย์ การใช้ประโยชน์จากเปลือกและกากมันสำปะหลังที่เกิดจากกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังเพื่อใช้ในการผลิตเอทานอล การใช้กากมันสำปะหลังร่วมกับส่าเหล้าเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับสุกร การใช้กากมันสำปะหลังแห้งที่เหลือหลังจากการกลั่นเอทานอล (กากส่าเหล้าแห้ง) เพื่อเป็นอาหารแพะ การใช้กากมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลทดแทนปลายข้าวในการลี้ยงปลานิล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก