สืบค้นงานวิจัย
ผลของความหนาแน่นที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตปลาโมง(Pangasius bocourti Sauvage,1880) ในกระชังในแม่น้ำโขง
ศิราณี งอยจันทร์ศรี - กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ผลของความหนาแน่นที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตปลาโมง(Pangasius bocourti Sauvage,1880) ในกระชังในแม่น้ำโขง
ชื่อเรื่อง (EN): EFFECT OF STOCKING DENSITY ON GROWTH AIYD PRODUCTION OF BOCOURTI CATFISH (Pangasius bocourti Sauvage, 1S80) CAGE CULTIURE IN MEKONG RIVER
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศิราณี งอยจันทร์ศรี
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาอิทธิพลของความหนาแน่นที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ของการเลี้ยงปลาโมงในกระชังในแม่น้ำโขงบริเวณจังหวัดนครพนมที่ระดับความหนาแน่น ระดับ คือ 50, 100, 150 และ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ปล่อยปลาโมงความยาวเริ่มตันเฉลี่ย 16.4±2.19,16.3±1.92,16.9±2.67 และ 16.8±1.76 เซนติเมตร ตามลำดับ และน้ำหนักเฉลี่ย 68.03±22.31, 71.89±29.77,74.54±28.33 และ 69.05±24.61 กรัม ตามลำดับ ลงเลี้ยงในกระชังขนาด 1.5 x 1.3 x 1.8 เมตร ระดับน้ำลึก1.5 เมตร ให้อาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดลอยน้ำระดับโปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ โดยให้กินจนอิ่ม วันละ 1 ครั้ง เวลา 18.00 น.ใช้ระยะเวลาทดลองเลี้ยงระหว่างเดือนสิงหาคม 2545 -เดือนมีนาคม 2546 เป็นเวลา 7 เดือน ผลการทดลองพบว่าปลาโมงที่เลี้ยงมีน้ำหนักสุดท้ายเฉลี่ยเท่ากับ 516.71±61.44, 492.33±8.01,467.27±49.49 แถะ 471.56±46.63 กรัม ความยาวสุดท้ายเฉลี่ย 34.0±12.56, 32.9±638, 32.7±7.04 และ32.3±8.83 เซนติเมตร น้ำหนักเพิ่มต่อวัน 2.12±0.23 , 1,98±0.17, 1.±5+0.35 และ 1.90±0.10 กรัมต่อวัน อัตราการเจริญเติบโตจำเพาะ 0.97±0.12, 0.93±0.20, 0.88±0.21 และ 0.93±0.13 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน อัตรารอด 97.44±2.24, 98.96±0.63, 99.34±0.60 และ 99.26±0.26 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ โดยพบว่าพารามิเตอร์ในการเจริญเติบโตดังกล่าวไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับความเชื่อมั่น 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราแลกเนื้อเท่ากับ 1.80±0.06, 2.11±0.21, 1.79±0.06 และ 1.81±0.17 ตามลำดับ ทั้งนี้พบว่าอัตราแลกเนื้อที่ระดับอัตราความหนาแน่น 150 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร (1.79±0.06) แตกต่างจากปลาที่เลี้ยงที่ระดับความหนาแน่น 100 และ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร (2.11±0.21 และ 1.80±0.17 ตามลำดับ) แต่ไม่แตกต่างจากปลาที่เลี้ยงที่ระดับความหนาแน่น 50 ตัวต๋อลูกบาศก์เมตร (1.80±0.06) การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์พบว่าชุดการทดลองที่ระดับความหนาแน่น 50 ตัวต่อลูกบาศก์เมคร มีต้นทุนการผลิตสูงสุด 47.25 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนชุดการทดลองระดับ(ความหนาแน่น 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร มีต้นทุนการผลิตต่ำสุด 39.69 บาทต่อกิโลกรัม การลงทุนพบว่าการเลี้ยงปลาโมงที่ระดับความหนาแน่น 50, 100, 150 และ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตรได้รับผลตอบแทน 82.24, 80.47, 106.83 และ 105.99 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การเลี้ยงปลาโมงในกระชังที่ระดับความหนาแน่น 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร เป็นอัตราการปล่อยที่เหมาะสมที่สุดเพราะให้กำไรสุทธิและรายได้สุทธิสูงสุด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.inlandfisheries.go.th/research/details.php?id=151
เผยแพร่โดย: กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
คำสำคัญ: ปลาโมง เลี้ยงในกระชัง ความหนาแน่น ต้นทุนการผลิต
คำสำคัญ (EN): ต้นทุนการผลิต
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมประมง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของความหนาแน่นที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตปลาโมง(Pangasius bocourti Sauvage,1880) ในกระชังในแม่น้ำโขง
กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
2548
ระดับโปรตีนในอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาโมง(Pangasius bocourtir Sauvage, 1830) ผลของความหนาแน่นที่มีต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตปลาโมง ในกระชังในแม่น้ำโขง การเลี้ยงปลาเทโพในกระชังที่ความหนาแน่นแตกต่างกันในบึงบอระเพ็ด ผลของความหนาแน่นที่มีต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตปลาโมง การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดข้าวเหนียวในดินจังหวัดพัทลุง ผลของการเก็บรักษาไรแดงต่อการเจริญเติบโตของปลา การทดสอบสายพันธุ์ปลานิลจิตรลดา 3 และปลานิลจิตรลดา 4 ในกระชังของเกษตรกร การศึกษาสภาวะเศรษฐกิจสังคมของการเลี้ยงปลาโมงในกระชัง ในแม่น้าโขง จังหวัดนครพนม ผลของความหนาแน่นต่อการผลิตหอยแครง Anadara granosa (Linnaeus, 1758) ที่เลี้ยงในอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี การเลี้ยงปลากดเหลืองในกระชังที่มีระดับความลึกของกระชังและความหนาแน่นแตกต่างกัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก