สืบค้นงานวิจัย
การขยายพันธุ์หนอนตายหยากด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
สัมพันธ์ แย้มกระโทก - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การขยายพันธุ์หนอนตายหยากด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ชื่อเรื่อง (EN): Propagation of Stemona spp by tissue culture
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สัมพันธ์ แย้มกระโทก
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยเรื่องการขยายพันธุ์หนอนตายหยากด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สถานที่ทำการศึกษาทดลองและเก็บข้อมูล ได้แก่ 1) ห้องปฏิบัติการ และเรือนเพาะชำของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดนครราชสีมา (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) 2) แปลงทดลองขยายพันธุ์ของหน่วยพัฒนาที่ดินที่ 2 สถานีพัฒนาที่ดินชัยภูมิ ณ บ้านหนองเชียงรอด ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ (ในชุดดินท่ายาง) โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการขยายพันธุ์หนอนตาย หยากด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 2) เพื่อศึกษาการขยายพันธุ์หนอนตายหยากด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงในแปลงขยายพันธุ์ มีขั้นตอนการศึกษาการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหนอนตายหยาก 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การเพิ่มปริมาณต้นหนอนตายหยากในสภาพปลอดเชื้อ 2) การชักนำให้ต้นหนอนตายหยากที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อออกราก 3) การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจากต้นและรากหนอนตายหยาก 4) การสกัดและการวิเคราะห์ปริมาณสารออกฤทธิ์ โดยมีการใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ และแปลงขยายพันธุ์ และมีวิธีดำเนินการศึกษา ดังนี้ งานที่ 1 และงานที่ 2 ศึกษาปริมาณการขยายพันธุ์จากการใช้ส่วนต่างๆ ของหนอนตายหยากเป็นเชื้อพันธุ์ และศึกษาการเจริญเติบโตในเรือนเพาะชำวางแผนการทดลองแบบ CRD จำนวน 4 และ 5 ซ้ำ มี 4 ตำรับการทดลองคือ Tr1 = การขยายพันธุ์หนอนตายหยากชนิดเล็กด้วยยอดอ่อน, Tr2 = การขยายพันธุ์หนอนตายหยากชนิดใหญ่ด้วยยอดอ่อน, Tr3 = การขยายพันธุ์หนอนตายหยากชนิดเล็กด้วยตาข้าง และTr4 = การขยายพันธุ์หนอนตายหยากชนิดใหญ่ด้วยตาข้าง งานที่ 3 ศึกษาการเจริญเติบโตในแปลงขยายพันธุ์ วางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 4 ซ้ำ มี 6 ตำรับการทดลองคือ G1 = หนอนตายหยากชนิดเล็กจากการเพาะชำเหง้า (Ck1), G2 = หนอนตายหยากชนิดใหญ่จากการเพาะชำเหง้า (Ck2), G3 = หนอนตายหยากชนิดเล็กจากเนื้อเยื่อยอดอ่อน, G4 = หนอนตายหยากชนิดใหญ่จากเนื้อเยื่อยอดอ่อน, G5 = หนอนตายหยากชนิดเล็กจากเนื้อเยื่อตาข้าง และG6 = หนอนตายหยากชนิดใหญ่จากเนื้อเยื่อตาข้าง ผลการทดลองคือ 1) ปริมาณการขยายพันธุ์จากการใช้ส่วนต่างๆ ของหนอนตายหยากเป็นเชื้อพันธุ์ ทางด้านความสูงของต้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อ ปีที่ 1 จากผลการทดลอง ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่มีแนวโน้มว่า Tr4 ให้ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อสูงสุดเท่ากับ 4.3300 เซนติเมตร ทางด้านจำนวนหน่อของชิ้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อ ปีที่1 พบว่า ค่าเฉลี่ยจำนวนหน่อของชิ้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่มีแนวโน้มว่า Tr2 ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนหน่อของชิ้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อสูงสุดเท่ากับ 2.3350 หน่อ/ชิ้น ทางด้านความสูงของต้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อ ปีที่ 2 พบว่า ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ คือ Tr3 และ Tr2 ที่มีค่าเฉลี่ยความสูงของต้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อเท่ากับ 4.7500 และ 3.6125 เซนติเมตร ตามลำดับ และทางด้านจำนวนหน่อของชิ้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อ ปีที่ 2 พบว่า ค่าเฉลี่ยจำนวนหน่อของชิ้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่มีแนวโน้มว่า Tr1 ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนหน่อของชิ้นพันธุ์ระยะอยู่ในอาหารเลี้ยงเชื้อสูงสุดเท่ากับ 7.5250 หน่อ/ชิ้น 2) การเจริญเติบโตของต้นพันธุ์ในเรือนเพาะชำ ทางด้านการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์ในกระถาง อายุ 1 เดือนหลังปลูก พบว่า การเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดี และไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ คือ Tr1 และ Tr3 ให้ค่าเฉลี่ยการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์สูงสุดเท่ากับ 18.100 และ 16.700 เซนติเมตร ตามลำดับ ทางด้านการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์ในกระถาง อายุ 2 เดือนหลังปลูก พบว่า การเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดี และมีความแตกต่างกันทางสถิติ คือ Tr1 ให้ค่าเฉลี่ยการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์ในกระถาง อายุ 2 เดือนหลังปลูกสูงสุดเท่ากับ 36.800 เซนติเมตร และทางด้านการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์ในกระถาง อายุ 3 เดือนหลังปลูก พบว่า การเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุด และมีความแตกต่างกันทางสถิติ คือ Tr1 ที่มีการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์ในกระถาง อายุ 3 เดือนหลังปลูกสูงสุดเท่ากับ 67.700 เซนติเมตร 3) การเจริญเติบโตในแปลงขยายพันธุ์ ทางด้านอัตราการรอดตายของต้นกล้าพันธุ์ อายุ 1 เดือนหลังปลูกในแปลงทดลอง พบว่า เปอร์เซ็นต์การรอดตายของต้นกล้าพันธุ์ อายุ 1 เดือนหลังปลูกในแปลงทดลองสามารถรอดตายได้ดี และไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ คือ G3 และ G1 ให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การรอดตายของต้นกล้าพันธุ์ อายุ 1 เดือนหลังปลูกในแปลงทดลองสูงสุดเท่ากับ 87.500 และ 83.000 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ทางด้านอัตราการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นกล้าพันธุ์ อายุ 1 เดือนหลังปลูกในแปลงทดลอง พบว่า อัตราการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นกล้าพันธุ์ อายุ 1 เดือนหลังปลูกในแปลงทดลองสามารถเจริญเติบโตได้ดี อัตราการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นกล้าพันธุ์สูงสุด เท่ากับ 27.785 เซนติเมตร ทางด้านผลผลิตน้ำหนักสดหัวพันธุ์ G2 ให้ผลผลิตน้ำหนักสดหัวพันธุ์สูงสุดเท่ากับ 1,437.5 กรัม/2.50ม2 และทางด้านผลผลิตน้ำหนักสดหัวพันธุ์ พบว่า ผลผลิตน้ำหนักสดหัวพันธุ์ G2 ให้ผลผลิตน้ำหนักสดหัวพันธุ์สูงสุดเท่ากับ 920.00 กิโลกรัม/ไร่ จากการศึกษาวิจัยดังที่กล่าวมาสรุปสาระสำคัญดังนี้ คือ ต้นหนอนตายหยากสามารถเจริญเติบโตเป็นต้นได้ดีที่สุดในปีที่ 2โดยเฉพาะพันธุ์ใหญ่และพบว่า มีการเจริญเติบโตและการ ออกรากได้ดีกว่าพันธุ์เล็ก ส่วนการเจริญเติบโตของต้นหนอนตายหยากในเรือนเพาะชำพบว่า การเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นพันธุ์หนอนตายหยาก Tr1 มีการเจริญเติบโตด้านความสูงของต้นหนอนตายหยากสูงสุด และการลงแปลงขยายพันธุ์ต้นหนอนตายหยากชนิดใหญ่จากการเพาะชำเหง้า (Ck2) สามารถให้ผลผลิตน้ำหนักหัวสดสูงสุด และผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังนี้ คือ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหนอนตายหยากในห้องปฏิบัติการ ควรใช้ต้นพันธุ์หนอนตายหยากพันธุ์เล็ก เพราะทำให้มีการเจริญเติบโตและมีเปอร์เซ็นต์การออกรากได้ดีกว่าต้นพันธุ์หนอนตายหยากพันธุ์ใหญ่ในปีที่ 1 ในส่วนการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหนอนตายหยากในห้องปฏิบัติการใช้เวลาในการเจริญเติบโตจนเกิดรากใช้ระยะเวลามากกว่าการเก็บต้นพันธุ์จากธรรมชาติในป่ามาเพาะปลูก ควรที่จะมีการศึกษาการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นๆ อีก เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการขยายพันธุ์ และจากการศึกษาพบว่า ต้นหนอนตายหยากพันธุ์ใหญ่ให้ผลผลิตน้ำหนักหัวสดมากกว่าหนอนตายหยากพันธุ์เล็ก ควรที่จะใช้พันธุ์ใหญ่ในการปลูกขยายพันธุ์
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: หนอนตายหยากเล็ก
คำสำคัญ (EN): Stemona tuberosa Lour.
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การขยายพันธุ์หนอนตายหยากด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
กรมพัฒนาที่ดิน
31 ธันวาคม 2554
การศึกษาการขยายพันธุ์ต้นศรีทอง (Sapium sebiferum Roxb.) ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์กล้วยไม้ป่าบางชนิดโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์สบู่ดำ : การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์เนียมหอม (Strobilanthes nivea) ด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์ของต้นแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันลูกผสมเทอเนอร่าในอนาคต การศึกษาการเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์กล้วยไม้หวายแดงจันทบูร ( Renanthera coccinea ) Lour. การคัดเลือกและขยายพันธุ์กล้วยทนเค็มด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โครงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อปรับปรุงพันธุ์และขยายพันธุ์ การขยายพันธุ์และการดูแลไม้ดอกหอมเพื่อการใช้ประโยชน์ในเชิงการค้า นวัตกรรมการปลูกและการขยายพันธุ์ต้นหัวร้อยรูด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก