สืบค้นงานวิจัย
ขี้เถ้าแกลบแทนซิลิกาสำหรับการผลิตเซรามิกส์
ทนารัช จิตชาญวิชัย - มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ชื่อเรื่อง: ขี้เถ้าแกลบแทนซิลิกาสำหรับการผลิตเซรามิกส์
ชื่อเรื่อง (EN): The Experiment the rice husk ash to replacement silica for ceramics production process
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ทนารัช จิตชาญวิชัย
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาอัตราส่วนผสมของขี้เถ้าแกลบให้สามารถนำมาใช้แทรซิลิกาในขบวนการผลิตน้ำเคลือบ และเนื้อดินปั้นสำหรับหารผลิตเซรามิกส์เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติและปริมาณมากในประเทศไทย ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซรามิกส์จำเป็นต้องใช้วัสดุที่ให้ซิลิกาได้แก่ ทราย ควอตซ์ หรือหินเขี้ยวหนุมานที่มีราคาสูงขึ้นอีกทั้งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญและจำเป็นต้องใช้ในปริมาณมากทั้งเป็นน้ำเคลือบและเนื้อดินปั้นโดยกำหนดอัตราส่วนผสมเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 หาอัตราส่วนผสมของน้ำเคลือบจากการสุ่มจำนวนวัตถุดิบจากขี้เถ้าแกลบ ดินขาวระนอง และหินฟันม้า แบบเจาะจงในตารางสามเหลี่ยมด้านเท่าจำนวน 36 อัตราส่วน นำไปบดผสมแลเคลือบชิ้นทดลองด้วยวิธีการชุบเคลือบ กลุ่มที่ 2 หาอัตราส่วนผสมของเนื้อดินปั้นจากการสุ่มจำนวนวัตถุดิบจากขี้เถ้าแกลบ ดินขาวระนอง หินเขี้ยวหนุมาน และหินฟันม้า แบบเจาะจงในตารางสีเหลี่ยมด้านเท่าจำนวน 16 อัตราส่วน หาการกระจายความละเอียดของวัตถุดิบผ่านตะแกรงหลายเบอร์ นำในแต่ละอัตราส่วนผามบดผสมและขึ้นรูปชิ้นทดลองโดยวิธีการหล่อแบบ นำอัตราส่วนผสมทั้ง 2 กลุ่มเผาที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียส โดยกลุ่มทั้ 1 ซึ่งเป็นน้ำเคลือบศึกษาลักษณะของเคลือบหลังเผาทั้งในบรรยากาศแบบออกซิเดชั่น และรีดักชั่น ได้แก่ ระดับความมันแวววาว ความสมบูรณ์ของเคลือบ และสีของเคลือบ ผลปรากฏว่า อัตราส่วนผสมที่ 32 ผ่านการเผาในบรรยากาศออกซเดชั่น เป็นส่วนผสมที่ดีที่สุด คือมีลักษณะผิวเคลือบกึ่งมันกึ่งด้าน มีผิวที่สมบูรณ์ และสีขาวครีม จึงเลือกนำมาเคลือบผลิตภัณฑ์ส่วนกลุ่มที่ 2 คืออัตราผสมของเนื้อดิน เผาในบรรยากาศแบบออกซิเดชั่น ศึกษาความสามารถในการขึ้นรูป และทดสอบคุณสมบัติหลังเผา ได้แก่ การหดตัว ความแข็งแรง การดูดซึม ความหนาแน่น ผลปรากฏว่า อัตราส่วนผสมที่ 1 เป็นอัตราส่วนผสมที่ดี คือสามารถขึ้นรูปโดยวิธีการหล่อแบบได้ดี มีความแข็งแรงสูงสุด 180.25 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตรมีความหนาแน่นสูงสุด 2.24 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร และมีการดูดซึมน้ำต่ำร้อยละ 0.79 นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ โดยการวิจัยครั้งนี้ ได้นำเคลือบที่เลือกจากกลุ่มที่ 1 ไปเคลือบเนื้อดินปั้นที่เลือกจากลุ่มที่ 2 นอกจากนั้นยังได้นำเคลือบดังกล่าวไปทดลองเคลือบกับดินสำเร็จรูป พบว่า เคลือบสามารถเข้ากันได้ดีกับทั้งเนื้อดินปั้นที่ศึกษา และเนื้อดินปั้นสำเร็จรูป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
คำสำคัญ: เซรามิกส์
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
รายละเอียด: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาอัตราส่วนผสมของขี้เถ้าแกลบให้สามารถนำมาใช้แทรซิลิกาในขบวนการผลิตน้ำเคลือบ และเนื้อดินปั้นสำหรับหารผลิตเซรามิกส์เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติและปริมาณมากในประเทศไทย ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซรามิกส์จำเป็นต้องใช้วัสดุที่ให้ซิลิกาได้แก่ ทราย ควอตซ์ หรือหินเขี้ยวหนุมานที่มีราคาสูงขึ้นอีกทั้งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญและจำเป็นต้องใช้ในปริมาณมากทั้งเป็นน้ำเคลือบและเนื้อดินปั้นโดยกำหนดอัตราส่วนผสมเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 หาอัตราส่วนผสมของน้ำเคลือบจากการสุ่มจำนวนวัตถุดิบจากขี้เถ้าแกลบ ดินขาวระนอง และหินฟันม้า แบบเจาะจงในตารางสามเหลี่ยมด้านเท่าจำนวน 36 อัตราส่วน นำไปบดผสมแลเคลือบชิ้นทดลองด้วยวิธีการชุบเคลือบ กลุ่มที่ 2 หาอัตราส่วนผสมของเนื้อดินปั้นจากการสุ่มจำนวนวัตถุดิบจากขี้เถ้าแกลบ ดินขาวระนอง หินเขี้ยวหนุมาน และหินฟันม้า แบบเจาะจงในตารางสีเหลี่ยมด้านเท่าจำนวน 16 อัตราส่วน หาการกระจายความละเอียดของวัตถุดิบผ่านตะแกรงหลายเบอร์ นำในแต่ละอัตราส่วนผามบดผสมและขึ้นรูปชิ้นทดลองโดยวิธีการหล่อแบบ นำอัตราส่วนผสมทั้ง 2 กลุ่มเผาที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียส โดยกลุ่มทั้ 1 ซึ่งเป็นน้ำเคลือบศึกษาลักษณะของเคลือบหลังเผาทั้งในบรรยากาศแบบออกซิเดชั่น และรีดักชั่น ได้แก่ ระดับความมันแวววาว ความสมบูรณ์ของเคลือบ และสีของเคลือบ ผลปรากฏว่า อัตราส่วนผสมที่ 32 ผ่านการเผาในบรรยากาศออกซเดชั่น เป็นส่วนผสมที่ดีที่สุด คือมีลักษณะผิวเคลือบกึ่งมันกึ่งด้าน มีผิวที่สมบูรณ์ และสีขาวครีม จึงเลือกนำมาเคลือบผลิตภัณฑ์ส่วนกลุ่มที่ 2 คืออัตราผสมของเนื้อดิน เผาในบรรยากาศแบบออกซิเดชั่น ศึกษาความสามารถในการขึ้นรูป และทดสอบคุณสมบัติหลังเผา ได้แก่ การหดตัว ความแข็งแรง การดูดซึม ความหนาแน่น ผลปรากฏว่า อัตราส่วนผสมที่ 1 เป็นอัตราส่วนผสมที่ดี คือสามารถขึ้นรูปโดยวิธีการหล่อแบบได้ดี มีความแข็งแรงสูงสุด 180.25 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตรมีความหนาแน่นสูงสุด 2.24 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร และมีการดูดซึมน้ำต่ำร้อยละ 0.79 นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ โดยการวิจัยครั้งนี้ ได้นำเคลือบที่เลือกจากกลุ่มที่ 1 ไปเคลือบเนื้อดินปั้นที่เลือกจากลุ่มที่ 2 นอกจากนั้นยังได้นำเคลือบดังกล่าวไปทดลองเคลือบกับดินสำเร็จรูป พบว่า เคลือบสามารถเข้ากันได้ดีกับทั้งเนื้อดินปั้นที่ศึกษา และเนื้อดินปั้นสำเร็จรูป
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ทนารัช จิตชาญวิชัย. "ขี้เถ้าแกลบแทนซิลิกาสำหรับการผลิตเซรามิกส์The Experiment the rice husk ash to replacement silica for ceramics production process". มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. 2557

ทนารัช จิตชาญวิชัย. "ขี้เถ้าแกลบแทนซิลิกาสำหรับการผลิตเซรามิกส์The Experiment the rice husk ash to replacement silica for ceramics production process". มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
ขี้เถ้าแกลบแทนซิลิกาสำหรับการผลิตเซรามิกส์
ทนารัช จิตชาญวิชัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
2557
การทดลอง Zirocon Body สำหรับงานบดย่อยวัตถุดิบเซรามิกส์ โครงการศึกษาการผลิตซิลิกาคุณภาพสูงจากเถ้าแกลบโรงไฟฟ้าพลังแกลบ เคลือบเซรามิกส์จากเปลือกหอยนางรม รายงานการวิจัยเรื่องการทดลองใช้เปลือกหอยนางรมเพื่อเป็นส่วนผสมในน้ำเคลือบเซรามิกส์ การทดลองใช้ขี้เถ้าแกลบเป็นวัตถุดิบแทนควอรต์ในกระบวนการผลิตเซรามิก การเปรียบเทียบพันธุ์แตงกวาสำหรับบริโภคผลผลิตสด ผลการใช้แหนแดงแทนปุ๋ยไนโตรเจนต่อผลผลิตของข้าว การผลิตแซนแทนกัมจากน้ำคั้นเปลือกสับปะรด การคัดเลือกสายพันธุ์แตงกวาสำหรับบริโภคผลผลิตสด การศึกษาสูตรที่เหมาะสมสำหรับการผลิตโยเกิร์ตจากน้ำนมถั่วลิสง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair