สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาเม็ดสารสกัดแคปซูลตำรับ เบญจกูลและยาลอราทาดีน ในการรักษาโรค จมูกอักเสบจากภูมิแพ้
ไวพจน์ จันทร์วิเมลือง - กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาเม็ดสารสกัดแคปซูลตำรับ เบญจกูลและยาลอราทาดีน ในการรักษาโรค จมูกอักเสบจากภูมิแพ้
ชื่อเรื่อง (EN): A comparative study on the efficacy and safety of oral extract capsules. Benjakul and Loratadine in the treatment of disease allergic rhinitis
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ไวพจน์ จันทร์วิเมลือง
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
ชุดเอกสาร: การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาเม็ดสารสกัดแคปซูลตำรับ เบญจกูลและยาลอราทาดีน ในการรักษาโรค จมูกอักเสบจากภูมิแพ้
บทคัดย่อ: จากการวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผล ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของยาแคปซูลสารสกัดต ารับเบญจกูลขนาด 300 มิลลิกรัมต่อวัน กับยาลอราทาดีนในการรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบจากการแพ้ของผู้ป่วยกลุ่มเล็ก รูปแบบงานวิจัยเป็นการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 2 (Clinical Trial Phase II) แบบปกปิดทั้งผู้ป่วยและผู้วิจัย (double-blined randomized control trial) ท าการศึกษาคัดเลือก คัดกรองอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัย ผู้ป่วยเพศชายและหญิงอายุตั้งแต่ 20 – 70 ปี จ านวน 50 คน จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยการสุ่ม กลุ่มละ 25 คน โดยกลุ่มที่ 1 จะได้รับยาเบญจกูล โดยการรับประทาน ครั้งละ 100 mg หรือ 1 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง(เช้า-กลางวัน-เย็น) และกลุ่มที่ 2 ประกอบด้วยผู้ป่วยจ านวน 25 คน คน จะได้รับยา Loratadine โดยการรับประทานตามข้อบ่งใช้ในการรักษาสากล ครั้งละ 10 mg วันละ 1 ครั้ง อาสาสมัคร ได้รับการรักษาโดยการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดยท าการประเมินและเก็บตัวอย่างเลือดและปัสสาวะก่อนการได้รับยา หลังจากนั้นติดตามอาการเมื่อครบ 21 และ 42 วัน (สัปดาห์ที่ 3 และ 6) ประเมินผลโดยการวัดระดับอาการทางจมูก อาการอื่นๆนอกเหนือจากอาการทางจมูก และการประเมินคุณภาพชีวิต นอกจากนี้มีการใช้เครื่องมือ Acoustic Rhinometry เพื่อใช้ในการประเมินอาการคัดจมูก โดย ประเมินจากพื้นที่หน้าตัดที่แคบที่สุดของโพรงจมูก (MCA) การตรวจทางห้องปฏิบัติการจะนำผลทั้งหมดไปวิเคราะห์ทางสถิติผลการศึกษาพบว่า ฤทธิ์ต้านการแพ้จากการยับยั้งเอ็นไซม์ β-hexosaminidase ในเซลล์ RBL-2H3 (rat basophilic leukemia) ของสกัดตำรับยาเบญจกูลชั้น 95% เอทานอล พบว่า สารสกัดเบญจกูลมีฤทธิ์ต้านการแพ้ไม่แตกต่างกับยา Chlorpheniramine ที่เป็นยาต้านฮิสตามีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยต ารับยาเบญจกูล มีค่าIC50 เท่ากับ 12.01 ± 1.11 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร และ Chlorpheniramine มีค่า IC50 เท่ากับ 13.7 ± 1.80 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร จากการศึกษาวิจัยทางคลินิกในกลุ่มอาสาสมัครจ านวน 50 คน พบว่าการรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ยาเบญจกูล สามารถลดอาการ น้ ามูกไหล คันจมูก คัดจมูก จาม ไม่แตกต่างกับยา Loratadine และเมื่อตรวจโพรงจมูกด้วยเครื่อง Acoustic Rhinometry พบว่า ค่าพื้นที่หน้าตัดจมูกที่ แคบที่สุด ของการรักษาโดยยาเบญจกูลไม่มีความแตกต่างจากการรักษาโดยใช้ยาลอราทาดีน และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาเบญจกูลไม่มีความแตกต่างจากการรักษาด้วยยาลอราทาดีน เมื่อติดตามผลด้านความปลอดภัย สภาวะการทำงานของตับ (AST, ALT, Alkaline Phosphatase, Total protein, Albumin,Globulin, Bilirubin , Direct bilirubin,) การท างานของไต (BUN, Creatinine) ค่าความสมบูรณ์ของเลือด (WBC , Neutrophil , Lymphocyte , Monocyte , Eosinophil , Basophil , RBC count , Hb , Hct ,MCV , MCH , MCHC , RDW , Platelests count) ค่าระดับน้ าตาลในเลือด (Glucose ), และระดับไขมันในเลือด (HDL , Total Choleserol , LDL-Cholesterol , Triglyceride) ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของค่าต่าง ๆ จากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ที่บ่งบอกถึงความรุนแรงหลังการับประทานยาเบญจกูลและยาลอราทาดีนต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์
บทคัดย่อ (EN): Based on this research, the purpose of the research was to comparethe effectiveness of Benjakul Extract Capsules at 300 mg per day with Loratadine drug in the treatment of allergic rhinitis patients in small group (Clinical Trial Phase II). To study the safety and side effects of Benjakul extract capsules 300 mg per day and Loratadine drug for allergic rhinitis patients, the clinical trial phase II (Clinical Trial Phase II) is a clinical trial (Double-blended randomized control trial). Volunteers in the research program are male and female patients aged 50-70 years old will be divided into 2 groups of 25 randomly selected patients. Group 1 will be received Bencharide by taking 100 mg. or one capsule three times a day (morning, lunch and evening). Group2, consisting of 25 patients, will be given Loratadine by taking them according to international indications, 10 mg once a day. The subjects were treated with continued dosing for 6 weeks. Blood and urine samples were collected and evaluated prior to administration after following-up at 21 and 42 days (weeks 3 and 6),evaluating by measuring nose symptom. In addition, Acoustic Rhinometry is used to evaluate nasal congestion by evaluating the narrowest cut of the nasal cavity (MCA), and laboratory tests will take all the results to statistical analysis. The study indicated that Anti-allergic activity of enzyme inhibition β-hexosaminidase in RBL-2H3 cells (rat basophilic leukemia) of 95% ethanol extracts showed that the antihypertensive effect was not significantly different from Chlorpheniramine the current antihistamine drug. The Benzyl formula had an IC50 of 12.01 ± 1.11 microgram / ml, and Chlorpheniramine had an IC50 of 13.7 ± 1.80 micrograms / ml. From clinical trials on volunteer groups of 50 people found that taking the drug over a period of 6 weeks treatment Benjakol can reduce runny nose itchy nose, stuffy nose, sneezing, no different to a drug Loratadine. When monitoring the nose with Acoustic Rhinometry found that the narrowest nose area when treating by Benjakol not different from treating Loratadine. Following liver function, (AST, ALT, Alkaline Phosphatase, Total protein, Albumin, Globulin, Bilirubin, Direct bilirubin,)and kidney function, (BUN, Creatinine) the integrity of the blood (WBC, Neutrophil, Lymphocyte, Monocyte, Eosinophil. , basophil, RBC count, Hb, Hct, MCV, MCH, MCHC, RDW, Platelests count) the level of blood with Bsugar (glucose), and lipid levels (HDL, Total Choleserol, LDL-cholesterol, Triglyceride) from the results of laboratory tests indicative of violence and drug Benjakol drug Loratadine continuously for a period of 6 weeks were not found change of values.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://ttdkl.dtam.moph.go.th/Module7/frmc_home_research_show.aspx?r_id=NDM3
เผยแพร่โดย: กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
คำสำคัญ: การศึกษาเปรียบเทียบ
คำสำคัญ (EN): study
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาเม็ดสารสกัดแคปซูลตำรับ เบญจกูลและยาลอราทาดีน ในการรักษาโรค จมูกอักเสบจากภูมิแพ้
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การตรวจสอบฤทธิ์กลายพันธุ์และต้านการกลายพันธุ์ของสารสกัดยาแผนโบราณไทย ความปลอดภัยของอาหาร...หน้าที่ของเราทุกคน ใครว่าผักไทยไม่ปลอดภัย รายงานการวิจัยการศึกษาเปรียบเทียบผลสำเร็จในการดำเนินงานขององค์กรปกครองท้องถิ่นแบบรวมอำนาจและแบบแยกอำนาจของประเทศไทย การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาเม็ดสารสกัดแคปซูลตำรับ เบญจกูลและยาลอราทาดีน ในการรักษาโรค จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การพัฒนาตำรับยาเม็ดสมุนไพรหม่อน ศึกษาฤทธิ์ลดไขมันในเลือดของตำรับเบญจกลูในหนูแรทที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง การพัฒนาตำรับยาเม็ดฟ้าทะลายโจรที่มีสารสำคัญสูงและมีเสถียรภาพ การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลและผลข้างเคียงสารสกัดขิง กับยา loratadine ในการรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก