สืบค้นงานวิจัย
การเปรียบเทียบสมรรถภาพการขุน คุณภาพซาก และเนื้อของโคลูกผสมระหว่างพันธุ์พื้นเมืองกับชาร์โรเลส์ แบล็คแองกัส และบราห์มัน
สัญชัย จตุรสิทธา - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: การเปรียบเทียบสมรรถภาพการขุน คุณภาพซาก และเนื้อของโคลูกผสมระหว่างพันธุ์พื้นเมืองกับชาร์โรเลส์ แบล็คแองกัส และบราห์มัน
ชื่อเรื่อง (EN): Comparison of Fattening Performance, Carcass and Meat Quality of Charolais, Black Angus, and Brahman Crossbred with Thai Native Cattle
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สัญชัย จตุรสิทธา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nuttapan Kantiya
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบสมรรถภาพการขุน คุณภาพซาก และเนื้อของโคลูกผสมพื้นเมืองชาร์โรเล่ส์ แบล็คแองกัส และบราห์มัน เพื่อเป็นแนวทางในการคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมต่อการขุนสำหรับการเลี้ยงในประเทศไทย และเป็นทางเลือกในการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าเนื้อโคคุณภาพดีจากต่างประเทศ การทดลองนี้ใช้โคเพศผู้ตอนลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์ โคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส และโคลูกผสมพื้นเมือง x บราห์มัน ขุนเป็นเวลา 8-10 เดือน แบ่งเป็นกลุ่มการทดลองละ 8 ตัว อายุเริ่มต้นเข้าขุนเฉลี่ย 2 ปี 6 เดือน-2 ปี 8 ตามลำดับ โดยให้อาหารข้น หญ้า และน้ำอย่างเต็มที่ (ad libitum) ทำการวัดสมรรถภาพการขุน และเมื่อน้ำหนักเฉลี่ย 550-700 กิโลกรัมนำมาฆ่าและตัดแต่งซากเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพเนื้อและซากระหว่างพันธุ์ ผลการวิจัยพบว่า ระยะเวลาที่ใช้ขุนของโคลูกผสมพื้นเมือง x บราห์มัน และโคลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์ มากกว่าโคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส (P<0.001) สำหรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นพบว่าโคลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์มีค่ามากที่สุดอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ รองลงมาคือโคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส และโคลูกผสมพื้นเมือง x บราห์มัน นอกจากนี้อัตราการเจริญเติบโตต่อตัวต่อวันพบว่า โคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส มีค่ามากที่สุด รองลงมาคือโคลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์ (P>0.05) และ โคลูกผสมพื้นเมือง x บราห์มัน (P<0.001) สำหรับคุณภาพซากของโคลูกผสมทั้ง 3 พันธุ์พบว่า น้ำหนักมีชีวิต น้ำหนักซากอุ่น น้ำหนักซากเย็น และเปอร์เซ็นต์ซากของโคลูกผสมพื้นเมือง x บราห์มันมีค่าน้อยที่สุด (P<0.001) สำหรับคุณภาพเนื้อด้านเปอร์เซ็นต์ไขมัน และการประเมินทางด้านการตรวจชิม แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระหว่างโคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส กับโคลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์ จากการศึกษาความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อพบว่าโคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส มีค่าการสูญเสียจากการเก็บรักษามากที่สุด (P=0.036) ส่วนทางด้านของค่าแรงตัดผ่านเนื้อ พบว่า โคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัส มีค่าน้อยที่สุด (P<0.001) รองลงมาคือ โคลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์ และโคลูกผสมพื้นเมือง x บราห์มัน ตามลำดับ จากผลการศึกษาสรุปได้ว่าโคลูกผสมสายเลือดยุโรปไม่มีความแตกต่างในส่วนของเปอร์เซ็นต์ไขมันแทรกและด้านการตรวจชิม แต่โคลูกผสมพื้นเมือง x แบล็คแองกัสจะมีสมรรถภาพด้านการเจริญเติบโตและมีความนุ่มของเนื้อสูงที่สุด สำหรับโคลูกผสมพื้นเมือง x ชาร์โรเลส์จะมีประสิทธิภาพด้านคุณภาพซากมากที่สุด
บทคัดย่อ (EN): The purpose of this research was to compare fattening performance, carcass and meat quality of Charolais, Black Angus and Brahman crossbred with Thai native cattle. For selecting breed appropriate for fattening in Thailand and alternative purpose of substitute imported beef high quality. This experiment was conducted by using steer of Thai native × Charolais (N×C), Thai native × Black Angus (N×A) and Thai native × Brahman (N×B) cattle fattening 8-10 month, 8 heads per group. The average initial age was 2 year 6 months and 2 year 8 months, respectively. They were fed concentrate grass and water ad libitum and recorded fattening performance. At the average weight of 550-700 kg, they were slaughtered and dressed for comparison of carcass quality between breeds. The results revealed that fattening period of N×B and N×C cattle significantly longer than N×A (P<0.001) cattle. For weight gain found that N×C was the highest significantly and following by N×A and N×B. Furthermore, average daily grain (ADG) found that N×A was the highest following by N×C (no significant difference) N×B (P<0.001) respectively. Moreover, carcass traits of three crossbred cattle found that live weight, hot carcass weight, cold carcass weight and dressing percentage of N×B was the least (P<0.001). For meat quality, fat percentage and sensory evaluation had no significant difference between N×A and N×C cattle. The results of water holding capacity found that drip loss of N×A cattle was the highest (P=0.036). In addition to the shear force value of N×A was the least (P<0.001) following by N×C and N×B cattle. The conclusion of this study both of taurus crossbred had not differ of marbling percentage and sensory evaluation but N×A was the highest growth performance and tenderness. Moreover, N×C was the best potential carcass quality.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: สมรรถภาพการขุน(Fattening performance) คุณภาพซาก(carcass quality) คุณภาพเนื้อ(meat quality) ไขมันแทรกในกล้ามเนื้อ(marbling) โคลูกผสมพื้นเมือง(Thai native crossbred cattle)
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปรียบเทียบสมรรถภาพการขุน คุณภาพซาก และเนื้อของโคลูกผสมระหว่างพันธุ์พื้นเมืองกับชาร์โรเลส์ แบล็คแองกัส และบราห์มัน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2560
ผลการทดลองขุนโคเนื้อ การศึกษาเปรียบเทียบน้ำหนักเริ่มต้นและน้ำหนักสิ้นสุดการขุนที่ต่างกันของโคนม เพศผู้ต่อสมรรถนะการผลิตและคุณภาพซาก อิทธิพลสนิปจีโนไทป์ของยีนคาลเปน และคาลปาสตาตินต่อลักษณะความนุ่มของเนื้อในโคลูกผสมแองกัส 50 % (Thai-black) การศึกษาลักษณะโคลูกผสมชาร์โรเลส์อเมริกันบราห์มัน 50% ที่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก ความเป็นไปได้ในการใช้อาหารข้นขุนโคของเกษตรกรรายย่อย ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อน้ำหนักหย่านมลูกโคบราห์มันในหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ การทดสอบสมรรถภาพการเจริญเติบโตของโคเพศเมียอเมริกันบราห์มัน รุ่นที่ 6 ความสัมพันธ์ระหว่างสนิปของยีนเลปตินกับคุณภาพซากในโคเนื้อลูกผสมแองกัส x พื้นเมือง 50% (ไทย-แบล็ค F1) ส่วนไม่ใช่ซากและส่วนเหลือทิ้งของโคขุน การศึกษารูปแบบการเลี้ยงไก่งวงต่อคุณภาพซาก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก