สืบค้นงานวิจัย
ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา และแบคทีเรียละลายฟอสเฟตต่อการเจริญเติบโตของแก่นตะวัน
โสภณ บุญลือ - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา และแบคทีเรียละลายฟอสเฟตต่อการเจริญเติบโตของแก่นตะวัน
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of arbuscular mycorrhizal fungi and phosphate solubilizing bacteria on the growth of Jerusalem Artichoke
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: โสภณ บุญลือ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sophon Boonlue
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทคัดย่อ: แก่นตะวันจัดเป็นพืชหัว ซึ่งนิยมรับประทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งนี้เนื่องจากหัวแก่น ตะวันมีปริมาณอินนูสินในปริมาณสูง การเพาะปลูกแก่นตะวันในปัจจุบัน นิยมใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (15-15-15) เพื่อการเพิ่มผลผลิตพืช ยังไม่มีรายงาการใช้ปุ๋ยชีวภาพเพื่อการส่งเสริมการเจริญเติบโต และการเพิ่มผลผลิตของแก่นตะวันมาก่อน ดังนั้นงานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยต่อเนื่องในปีสุดท้ายโตยมี วัตถุประสงค์เพื่อผลิตกล้าเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา (Arbusular mycorrhizal fungi; AMF) และแบคที่เรียละลายฟอสเฟต (Phosphate solubilizing bacteria; PSB) ในระดับขยายขนาดและ ตรวจสอบผลของการใช้เชื้อรา AMF ร่วมกับแบคที่เรียส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช (PSB, Rhizosphere bacteria (Rh) และ Endophytic bacteria (En)) ในการผลิตแก่นตะวันในสภาพ แปลงปลูกทดลอง กล้าเชื้อรา AMFและแบคที่เรียละลายฟอสเฟตที่ใช้ในงานวิจัยนี้คือ Glomus sp.1 KKU-Wh (G) และ Klevsiella varicola UDJA102x89-9 (KV) ตามลำดับ ดำเนินการเตรียมกล้ำา เชื้อรา AMF เริ่มต้นด้วยการเพิ่มปริมาณสปอร์ในกระถาง (pot culture) โตยใช้ข้าวโพดเป็นพืชอาศัย และตรวจสอบชนิตของวัสดุปลูกที่เหมาะสมต่อการเพิ่มปริมาณสปอร์เชื้อรา AMF ผลการทตลอง พบว่า ดินผสมเวอร์มิคูไลด์ (vermiculite) ในอัตราส่วน 1:1 (v/v) เป็นวัสตุปลูกพืชที่เหมาะสมต่อการ เพิ่มปริมาณสปอร์ของเชื้อรา AMF และทำให้มีความหนาแน่นของการเข้าอยู่อาศัยในรากพืชสูงคือ 9.89 สปอร์ต่อกรัม และ 78.37 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ จากนั้นนำวัสดุปลูกนี้ไปใช้สำหรับการผลิต กล้าเชื้อราในระตับขยายขนาด พบว่าสามารถเพิ่มปริมาณสปอร์ได้ 16 สปอร์ต่อติ๊น 1 กรัม และมี ความหนาแน่นของการเข้าอยู่อาศัยของเชื้อรา AMF นระดับ 90เปอร์เซ็นต์ สำหรับการคัดเลือก อาหารเลี้ยงเชื้อที่มีต้นทุนต่ำ และศึกษาสภาวะที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเชื้อแบคทีเรีย PSB เพื่อ ผลิตเป็นหัวเชื้อในระดับขยายขนาด พบว่าอาหารเลี้ยงเชื้อตันทุนต่ำที่เหมาะสมต่อการเจริญของ แบคที่เรีย คือ อาหารเหลวกากน้ำตาล 5 เปอร์เซ็นต์ สภาวะที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส บ่มเขย่าที่ 250 รอบต่อนาที ระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงนาน 32 ชั่วโมง เมื่อเลี้ยง เชื้อในอาหารเหลวกากน้ำตาล 5 เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีคุณสมบัติในการละลายฟอสเฟตได้โดยมีโชนใส เกิดขึ้นบนอาหารเลี้ยงเชื้อ Pikovskayas agar และสามารถละลายฟอสเฟตได้ในปริมาณสูงสุด 68.94 k9/ml และยังพบว่าอาหารเลี้ยงเชื้อมีสภาพความเป็นกรดเพิ่มสูงขึ้นเมื่อมีปริมาณความเข้มขันของ ฟอสเฟตมากขึ้น นอกจากนี้ เชื้อแบคที่เรีย PSB ยังสามารถผลิตกรดอินทรีย์ใด้หลายชนิด และมี ปริมาณสูงในกรตอินทรีย์บางชนิด ได้แก่ oxalic acid (3.03 มg/ml),gluconic acid (27.66 Hg/ml), lactic acid (42.61 ug/ml) และ acetic acid (4.97 J9/ml) และยังพบว่าแบคที่เรีย PSB ไอโซเลต UDJA102x89-9 สามารถผลิตฮอร์โมนพืชชนิต Indole-3-acetic acid ได้ในปริมาณ 5.5 -9/ml เมื่อนำจุสินทรีย์ส่งสริมการเจริญเติบโตของพืช 4 ชนิดมาใช้ในการผลิตแก่นตะวันในสภาพ แปลงปลูกทตลองเป็นเวลานาน 120 วัน พบว่า การปลูกพืชร่วมกับจุสินทรีย์เหล่านี้ ไม่สามารถ ส่งสริมการเจริญเติบโตของพืชบางด้าน คือ ความเขียวของใบ และจำนวนหัวต่อต้น ซึ่งทำให้มีค่าต่ำ กว่าพืชที่ไม่ได้ปลูกเชื้อ (ชุดควบคุม) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แตในส่วนของความสูง พื้นที่ใบ น้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งของใบและลำต้นของแก่นตะวัน สามารถตอบสนองต่อการส่งเสริมการ เจริญของจุสินทรีย์ได้ และมีค่สูงกว่าชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในส่วนของผลผลิต ( yield component ลินทรีย์ยังสามารถส่งเสริมให้น้ำหนักสดของหัว น้ำหนักสดของหัวต่อไร่ ปริมาณอินนู สินในหัว และดัชนีการเก็บเกี่ยว (Harvest index) มีค่สูงกว่าชุดควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และนอกจากนี้การปลูกแก่นตะวันร่วมกับจุสินทรีย์ส่งเสริมการเจริญนั้นยังคงมีปริมาณของสปอร์และ การเข้าอยู่อาศัยของเชื้อรา AMF และมีจำนวนแบคทีเรีย PSB ในดินบริเวณรอบรากและผิวรากพืช สูงกว่าชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
บทคัดย่อ (EN): Jerusalem artichoke is a root vegetable which consumes as healthy food. Because of there are high concentration of innulin accumulated in the root. For cultivation of Jerusalem artichoke, only chemical fertilizer (15-15-15) have been using. No previous reports have been conducted on application of biofertilizer for enhancing growth promotion and production of Jerusalem artichoke. Therefore, this final research project aims to produce Arbuscular mycorrhizal fungi (AMF) and phosphate solubilizing bacteria (PSB) in large scale, and investigate the effect of AMF and plant growth promoting bacteria (PSB, Rhizosphere bacteria (Rh), and Endophytic bacteria (En)) on the growth and production of Jerusalem artichoke in field trial. Glomus sp.1 KKU-Wh (G) and Klevsiella variicola UDJA102x89-9 (KV) were used as AMF and PSB inoculums in this study, respectively. The AMF inoculum starter was multiplied by pot culture technique using maize as host plant, and the suitable substrate of plantation was investigated. The results found that soil mixed with vermiculite in the ratio of 1:1 (v/v) was found to be the best substrate for enhancing spore number and percentage of root colonization of AMF which obtained 9.89 spore/ g soil and 78.37%, respectively. Thereafter, this substrate was subjected to use for multiplication of spore in pot inoculum production. As a result of a total spore of 16 spore/ g soil and 90% of root colonization were obtained. For large scale of PSB inoculums production, low-cost medium and optimizing condition were investigated. The results revealed that 5% molasses containing medium was to be the best medium for enhancing cell concentration PSB when cultured at 30?C under shaking at 250 rpm for 32 hrs. In addition, bacterial cells cultured in this medium still had ability of phosphate solubilizing activity which found a clear zone surrounding of colony on Pikovskaya, s agar and gave rise solubilized phosphate at the maximum concentration of 68.94 ?g/ml. Additionally, the results showed that the pH in cultured medium was decreased when inorganic phosphorus was increased. ForHPLC analysis organic acid produced from PSB, the results revealed that Klevsiella variicola UDJA102x89-9 produced multiple type of organic acid with various different concentration including oxalic acid (3.03 ?g/ml), gluconic acid (27.66 ?g/ml), lactic acid (42.61 ?g/ml) and acetic acid (4.97 ?g/ml). Furthermore, the isolate UDJA102x89- 9 could produce Indole-3-acetic acid at concentration of 5.5 ?g/ml. For investigation of Jerusalem artichoke production in field trial for 120 days by inoculation with 4 species of plant growth promoting microorganisms, the result revealed that some plant growth parameters including chlorophyll content (SPAD) and number of tubers per plant could not be promoted by inoculated with those microorganisms which were significantly lower than uninoculated plant (control). Whereas, plant growth promoting microorganism response well to promote other plant growth parameters including height, leave area, fresh and dry weight of leave and shoot which had significantly higher than non-inoculated control. In case of plant yield component, the results showed that plant inoculated with plant growth promoting microorganisms had significantly value of tubers fresh weight, inulin contents and Harvest index higher than those from the control. Additionally, the results exhibited that combination of plant growth promoting microorganism inoculated treatment had significantly value of total spores number, root colonization of AMF, and density of PSB in rhizosphere and rhizoplane higher than those from uninoculated treatments (control).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: แก่นตะวัน
คำสำคัญ (EN): Jerusalem Artichoke
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

โสภณ บุญลือ. "ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา และแบคทีเรียละลายฟอสเฟตต่อการเจริญเติบโตของแก่นตะวันEffect of arbuscular mycorrhizal fungi and phosphate solubilizing bacteria on the growth of Jerusalem Artichoke". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2558

โสภณ บุญลือ. "ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา และแบคทีเรียละลายฟอสเฟตต่อการเจริญเติบโตของแก่นตะวันEffect of arbuscular mycorrhizal fungi and phosphate solubilizing bacteria on the growth of Jerusalem Artichoke". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา และแบคทีเรียละลายฟอสเฟตต่อการเจริญเติบโตของแก่นตะวัน
โสภณ บุญลือ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2558
ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา ต่อการเจริญเติบโตของอ้อย การส่งเสริมการเจริญเติบโตของอ้อยด้วยแบคทีเรียละลายฟอสเฟต ในสภาพเรือนทดลอง ประสิทธิภาพของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซาต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโต และผลผลิตอ้อยตอในสภาพแปลงทดลอง ราที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมการย่อยสลายแป้งและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรจากระบบนิเวศวิทยาป่าอุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา ต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตไม้ผล ผลของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา ต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตปาล์มน้ำมัน ผลของการเก็บรักษาไรแดงต่อการเจริญเติบโตของปลา ศึกษาประสิทธิภาพของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาต่อการดูดใช้ธาตุอาหารและ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของไม้ผลในสภาพโรงเรือนกระจก อิทธิพลของปุ๋ยฟอสฟอรัสต่อการพึ่งพาเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพริก การผลิตแก่นตะวันด้วยจุลินทรีย์ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ทางชีวภาพในดอกแก่นตะวัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair