สืบค้นงานวิจัย
อิทธิพลของแหล่งทักษะภายในตนเองต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยส่งผ่านการปฎิบัติตนในการควบคุมเบาหวานของผู้เป็
Radjai Pairour - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: อิทธิพลของแหล่งทักษะภายในตนเองต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยส่งผ่านการปฎิบัติตนในการควบคุมเบาหวานของผู้เป็
ชื่อเรื่อง (EN): The influence of learned resourcefulness on fasting plasma glucose level by mediating effect of diabetic controlled behaviors of diabetic type 2 persons
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Radjai Pairour
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาอิทธิพลของแหล่งทักษะภายในตนเอง ต่อระดับน้ำตาล ในเลือด โดยส่งผลผ่านการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวานของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มตัวอย่างคือผู้เป็น เบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับการตรวจที่คลินิกเบาหวานโรงพยาบาลวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม 2546 จำนวน 84 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ พรรณนาและการวิเคราะห์แบบเชิงเส้น และการวิเคราะห์ถดถอยแบบเส้นตรงพหุคูณ ตามขั้นตอนของการทดสอบ Mediating function ของ Lindley & Walker (1993) ผลการศึกษาพบว่าผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (81%) มีระยะเวลาเป็นโรค < 5 ปี (60.7%) ส่วนใหญ่มีภาวะแทรกซ้อนหรือโรคร่วม (66.7%) และโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่พบมากที่สุด (57.1 %) กลุ่มตัวอย่างมีแหล่งทักษะภายในตนเองโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (Mean =121.39,S.D= 17.4) มีค่า เฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดใกล้เคียงปกติกับค่าที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ (Mean = 142. 23, S.D = 28. 64) มีค่าเฉลี่ยการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวานโดยรวมอยู่ในระดับค่อนข้างดี (Mean = 2.99, S.D = 0.30) และ พบว่าแหล่งทักษะภายในตนเองมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งทางตรง (F(2,84) =14.32, p< .01) และมีผลทางอ้อม โดยส่งผ่านการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวาน (F(2,84) , p<.05) จากผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่าพยาบาลควรให้ความสำคัญในการประเมินทักษะภายในตนเอง รวมทั้ง หาแนวทางพัฒนาโปรแกรมโดยอาจเป็นการสอนหรือฝึกเพื่อส่งเสริมแหล่งทักษะภายในตนเองให้กับผู้เป็น เบาหวานชนิดที่ 2 เพื่อสนับสนุนให้มีการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวานและมีระดับน้ำตาลในเลือดที่ดีขึ้นด้วย
บทคัดย่อ (EN): This descriptive correlational study aimed at examining the influences of learned resourcefulness on fasting plasma glucose through diabetic controlled behaviors among diabetes mellitus type 2 individuals. Eighty-four diabetes mellitus type 2 individuals voluntarily participated in this study. They were recruited from the Diabetic Clinic, Out-patient Department of Wang-Num-Yen Hospital at Sa-Kaew Province. The data were collected from June to July 2003. The data were analyzed by using descriptive statistics and path analysis. To do path analysis, Lindley & Walker 's causal model testing was used through performing a set of multiple regression. The majority of the samples were female (81%) with the mean age of 56.9 years. Sixty-one percent of them have been diagnosed as a diabetes mellitus type 2 for less than 5 years. Fifty-seven percent out of 67 % of those who reported they have health complication or cormobidity along with diabetes mellitus had hypertension. The means score of learned resourcefulness was marginally moderate (Mean = 121.39, S.D = 17.4), fasting plasma glucose was marginally above controllable level (Mean =142.23, S.D =28.64), and diabetic controlled behaviors was nearly at a good level of practice (Mean = 2.99, S.D =0.30). The findings indicated that learned resourcefulness has both a direct effect on fasting plasma glucose (F (2,84)=14.32, p<. 01) and partially indirect effect on fasting plasma glucose trough diabetic controlled behaviors (F (2,84)=17.25, p<.05). The findings suggest that nurses should primarily assess an individual personal learned skill. Additionally, nurses should conduct a program for promoting resourcefulness skills through teaching or training skill program for Diabetic type 2 persons to improve diabetic controlled behaviors and FPG.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1492&obj_id=970
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): prevention & control
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาอิทธิพลของแหล่งทักษะภายในตนเอง ต่อระดับน้ำตาล ในเลือด โดยส่งผลผ่านการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวานของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มตัวอย่างคือผู้เป็น เบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับการตรวจที่คลินิกเบาหวานโรงพยาบาลวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม 2546 จำนวน 84 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ พรรณนาและการวิเคราะห์แบบเชิงเส้น และการวิเคราะห์ถดถอยแบบเส้นตรงพหุคูณ ตามขั้นตอนของการทดสอบ Mediating function ของ Lindley & Walker (1993) ผลการศึกษาพบว่าผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (81%) มีระยะเวลาเป็นโรค < 5 ปี (60.7%) ส่วนใหญ่มีภาวะแทรกซ้อนหรือโรคร่วม (66.7%) และโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่พบมากที่สุด (57.1 %) กลุ่มตัวอย่างมีแหล่งทักษะภายในตนเองโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (Mean =121.39,S.D= 17.4) มีค่า เฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดใกล้เคียงปกติกับค่าที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ (Mean = 142. 23, S.D = 28. 64) มีค่าเฉลี่ยการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวานโดยรวมอยู่ในระดับค่อนข้างดี (Mean = 2.99, S.D = 0.30) และ พบว่าแหล่งทักษะภายในตนเองมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งทางตรง (F(2,84) =14.32, p< .01) และมีผลทางอ้อม โดยส่งผ่านการปฏิบัติตนในการควบคุมเบาหวาน (F(2,84) , p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
อิทธิพลของแหล่งทักษะภายในตนเองต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยส่งผ่านการปฎิบัติตนในการควบคุมเบาหวานของผู้เป็
Radjai Pairour
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
การทบทวนอย่างเป็นระบบและอภิวิเคราะห์ของการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองต่อการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. ประสิทธิผลของการทานใบพญาวานรชนิดอบแห้งต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงThe Efficacy of Pseuderanthemum Palatiferum radlk leaves powder on blood sugar level in prediabetes ดัชนีน้ำตาลของขนมเทียนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กับผลดีที่เกิดขึ้นต่อระดับน้ำตาล, ไขมันและคว ผลของการลดความเครียดด้วยการฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อแบบแอคทีฟโปรเกรสซีฟต่อระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน อิทธิพลของความสมบูรณ์ภายในต้นแม่ การตอบสนองของระดับน้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์และอินซูลินในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 หลังกินผลไม้ที่มีฟรุคสูงก่อนและหลังมื้ออา ฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดและกลไกการออกฤทธิ์ของสารสกัดจากครอบฟันสี ผลของการเอื้ออำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองทางด้านอาหารแก่ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ละลายตน ต่อการเ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก