สืบค้นงานวิจัย
การทดสอบความไวต่อยาต้านเชื้อราของเชื้อคริปโตคอคคัสนีโอฟอร์แมนและแคนดิดาสปีชีส์ที่แยกจากผู้ป่วยด้วยวิธีอีเทสและดีสดีฟฟิวชั่น
Pakdee Watanatraibhob - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การทดสอบความไวต่อยาต้านเชื้อราของเชื้อคริปโตคอคคัสนีโอฟอร์แมนและแคนดิดาสปีชีส์ที่แยกจากผู้ป่วยด้วยวิธีอีเทสและดีสดีฟฟิวชั่น
ชื่อเรื่อง (EN): Antifungal susceptibility testing of Cryptococcus neoformans and Candida SPP. isolates using etest and disk diffusion method
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pakdee Watanatraibhob
บทคัดย่อ: g/ml จากการทดสอบทางสถิติไม่พบความสัมพันธ์ระหว่าง amphotericin B MICs กับ clinical outcome ของคนไข้ที่ติดเชื้อ C. neoformans จำนวน 21 รายที่ได้รับการรักษา ด้วยยาแอมโฟเทอริซินบี การหาค่า MIC และ inhibition zone ของยาแอมโฟเทอริซินบีและยาฟลูโคนาโซลที่มีต่อเชื้อ Candida spp. จำนวน 15 สายพันธุ์ซึ่งเพาะแยกเชื้อได้จากเลือดโดยใช้วิธี Etest และ disk diffusion test พบเชื้อ Candida spp. จำนวน 4 สายพันธุ์ (ร้อยละ 23) ดื้อต่อยาฟลูโคนาโซล พบเชื้อเพียง 2 สาย พันธุ์ (ร้อยละ 12) ที่มีความไวปานกลางต่อยาฟลูโคนาโซล และเชื้อจำนวน 11 สายพันธุ์ (ร้อยละ 65) มีความ ไวต่อยาฟลูโคนาโซล นอกจากนี้ยังพบว่า เชื้อ Candida spp. ทุกสายพันธุ์มีความไวต่อยาแอมโฟเทอริซินบี จากการทดสอบทางสถิติโดยใช้วิธี regression analysis พบความสัมพันธ์ระหว่างค่า MIC จากการทำ Etest และความกว้างของ inhibition zone จากการทำ disk diffusion test ของยาแอมโฟ- เทอริซินบีและฟลูโคนาโซลอย่างมีนัยสำคัญ ผลการทดสอบทางสถิติไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้ที่ติดเชื้อ Candida ที่มีค่า amphotericin B MICs สูงกับ microbiological failure ของคนไข้ที่ได้รับการ รักษาด้วยยาแอมโฟเทอริซินบีอย่างมีนัยสำคัญ (P = 0.667 และ 0.200)
บทคัดย่อ (EN): g/ml. There was no correlation between amphotericin B MICs and the clinical outcome of 21 cryptococcosis patients treated with amphotericin B. Two of 7 strains of C. neoformans, isolated from patients who had previously received fluconazole as a suppressive therapy, were resistant to fluconazole. None of the 35 isolates obtained from patients who did not receive fluconazole suppressive therapy were fluconazole resistant. Statistical analysis showed a significant correlation between patients receiving fluconazole prophylactic therapy and infection with fluconazole resistant strains (P <0.05). In addition, patients infected with cryptococcal strains having dose dependent susceptibility to fluconazole did not show an increase in the occurrence of relapse/reinfection relative to patients infected with fluconazole sensitive strains (P = 0.299). Etest and a disk diffusion method were employed to measure the MICs and inhibition zones of amphotericin B and fluconazole in 17 strains of Candida isolates from blood. All clinical isolates of Candida spp. were susceptible to amphotericin B. Sixty-five percent (11/17) of the Candida isolates were susceptible to fluconazole, 12% (2/17) were S-DD, and 23% (4/17) were resistant to fluconazole. Regression analyses showed a correlation between Etest MICs of fluconazole and amphotericin B and inhibition zones to fluconazole and amphotericin B. Further analyses revealed that infection with Candida isolates that had high amphotericin B MICs was not associated with microbiological failure in patients treated with amphotericin B (P = 0.667 and 0.200).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2360&obj_id=1239
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Diffusion
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: g/ml จากการทดสอบทางสถิติไม่พบความสัมพันธ์ระหว่าง amphotericin B MICs กับ clinical outcome ของคนไข้ที่ติดเชื้อ C. neoformans จำนวน 21 รายที่ได้รับการรักษา ด้วยยาแอมโฟเทอริซินบี การหาค่า MIC และ inhibition zone ของยาแอมโฟเทอริซินบีและยาฟลูโคนาโซลที่มีต่อเชื้อ Candida spp. จำนวน 15 สายพันธุ์ซึ่งเพาะแยกเชื้อได้จากเลือดโดยใช้วิธี Etest และ disk diffusion test พบเชื้อ Candida spp. จำนวน 4 สายพันธุ์ (ร้อยละ 23) ดื้อต่อยาฟลูโคนาโซล พบเชื้อเพียง 2 สาย พันธุ์ (ร้อยละ 12) ที่มีความไวปานกลางต่อยาฟลูโคนาโซล และเชื้อจำนวน 11 สายพันธุ์ (ร้อยละ 65) มีความ ไวต่อยาฟลูโคนาโซล นอกจากนี้ยังพบว่า เชื้อ Candida spp. ทุกสายพันธุ์มีความไวต่อยาแอมโฟเทอริซินบี จากการทดสอบทางสถิติโดยใช้วิธี regression analysis พบความสัมพันธ์ระหว่างค่า MIC จากการทำ Etest และความกว้างของ inhibition zone จากการทำ disk diffusion test ของยาแอมโฟ- เทอริซินบีและฟลูโคนาโซลอย่างมีนัยสำคัญ ผลการทดสอบทางสถิติไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้ที่ติดเชื้อ Candida ที่มีค่า amphotericin B MICs สูงกับ microbiological failure ของคนไข้ที่ได้รับการ รักษาด้วยยาแอมโฟเทอริซินบีอย่างมีนัยสำคัญ (P = 0.667 และ 0.200)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การทดสอบความไวต่อยาต้านเชื้อราของเชื้อคริปโตคอคคัสนีโอฟอร์แมนและแคนดิดาสปีชีส์ที่แยกจากผู้ป่วยด้วยวิธีอีเทสและดีสดีฟฟิวชั่น
Pakdee Watanatraibhob
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
สมบัติต้านเชื้อราของสารสกัดจากพืชบางชนิดต่อโรคที่เกิดจากเชื้อราในกุหลาบและเบญจมาศ การเปรียบเทียบความไวของ PCR วิธีต่าง ๆ ในการแยกสายพันธุ์ของเชื้อจิอาร์เดียดูโอดีนาลิส ลักษณะทางฟีโนไทป์ของเชื้อ Burkholderia thailandensis ก่อนและหลังจากติดเชื้อ bacteriophage ที่แยกได้จากเชื้อ Burkholder สเตรปโตคอคคัสนิวโมนิอี : การกระจายของซีโรทัยป์, ความไวต่อยาต้านจุลชีพและการกลายพันธุ์ของยีนที่ทำให้เกิดการดื้อย ฤทธิ์ต้านเชื้อราก่อโรคพืชในมะเขือเทศของเชื้อเอนโดไฟติกสเตรปโทไมซิสสายพันธุ์ P4 องค์ประกอบทางเคมีของเชื้อรา Aigialus parvus BCC 5311 และจากเชื้อราสายพันธุ์ BCC 2629 การดื้อต่อยาต้านจุลชีพของเชื้อเอสเชอริเชีย โคไล ที่เพาะแยกได้จากฟาร์มไก่เนื้อทีส่เลี้ยงเป็นการค้าในบอกอร์, อินโดนีเซีย การศึกษาและวิเคราะห์การแยกไฮโดรเจนด้วยวิธีอิเล็กโทรไลซิสแบบแยกเซลล์ วิธีไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโตกราฟีเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณของยาฆ่าเชื้อรากลุ่มอิมิดาโซลเมื่อมี การเก็บรวบรวมและการแยกราเมือกบางชนิด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก